BEAUTYฟิตเปีัยะโรดโชว์ 3 ประเทศ ควง PhillipCapital Group พบกองทุน 19 แห่ง

0
485
image_pdfimage_printPrint

BEAUTY ตะลุยโรดโชว์ ลอนดอน สกอตแลนด์ เนเธอร์แลนด์ ควง PhillipCapital Group พบกองทุนระดับโลก 19 แห่ง กระแสตอบรับดีเกินคาด มั่นใจธุรกิจเติบโต ผลประกอบการนิวไฮต่อเนื่อง ขยายตลาดได้อีกมากทั้งในและต่างประเทศ คาดรายได้ปีนี้ทะลุ 3,100 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า ทางฝ่ายบริหารของบริษัท โดยคุณศิริการย์ พัฑฒิวีระนนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการขาย ได้มีการไปนำเสนอข้อมูลแผนธุรกิจกับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่ ลอนดอน สกอตแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งสิ้น 19 แห่ง โดยข้อมูลที่นักลงทุนให้ความสนใจจะเน้นไปที่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย การออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับกับเทรนด์ผู้บริโภค มีความโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ การมีช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม และการขยายตลาดในระดับนานาชาติ

นอกจากนี้บริษัทยังเน้นย้ำเป้าหมายในระยะ 3 ปีข้างหน้า ผลประกอบการมีแนวโน้มทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 3,100 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกที่ผ่านมาผลประกอบการโตเกินเป้าหมายที่วางไว้

“ช่วงก่อนหน้านี้บริษัทได้รับการติดต่อจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และThe PhillipCapital Group เดินทางไปนำเสนอข้อมูล เพื่อให้บริษัทเป็นที่รู้จักแก่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ และอัพเดทการดำเนินงานด้านต่างๆ ซึ่งการเดินทางไปนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้มีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก นักลงทุนให้ความสนใจกลยุทธ์ธุรกิจของบริษัท รู้จักสินค้าและแบรนด์ต่างๆของ BEAUTY อีกทั้งเชื่อมั่นในทิศทางการเติบโต”นายแพทย์สุวิน กล่าว

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การโรดโชว์ครั้งนี้ ทางกลุ่ม Phillip Capital โดย King&Shaxson ซึ่งมีสำนักงานที่ลอนดอน ได้นำบริษัทไปพบกับนักลงทุนสถาบัน ทั้งที่ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นของ BEAUTY อยู่แล้ว และนักลงทุนสถาบันที่มีศักยภาพในการลงทุนในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนักลงทุนสถาบันรายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน แต่ได้มีการศึกษาข้อมูลและสนใจธุรกิจของบริษัทมาก่อนหน้านี้แล้ว
…………………………………..