เศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วตลอดระยะเวลา 40 ปี ทำให้จีนกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก และช่วยสร้างชนชั้นกลางนับล้านครัวเรือน ด้วยมาตรฐานการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นและการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ การดื่มไวน์จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ชาวจีนที่มีฐานะดีขึ้น จากรายงานวิจัยเรื่องการนำเข้าไวน์ของจีนในปี 2562-2566 พบว่า จีนนำเข้าไวน์เป็นมูลค่า 3.91 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 6.50% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ข้อมูลจาก VINEXPO ชี้ว่า จีนจะกลายเป็นประเทศที่บริโภคไวน์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกภายในปี 2566 โดยคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ตลาดไวน์ที่เฟื่องฟูของจีนจึงเป็นที่จับตามองของผู้ผลิตไวน์ชั้นนำ เช่นเดียวกับบรรดาพ่อค้าฉลาดแกมโกง อย่างผู้ผลิตไวน์ปลอมและของเลียนแบบ ซึ่งเมื่อดูจากลักษณะของการปลอมไวน์แล้วนั้น บรรดาผู้ผลิตไวน์ รวมถึงผู้จัดจำหน่ายก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อต่อต้านการปลอมแปลงและปราบปรามการขายไวน์ปลอม แต่ก็แทบจะไม่ได้ผล ดังนั้น เพื่อจัดการกับปัญหานี้ บริษัท D.I.G. (Shanghai Waigaoqiao Direct Imported Goods Co., Ltd.) ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่ของจีน จึงได้ทำงานร่วมกับ VeChain แพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะระดับองค์กร และเปิดตัว Wine Traceability Platform (หรือ WTP) ในเดือนมิถุนายน 2561
แพลตฟอร์ม WTP พัฒนาขึ้นจาก VeChain ToolChain ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม BaaS แบบวันสต็อปสุดล้ำที่ออกแบบโดย VeChain และใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบล็อกเชน อุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์มือถือ เพื่อติดตามวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์นับตั้งแต่ออกจากผู้ผลิตไวน์ไปจนถึงผู้จัดจำหน่าย โดยจนถึงขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ไวน์ได้ถูกนำเข้าสู่แพลตฟอร์มนี้รวมกว่า 20 รายการแล้ว ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของผลิตภัณฑ์ไวน์ที่นำเข้าโดยบริษัท D.I.G. และจากข้อมูลสถิติของ D.I.G. พบว่า ยอดขายไวน์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% หลังจากใช้โซลูชั่นดังกล่าว ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค
ในเดือนกรกฎาคม 2562 แพลตฟอร์ม WTP ได้เริ่มดำเนินการในเฟส 2 ด้วยไวน์ Penfolds Bin 407 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่หนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดของออสเตรเลียอย่าง Penfolds ได้อาศัยพลังแห่งบล็อกเชนในการยกระดับการต่อต้านการปลอมแปลงและการตรวจสอบย้อนกลับ Penfolds ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2387 และมี Great Wine เป็นผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัท โดย Penfolds ได้รับคำชมและรางวัลมาแล้วมากมาย อาทิ 1955 Grange ติด 12 อันดับแรกในการจัดอันดับสุดยอดไวน์แห่งศตวรรษที่ 20 โดย Wine Spectator และ 2008 Grange ได้รับคะแนนเต็ม 100 จาก Wine Spectator และ Robert Parker’s Wine Advocate
สำหรับในกรณีของ Bin 407 นั้น ไวน์แต่ละขวดจะถูกติดฉลาก N.F.C. ที่มีการเข้ารหัส ซึ่งฉลากเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อผลิตภัณฑ์ไวน์โดยเฉพาะ ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลของไวน์แต่ขวดด้วยการอ่านชิป N.F.C. โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้และเก็บไว้อยู่บนบล็อกเชน เช่น ข้อมูลแหล่งที่มาซึ่งได้รับการตรวจพิสูจน์จากองค์กรตรวจสอบอิสระ อาทิ D.N.V. G.L. แล้ว ด้วยวิธีการนี้ ผู้ผลิตไวน์จึงสามารถปกป้องผลิตภัณฑ์จากการถูกปลอมแปลง ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจผลิตภัณฑ์ในเชิงลึกมากขึ้น และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ได้
ไวน์ Penfolds 407 ที่มี VeChainThor Blockchain เป็นขุมพลัง วางจำหน่ายแล้วที่หน้าร้าน 3 แห่ง ดังนี้
Waigaoqiao International Alcohol Exhibition & Trading Center:
No.77, Fute West 3rd Road, China (Shanghai) Pilot Free Trade Zone
D.I.G. Flagship Store:
No. 460, Fute North Road, China (Shanghai) Pilot Free Trade Zone
Sen Lan Shang Du Store:
No. 2988, Zhangyang North Road, Pudong New District
เกี่ยวกับ VeChain
VeChain เปิดตัวในปี 2558 เพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีบล็อกเชนกับโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการวางโครงสร้างการบริหารครบวงจร โมเดลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการบูรณาการ IoT ทั้งนี้ VeChain เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะในโลกแห่งความเป็นจริง และมีการดำเนินงานทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ลักเซมเบิร์ก โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ปารีส ฮ่องกง และซานฟรานซิสโก
ความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง PwC และ D.N.V. GL ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรชั้นนำมากมายในหลายหลากอุตสาหกรรม อาทิ Walmart China, BMW, B.Y.D. Auto, Haier, Bright Food, D.I.G, DB Schenker และ PICC
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VeChain สามารถติดตามได้ทางทวิตเตอร์ @vechainofficial หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการ www.vechain.com
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/956550/vechain.jpg
โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/738221/VeChain_Logo.jpg