CAT ยกทัพเทคโนโลยี B2D โชว์ศักยภาพในงาน Digital Thailand Big Bang 2018

0
299
image_pdfimage_printPrint

CAT ยกทัพเทคโนโลยีโชว์ศักยภาพเต็มพิกัด ในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 (DTBB 2018) งานแสดงเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมสุดยิ่งใหญ่แห่งปีซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19-23 กันยายน 2561 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ B2D จัด 3 โซนแสดงเทรนด์ธุรกิจทั้ง Big Data, Digital Service และ Digital Park Thailand พร้อมนำนวัตกรรม IoT ที่ใช้งานได้จริงมาให้สัมผัสกันอย่างเต็มที่ ด้านความคืบหน้าในส่วนของ Digital Park Thailand นั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ก่อนนำเรื่องเข้าคณะกรรมการ EEC คาดว่าไม่เกินกุมภาพันธ์ปีหน้าจะได้ผู้สนใจที่จะลงทุนในโครงการฯ ส่วนบริการ Big Data คืบหน้ามีลูกค้าเริ่มใช้งานภายในสิ้นปีนี้
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่า CAT ยกทัพเทคโนโลยีโชว์ศักยภาพความพร้อมของธุรกิจในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ภายใต้คอนเซ็ปต์ B2D ที่จะแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ทางธุรกิจใหม่ที่ CAT กำลังจะก้าวไปและพร้อมที่จะสนับสนุนไทยแลนด์ 4.0 ประกอบด้วย Big Data, Digital Service และ Digital Park Thailand ซึ่งการจัดงานดังกล่าว CAT จับมือกับพันธมิตรกว่า 20 รายเข้าร่วมโชว์เทคโนโลยี มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นนักศึกษาที่อยู่ในระดับปริญญาตรี สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอี โดยคาดหวังว่าการจัดงานครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการต่อยอดนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ภายในงานจะแบ่งเป็น 3 โซนที่มีความเชื่อมโยงกัน แสดงถึงนิวเทรนด์ที่ CAT จะโฟกัสนับจากนี้ โดย 2 โซนแรก Big Data และ Digital Service เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่สอดคล้องต่อเนื่องกันในทิศทางของไทยแลนด์ 4.0 เสริมด้วยโซน Digital Park Thailand ซึ่งจะเป็นพื้นที่เพื่อต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นของคนไทยเอง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ไม่ใช่เป็นเพียงนำเทคโนโลยีของต่างชาติเข้ามาใช้ โดยรูปแบบการนำเสนอในงานนี้ประกอบด้วย
1. โซน Big Data จำลองบรรยากาศคล้ายโรงภาพยนตร์ซึ่งจะนำเสนอสื่อมัลติมีเดียในรูปแบบ วิดีโอและอินโฟกราฟิก แสดงการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้ประโยชน์ Big Data ที่กำลังจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย
2. โซน Digital Service รวบรวมความก้าวหน้าของบริการด้าน IoT (Internet of Things) ที่ CAT ทำอยู่ โดยเน้นความโดดเด่นของบริการ Security Service ที่มาพร้อมระบบ Video Analytics เทคโนโลยีวิเคราะห์ภาพและวิดีโอจากกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากกล้อง CCTVจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเก็บข้อมูลภาพใบหน้าของผู้เข้าร่วมงานเพื่อนำภาพมาวิเคราะห์ข้อมูลตามฟังก์ชั่นที่กำหนดได้ตั้งแต่การจดจำรายละเอียดใบหน้าและข้อมูลเบื้องต้นของบุคคล (Face recognition) การตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนที่ (Motion detection) รวมถึงการตรวจวัดความหนาแน่นของคนในพื้นที่ (Heat map) โดยระบบวิเคราะห์ภาพจากกล้อง CCTVดังกล่าวจะสามารถใช้ร่วมกับกล้อง CCTV ได้หลากหลายมาตรฐานโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซ้ำ ตอบโจทย์ให้กับระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ในสถานที่สาธารณะและที่ชุมชน เช่น สนามบิน สนามกีฬา สถานที่จัดงานอีเวนท์ คอนเสิร์ต การชุมนุมสำคัญต่างๆที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก เพื่อป้องกันเหตุการณ์ก่อการร้าย วางระเบิด การซุ่มยิง ฯลฯ นอกจากนี้ภายในโซน Digital Service ยังจัดให้มีการแสดง Dashboard ของบริการที่ใช้เทคโนโลยี LoRa โดยแสดงข้อมูลการทำงานของอุปกรณ์นวัตกรรม IoT หลากหลายรูปแบบที่เชื่อมต่อผ่านโครงข่าย LoRaWAN ไม่ว่าจะเป็น Smart Meter, Smart Lighting, Smart Logistics, Smart Tourism ให้เห็นเป็นกราฟิกบนจอภาพอย่างชัดเจน
3. โซน Digital Park Thailand นำเสนอความลงตัวของพื้นที่โครงการ Digital Park Thailand เพื่อเป็นศูนย์กลางการลงทุนดิจิทัลขนาดใหญ่ในอนาคต โดยโครงการฯได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนภาคเอกชนที่เข้าร่วมสัมมนา Market Sounding ที่ผ่านมา และล่าสุดอยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้คาดว่าจะได้จัดทำทีโออาร์สำหรับผู้ร่วมลงทุนตามกำหนดเวลาและน่าจะได้ผู้ร่วมลงทุนในโครงการฯ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
พ.อ.สรรพชัย กล่าวถึงความคาดหวังจากการร่วมแสดงเทคโนโลยีในงาน DTBB 2018 ว่าอยากให้จังหวัดต่างๆได้นำเอาเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลเหล่านี้ไปปรับใช้งานจริง โดยเฉพาะการยกระดับเรื่องความปลอดภัยที่ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยระบบวิเคราะห์ภาพที่จะเข้ามาช่วยทำงานร่วมกับกล้อง CCTV อีกทั้งโซลูชันด้านโลจิสติกส์และการดูแลนักท่องเที่ยวที่ทุกจังหวัดจะสามารถนำไปใช้ได้ นอกจากนี้ คือการใช้เทคโนโลยี Big data จะเป็นประโยชน์ต่อทุกหน่วยงานอย่างมาก ซึ่งหลังจาก CAT ได้จัดทำระบบทดสอบวิเคราะห์ข้อมูล Big data sandbox ให้กับหน่วยราชการทั้งหมดมาระยะหนึ่ง ขณะนี้ ได้มีหน่วยงานราชการต่างๆราว 10หน่วยงานเริ่มสนใจศึกษาในด้านเทคนิคและการใช้งานข้อมูล Big data ให้เกิดประโยชน์เป็นรูปธรรม ตลอดจนมีความร่วมมือฝึกอบรมสร้างบุคลากรด้าน Big Data ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ขณะเดียวกันได้ขยายพันธมิตรในการร่วมพัฒนาบริการและแอปพลิเคชันที่หลากหลายบนแพลตฟอร์ม Big data ของ CAT เพื่อรองรับความต้องการของหน่วยงานต่างๆในอนาคต โดยคาดว่าจะมีลูกค้าเริ่มใช้งานภายในสิ้นปีนี้