TOLEDO เป็นการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโครงการแรก ที่ศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาฉีดใต้ผิวหนัง APO-go(R)/MOVAPO(R) (อะโปมอร์ฟีน) ในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่ยังมีปัญหาการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแม้ผ่านการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ โดยผลการศึกษาดังกล่าวได้รับการนำเสนอระหว่างการสัมมนาในหัวข้อ “Emerging Science” ในการประชุมประจำปีของสถาบันประสาทวิทยาแห่งอเมริกา (AAN) ที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการชูประเด็นเรื่องความก้าวหน้าด้านการวิจัยในสาขาประสาทวิทยาศาสตร์
การใช้ยาฉีดใต้ผิวหนัง APO-go(R)/MOVAPO(R) ประสบความสำเร็จทางคลินิกมานานเกือบ 30 ปีแล้วในยุโรป ขณะที่การวิจัยแบบไม่มีกลุ่มควบคุมหลายโครงการก็ได้แสดงให้เห็นถึงสรรพคุณในการลดช่วงเวลาที่ยาหมดฤทธิ์ (off time) บรรเทาอาการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อลำบาก และลดความจำเป็นในการทานยาเลโวโดปา ทว่าจนถึงทุกวันนี้ ผลลัพธ์ดังกล่าวก็ยังไม่ได้รับการยืนยันในการทดลองทางคลินิกแบบมีกลุ่มควบคุม
Professor Katzenschlager หัวหน้านักวิจัยในโครงการ TOLEDO ได้นำเสนอผลลัพธ์จากการวิจัยแบบอำพรางสองฝ่ายระยะเวลา 12 สัปดาห์ ครอบคลุมผู้ป่วย 107 คน จากศูนย์ 23 แห่งทั่วยุโรป โดยผลปรากฏว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยาฉีดใต้ผิวหนัง APO-go(R)/MOVAPO(R) มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของ off time นับตั้งแต่เส้นฐานไปจนถึงสัปดาห์ที่ 12 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (placebo) ส่งผลให้การรักษาทั้งสองแบบมีความแตกต่างด้านเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยยา APO-go(R)/MOVAPO(R) ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว และมีช่วง off time ลดลงตั้งแต่การประเมินครั้งแรกในสัปดาห์ที่ 1 ต่อเนื่องไปตลอด 12 สัปดาห์ ที่สำคัญคือ off time ลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยไม่มีอาการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อลำบากเพิ่มขึ้น และตัวผู้ป่วยเองก็ยืนยันผลลัพธ์ดังกล่าวเช่นกันในการประเมินผลการรักษาในภาพรวม
Professor Katzenschlager กล่าวว่า “TOLEDO เป็นหลักฐานสำคัญที่พิสูจน์ประสิทธิภาพและความทนของยาอะโปมอร์ฟีน ในผู้ป่วยที่ตอบสนองต่อการรักษาไม่เต็มที่แม้ว่าได้รับการรักษาตามความเหมาะสมแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังเป็นเครื่องยืนยันสำหรับผู้ที่ได้รับยาอะโปมอร์ฟีนมานานหลายปีแล้ว ทั้งยังเป็นตัวอย่างการทดลองที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามารถทำตามและนำไปปรับใช้กับการทดลองทางคลินิกของตนเองได้ ผลลัพธ์อันน่าประทับใจนี้จะช่วยให้แพทย์มีความมั่นใจมากขึ้นในการแนะนำวิธีรักษาที่มีประโยชน์แต่ยังไม่แพร่หลายนี้”
โครงการวิจัย TOLEDO ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือ STADA Arzneimittel AG อย่าง Britannia Pharmaceuticals Ltd. ซึ่งเป็นผู้ผลิตอะโปมอร์ฟีน (APO-go(R)/MOVAPO(R)/APOKYN(R)) ปัจจุบัน TOLEDO กำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองแบบเปิด (open-label) โดยคาดว่าจะทราบผลในปี 2561
อ้างอิง
Poster 003 ที่ Katzenschlager R และคณะ นำเสนอในการประชุมประจำปีครั้งที่ 69 ของสถาบันประสาทวิทยาแห่งอเมริกา ณ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 22-28 เมษายน 2560
ข้อมูลบริษัท
Britannia Pharmaceuticals Limited ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2525 ในเมืองเร้ดดิ้ง สหราชอาณาจักร บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา รวมถึงการพัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รักษาโรคพาร์กินสัน บริษัทประสานงานอย่างใกล้ชิดกับนักประสาทวิทยาและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุมานานกว่า 30 ปี จนพบสรรพคุณของอะโปมอร์ฟีนในการรักษาผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน อันนำไปสู่การพัฒนายา APO-go(R)/MOVAPO(R)/APOKYN(R) ซึ่งวางจำหน่ายใน 23 ประเทศทั่วโลก
Britannia เป็นบริษัทในเครือ STADA Arzneimittel AG ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ขณะที่ APO-go(R) เป็นแบรนด์ที่ติดอันดับท็อป 5 ของ STADA Group
APO-go(R) จัดจำหน่ายในสหราชอาณาจักรโดย Britannia Pharmaceuticals Ltd โดยได้เปลี่ยนมือภายหลังจากที่ STADA เข้าซื้อกิจการของ Britannia เมื่อปี 2550 ส่วนนอกสหราชอาณาจักรมีการจัดจำหน่ายผ่านบริษัทในเครือและพาร์ทเนอร์ที่ได้รับอนุญาต
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Britannia Pharmaceutical Ltd กรุณาติดต่อ
Medical Information at Britannia Pharmaceutical Ltd
http://www.britannia-pharm.com
PIL: https://www.medicines.org.uk/emc/medicine/15993
ที่มา: Britannia Pharmaceuticals Ltd