“Be Strong” คือการสอนให้คนแกร่ง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างสมเหตุผล

0
372
image_pdfimage_printPrint

หลายคนคงเคยได้ยินว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุค 4.0 ยุคที่ระบบสังคม เศรษฐกิจ รวมทั้งการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ ประเทศไทยเองก็มีการตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่น้อย ยุค 4.0 นี้เป็นยุคทองของคนเก่ง ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ในชั่วชีวิตเดียว คนที่สามารถปรับตัวได้เร็วจะกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จ และคนที่ปรับตัวช้าจะกลายเป็นคนขาดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่ระดับบุคคลที่ต้องมีการปรับตัว ประเทศก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากระบบการศึกษาไม่สามารถผลิตคนเก่ง มีศักยภาพ ออกมาได้ ประเทศก็จะไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
พี่แนน อริสรา ธนาปกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเอ็นคอนเส็ปท์ กล่าวถึงเคล็ดลับในการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จ และสามารถทำตามความฝันได้อย่างมีความสุขของเยาวชนในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ คือทุกคนต้องแกร่ง และเข้มแข็งในการใช้ชีวิต “Be Strong” ซึ่งมีคุณสมบัติ 5 อย่างที่จะทำให้เราหาความหมายของชีวิตที่ใช้แล้วต้องไปให้สุดในยุคนี้ได้ คือ
S: Start หรือ เริ่มต้น คนส่วนใหญ่คิดว่าชีวิตคือความสำเร็จหรือความล้มเหลวอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ความจริงแล้วมันคือส่วนผสมของการเริ่มต้นหรือการรอมากกว่า “เริ่มเลย!” คำที่พี่แนนบอกกับทุกคน หากไม่รู้ความฝันตัวเองก็เริ่มหาเลย หากไม่แน่ใจก็เริ่มลองเลย มีความฝันก็เริ่มทำเลย ชีวิตมันง่ายๆ เริ่มได้เลย เริ่มคิด เริ่มทำ เริ่มให้โอกาสกับตัวเอง ถ้าเรามัวแต่รอโอกาสมันไม่มีวันมาหรอก แต่ถ้าเราเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง นั่นแหละคือการสร้างโอกาสให้กับตัวเอง
T: Time หรือ เวลา หลายคนอาจจะใช้ชีวิตจนลืมหยุดคิดไปว่าเราจะมีชีวิตอยู่อีกกี่วันในโลกนี้ ทำให้อาจจะพลาดโอกาสดีๆ หรือได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม พี่แนนมักจะถามน้องๆ ว่ารู้ไหมว่าพ่อแม่เหลือเวลาในโลกนี้อีกเท่าไหร่ มันเป็นคำถามที่กระชากใจเด็กบางคนให้มีจุดเริ่มในการทำความดี ให้โอกาสและไม่หยุดพัฒนาความสามารถ การที่เรารู้ว่าเรามีเวลาจำกัดในโลกนี้เป็นเครื่องเตือนสติที่ดีที่สุดให้เราทำสิ่งที่มีประโยชน์ให้เร็วที่สุดและมากที่สุด
R: Responsibility หรือ ความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ เด็กบางคนมักจะโทษสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่าเป็นผลมาจากผู้อื่นหรือสิ่งอื่น โดยไม่คิดจะหาข้อผิดพลาดเพื่อนำมาปรับปรุง

แก้ไข จุดนี้แหละทำให้โอกาสที่จะนำความผิดพลาดมาพัฒนาตนเอง และต่อยอดความคิดจนประสบความสำเร็จนั้นมีน้อยมาก เมื่อตอนที่เราเริ่มทำงานใหม่ๆ ยังไม่มีความรู้ความสามารถหรือทักษะในการทำงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คนจะคาดหวังจากเราก็คือ “ความรับผิดชอบ” ไม่ใช่แค่ความสำเร็จแม้แต่ความสุข คุณธรรม และจริยธรรมของคน ก็ล้วนต้องอาศัยความรับผิดชอบเป็นจุดเริ่มต้น ดังนั้นถ้าเราเริ่มต้นที่ความรับผิดชอบ ความรู้และความสามารถในการ “เป็นที่ประสบความสำเร็จและมีความสุข” จะตามมา
O : Open หรือ การเปิด ซึ่งมีสองทางที่ต้องเปิด คือ Open In หรือ เปิดใจ และ Open Out หรือ เปิดโลก เราอยู่ในยุคที่มนุษย์สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากที่ไหน เวลาใดก็ได้ สาเหตุหนึ่งที่โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงได้เร็วขนาดนี้ เพราะมนุษย์ได้เปิดใจเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การเปิดรับการเรียนรู้จากคนอื่นนั้นเป็นเหมือน Time machine ที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องไปลองผิดลองถูกทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะเมื่อมีคนเคยผิดพลาดแล้ว เราก็แค่เรียนรู้จากพวกเขาต่อและต่อยอดความรู้นั้นต่อไป
ส่วนการเปิดโลกนั้น หลายคนรวมถึงตัวพี่แนนเองก็ชอบอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง นอกจาก จะสบายแล้วยังมีโอกาสล้มเหลวน้อย ตอนเด็กๆ พ่อแม่เราจะสั่งสอนว่าอย่าไปไหนโดยลำพัง อย่าคุยกับคนแปลกหน้า อย่าทำอะไรแปลกๆ เราไม่ค่อยออกนอกพื้นที่ปลอดภัย เพราะกลัวอันตราย กลัวสังคมจะตำหนิ กลัวความล้มเหลว ความกลัวหลายอย่างในชีวิตก็มีประโยชน์ แต่ ความกลัวส่วนใหญ่ของเราในชีวิต เป็นความกลัวที่ไม่มีความจริงและไม่มีประโยชน์ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะก้าวข้ามความเคยชินและความกลัวที่ไม่มีประโยชน์ โดยก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง (Comfort zone) เพื่อไปเรียนรู้สิ่งใหม่ พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่ง และก้าวสู่ความสำเร็จได้ตัวเอง
ตัวสุดท้ายใน strong คือ NG : Never give up ทุกครั้งที่รู้สึกท้อและคำว่าล้มเหลวยอมแพ้ผุดขึ้นในใจ เราต้องกล้าหาญที่จะไม่ยอมแพ้ ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ ในอนาคตคงไม่มีใครที่สมหวังกับทุกสิ่ง แต่ทุกครั้งที่เราพยายามและทดลองทำใหม่ สมองของเราจะเกิดการคิด วิเคราะห์ และพัฒนากระบวนการใหม่ๆ เพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จได้