CropIn Technology Solutions Pvt. Ltd. บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการเกษตร ได้ระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 5.8 ร้อยล้านรูปี (8 ล้านดอลลาร์) จาก Chiratae Ventures (ชื่อเดิม IDG Ventures India) และ Bill & Melinda Gates Foundation Strategic Investment Fund (ลอนดอนและซีแอตเทิล) โดยเม็ดเงินดังกล่าวจะสนับสนุนการขยายแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ‘SmartFarm’ ของ CropIn ในอินเดียและทั่วโลก จากระดับ 3 ล้านเอเคอร์ ครอบคลุมเกษตรกร 2 ล้านคน สู่ระดับ 10 ล้านเอเคอร์ ครอบคลุมเกษตรกร 7 ล้านคน โดยเงินทุนอัดฉีดและชุดข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนี้ จะช่วยผลักดันให้บริษัทเดินหน้าพัฒนา ‘SmartRisk’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อการตรวจหาและคาดการณ์ผลผลิตในแปลงเพาะปลูกได้ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/787489/CropIn_Founders.jpg )
CropIn มีสำนักงานใหญ่ในเมืองบังคาลอร์ และมีลูกค้ากว่า 180 รายใน 29 ประเทศ บริษัทได้เปิดทางให้ภาคธุรกิจการเกษตรได้นำเอาแนวทาง data-driven มาใช้ในการเพาะปลูก โดยอาศัยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบกราวด์-ทู-คลาวด์ ส่งผลให้ธุรกิจการเกษตรเหล่านั้นสามารถ “ปลูกพืชผลได้เพิ่มขึ้นด้วยต้นทุนที่น้อยลง” พร้อมผลักดันโครงการริเริ่มด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การสืบทวนแหล่งที่มา ความสามารถในการคาดการณ์ ความยั่งยืน และการปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยลูกค้าของ CropIn ประกอบด้วยธุรกิจการเกษตรรายใหญ่ระดับโลกหลายราย รวมถึงธนาคาร องค์กรรัฐ และหน่วยงานด้านการพัฒนา ด้วยแพลตฟอร์มของทางบริษัท CropIn จึงสามารถรองรับบริการด้านการเกษตรแบบดิจิทัลในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2563
ผลิตภัณฑ์แรกเริ่มของบริษัทได้แก่ SmartFarm ซึ่งเป็นโมบายแอปพลิเคชันและเว็บอินเทอร์เฟซสำหรับการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก โดยสามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะสำหรับเจ้าหน้าที่ภาคสนามของธุรกิจการเกษตร เพื่อช่วยในการจัดการพื้นที่การเกษตรระดับแปลงเพาะปลูกในรูปแบบ business-to-business-to-farmer ทั้งนี้ ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกรวบรวมและดูแลโดยพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในแปลงเพาะปลูก และข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกันจะถูกขัดเกลาโดย CropIn เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในฟาร์ม หรือที่เรียกว่าข้อมูลจริงจากภาคสนาม (ground-truth) จากนั้น CropIn จึงนำข้อมูลดังกล่าวไปต่อยอดเพื่อยกระดับการสืบทวนแหล่งที่มาและการติดตามตรวจสอบสถานะลูกค้าผ่านบริการต่าง ๆ ในรูปแบบ software-as-a-service (SaaS)
“การที่จะจัดหาอาหารให้เพียงพอต่อประชากรโลก 9.7 พันล้านคนในปี 2593 นั้น ประสิทธิภาพด้านการเกษตรจะต้องพัฒนาขึ้น 35%-70% ซึ่งเทคโนโลยีถือเป็นหัวใจสำคัญ รูปแบบการทำการเกษตรที่ผสมผสานและการถือครองที่ดินขนาดเล็กในอินเดียจะเป็นชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่ป้อนให้กับโมเดลของเรา นอกจากนี้ ในฐานะบริษัท SaaS ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการขยายฐานลูกค้า โดยขณะนี้เรากำลังรุกขยายตลาดทั่วทั้งเอเชีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา และในยุโรปบางตลาด เนื่องจากข้อมูลจริงจากภาคสนามที่ได้มาจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เหล่านี้จะหลั่งไหลเข้ามาในแหล่งรวมข้อมูลของเราอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามีข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศการเกษตรทั่วโลก” Krishna Kumar ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ CropIn กล่าว
สำหรับในส่วนแบ็กเอนด์นั้น แหล่งข้อมูลดิบ (data lake) ของ CropIn จะขยายความข้อมูลจริงจากภาคสนามด้วยข้อมูลสภาพอากาศในท้องถิ่น และภาพถ่ายจากดาวเทียมที่มีความละเอียดสูง ทั้งหมดนี้จะเป็นรากฐานให้กับแมชชีนเลิร์นนิง ทั้งนี้ ด้วยการวิเคราะห์และแปลความข้อมูลของพืชผลทางการเกษตร 265 ชนิด พร้อมกับตัวแปรอีกเกือบ 3,500 แบบที่มีอยู่บนแพลตฟอร์มซึ่งครอบคลุมฐานข้อมูลหลายพันล้านจุดที่ยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ CropIn เป็นผู้สร้างทางลัดด้านข้อมูลทางการเกษตรที่จะตรวจหารูปแบบและคาดการณ์ผลผลิตในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงและโอกาสสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบนิเวศทางการเกษตร CropIn จะมอบข้อมูลเชิงลึกแทบจะนาทีต่อนาที เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติงานจริง ให้แก่ผู้แปรรูปพืชผลทางการเกษตร ผู้จัดจำหน่าย ผู้ปล่อยกู้และผู้รับประกัน โดยมี API เป็นตัวเชื่อมต่อ นอกจากนี้อัลกอริทึมของ CropIn ยังสามารถสร้างประสิทธิภาพระดับตำนาน โดยให้ภาพที่ละเอียดคมชัดในทุกพิกเซลทั้งในระดับแปลงเพาะปลูกและในระดับภูมิภาค
“เราเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการเกษตรระดับโลก พร้อมสร้างพันธมิตรกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายราย ซึ่งรวมถึงธุรกิจการเกษตร บริษัทเพาะปลูก บริษัทปล่อยกู้และบริษัทประกัน CropIn มีบทบาทต่อลูกค้าทั่วโลกใน 29 ประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทได้เก็บข้อมูลสำหรับป้อนเข้าสู่แพลตฟอร์ม นอกจากนี้ บริษัทยังมีศักยภาพเต็มเปี่ยมที่จะปฏิวัติวงการเกษตรกรรมโดยใช้เทคโนโลยีและแมชชีนเลิร์นนิง และเราเชื่อว่า Krishna และ Kunal จะเดินหน้าบุกเบิกอุตสาหกรรมนี้ต่อไปในอนาคต” Karan Mohla กรรมการบริหารของ Chiratae Ventures India Advisors กล่าว
ในการลงทุนครั้งนี้ CropIn สามารถระดมทุนได้ 12 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุน ซึ่งรวมถึงบริษัทด้านการลงทุน Beenext จากสิงคโปร์
ที่มา: CropIn Technology