Big Data มีประโยชน์ต่อภาคธุรกิจมากกว่าที่คิด

0
531
image_pdfimage_printPrint

ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี กำลังพาเราก้าวเข้าสู่โลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ที่ถูกผลิตขึ้นในทุก ๆ วัน ซึ่งข้อมูลจำนวนมหาศาลดังกล่าวนี้ สามารถนำใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย หากนำไปศึกษา และวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ หากจะให้อธิบายอย่างง่าย ๆ Big Data คือ เทคโนโลยีของการวางแผนการจัดการทรัพยากรข้อมูลที่มีขนาดที่ใหญ่มาก (Volume) มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรวดเร็ว (Velocity) มีรูปแบบที่หลากหลาย (Variety) และไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาได้ (Veracity) นั่นเอง แม้ว่าจะเข้าใจความหมายของมันแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่เห็นภาพว่า Big Data นั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์กับภาคธุรกิจได้อย่างไรกันแน่ เราจึงได้ยกตัวอย่างการนำ Big Data ไปวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์อนาคตสำหรับภาคธุรกิจ มาอธิบายให้ทุกคนทราบ เพื่อให้เห็นภาพกันง่ายขึ้น ดังนี้

● การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data กับ Credit Scoring
Credit Scoring หรือคะแนนเครดิต คือ สิ่งที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยนำข้อมูล Big Data ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่าย ระดับรายได้มาวิเคราะห์ และหาความน่าจะเป็นในการชำระคืนหนี้ของผู้กู้ว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ขนาดไหน เพื่อให้ธนาคารสามารถประเมินความเสี่ยงที่ชัดเจน ซึ่งการนำเอา Big Data มาคำนวณ Credit Scoring จะช่วยให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากเป็นการใช้โปรแกรมในการคำนวณผ่านสูตรคำนวณที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ค่าคำตอบที่ดีที่สุดออกมา ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้อย่างมาก

● การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data กับ Maintenance Forecast
การพยากรณ์การซ่อมบำรุงรักษา เพื่อดูว่าเครื่องจักรตัวไหนกำลังจะเสีย หรือจะต้องซ่อมบำรุง โดยนำเอากล้อง หรือเซนเซอร์ไปจับที่เครื่องจักร และเก็บข้อมูลออกมาใน Big Data เช่น ความร้อน ความสั่นของเครื่องจักร เป็นต้น แล้วระบบคอมพิวเตอร์ก็จะวิเคราะห์ข้อมูลออกมา เพื่อบอกเราว่าเครื่องจักรเหล่านี้มีโอกาสเสียกี่เปอร์เซ็น จะเสียเมื่อไหร่ และจะต้องเปลี่ยนตอนไหน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรไม่ต้องสต็อกอะไหล่มาเผื่อเป็นจำนวนมาก และช่วยให้องค์กรสามารถใช้เครื่องจักรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยป้องกันการเกิดเหตุขัดข้องของเครื่องจักร และยังเป็นการช่วยเซฟบุคลากร เนื่องจากไม่ต้องส่งคนเข้าไปตรวจสอบเครื่องจักร ลดการเสี่ยงอันตรายอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า “ข้อมูล” กลายเป็นขุมทรัพย์ที่สำคัญ ผลการวิเคราะห์จากข้อมูลเหล่านี้จะนำไปสู่การวางแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ จึงทำให้ Big Data กลายเป็นกระแสที่หลายองค์กรทั่วโลก เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่การลงทุนทำ Big Data นั้นมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ต้องใช้ทรัพยากร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในระดับหนึ่ง

เราจึงมีทางเลือกที่น่าสนใจที่จะเข้ามาช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถวิเคราะห์ Big Data ได้ โดยไม่ต้องลงทุนทรัพยากรเอง แต่ผ่านการเช่าใช้บริการแทน ซึ่งทางบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดให้บริการ แพลตฟอร์ม Big Data ภายใต้บริษัทในเครือชื่อ บริษัท อินเทลลิจิสต์ จำกัด สร้างแพลตฟอร์มที่มาช่วยในเรื่องของการจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลให้สามารถแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ และยังช่วยเป็นพื้นฐานในการเก็บข้อมูลก่อนที่จะนำข้อมูลไปใช้งานต่อในโดยเฉพาะการทำในเรื่องของ AI หรือ Machine Learning พร้อมทั้งยังมีบริการฝึกอบรบหลักสูตรการบริหารจัดการข้อมูลอีกด้วย หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.intelligist.co.th/ หรือ marketing@inet.co.th