วันนี้ Ascensia Diabetes Care ได้ประกาศรายชื่อ 6 ผลงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศการประกวดนวัตกรรมระดับโลก “Ascensia Diabetes Challenge” เพื่อเฟ้นหาโซลูชั่นดิจิทัลสำหรับรับมือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผลงานทั้ง 6 ได้ผ่านการคัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้ามาทั้งสิ้น 116 ผลงาน โดยการพิจารณาของคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก รวมถึงสมาชิกฝ่ายการแพทย์ การวิจัยและพัฒนา และการพาณิชย์ของ Ascensia บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องนำเสนอโซลูชั่นของตนในเวทีการประกวดรอบชิงชนะเลิศในเดือนเมษายนนี้ เพื่อตัดสินผู้ชนะซึ่งจะมีการประกาศในการประชุม Scientific Sessions ครั้งที่ 78 ของสมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริกา (ADA) ในเดือนมิถุนายน
ไมเคิล คลอส ซีอีโอของ Ascensia Diabetes Care กล่าวว่า “เราได้รับผลงานจากผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพทั่วโลกที่อยู่แถวหน้าของแวดวงนวัตกรรมการดูแลสุขภาพ เรายินดีที่ผลงานเหล่านี้มีคุณภาพและมีความหลากหลาย โดยเป็นโซลูชั่นดิจิทัลที่มีศักยภาพในการปฏิวัติการรับมือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในแง่ต่างๆ เราตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันชิงชนะเลิศ เพื่อรับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดสร้างสรรค์เหล่านี้”
ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคเบาหวานราว 425 ล้านราย [1] และมากถึง 90% ของทั้งหมดเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเฟ้นหานวัตกรรมใหม่ๆในการรับมือกับโรค เพื่อลดภาระอันหนักหน่วงที่บุคคลและระบบสาธารณสุขต้องแบกรับ โดย Ascensia ได้เปิดเวทีการประกวดนี้ขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนบริษัทและผู้ประกอบการที่กำลังพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลที่จะช่วยยกระดับการรับมือกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
การประกวดระดับโลกนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากมายทั้งจากอเมริกาเหนือ เอเชีย และยุโรป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ๆในการรับมือกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทางคณะกรรมการตัดสินได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและคัดเลือกผลงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศดังนี้
– Foodient โดย Whisk: แพลตฟอร์มนวัตกรรม AI ที่ทำหน้าที่เป็นนักโภชนาการดิจิทัล โดยเชื่อมผู้บริโภคกับร้านค้าปลีกชั้นนำทั่วโลก ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถหาอาหารที่โปรดปรานและมีโภชนาการเหมาะสมได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้อย่างยั่งยืน https://whisk.com/
– GlycoLeap โดย Holmusk: โปรแกรมสุขภาพดิจิทัลที่จะช่วยลดน้ำหนักและระดับน้ำตาลสะสม โดยผสานคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับเทคโนโลยีมือถือเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีสุขภาพที่ดีขึ้น GlycoLeap ได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ป่วยมีข้อมูลในการตัดสินใจเรื่องสุขภาพของตนเอง https://www.glycoleap.com
– QStream: เกมมือถือแบบเล่นเป็นทีมที่พัฒนาโดย Harvard Medical School ซึ่งสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าผู้ป่วยที่ใช้ QStream สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืน https://qstreamhealthcare.com
– My Diabetes Coach โดย Macadamian: แพลตฟอร์มเสียงเพื่อรับมือโรคเบาหวานตัวแรกที่ใช้บริการเสียง Alexa ของ Amazon ในการช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ดูแลตนเองได้ดีขึ้น แพลตฟอร์มนี้จะรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่ โทรศัพท์มือถือ และการพูดคุยกับผู้ป่วย เพื่อให้คำแนะนำที่ตรงจุดแก่ผู้ป่วยแต่ละรายด้วยเทคโนโลยี AI http://www.macadamian.com
– Path Feel โดย Walk with Path: พื้นรองเท้าอัจฉริยะที่สามารถเก็บข้อมูลการสั่นสะเทือนหรือการสัมผัสขณะเดิน ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เส้นประสาทถูกทำลายมีความรู้สึกเมื่อเหยียบพื้นและทรงตัวได้ โซลูชั่นดิจิทัลนี้สามารถนำมาใช้เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วยรายบุคคลได้ https://www.walkwithpath.com
– xbird: ซอฟต์แวร์ AI ทางการแพทย์ที่สามารถวิเคราะห์รายละเอียดการเคลื่อนไหว โดยเก็บข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สวมใส่ที่ติดตัวผู้ป่วยโรคเบาหวาน จากนั้นจึงทำการเปรียบเทียบกับประวัติน้ำตาลในเลือด เพื่อคาดการณ์และตรวจจับสัญญาณน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินไป ช่วยให้ทั้งแพทย์และผู้ป่วยได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ได้จริง http://www.xbird.io
ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศทั้ง 6 จะได้รับเงินรางวัล 10,000 ยูโร เพื่อนำไปต่อยอดความคิดของตนเอง สำหรับผู้คว้าตำแหน่งชนะเลิศและรองชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลรวม 200,000 ยูโร พร้อมโอกาสในการร่วมงานกับ Ascensia Diabetes Care
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกวด คณะกรรมการตัดสิน และเกณฑ์การตัดสิน กรุณาเข้าไปที่ https://ascensiadiabeteschallenge.com
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ Ascensia Diabetes Care
Ascensia Diabetes Care เป็นบริษัทระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการโรคเบาหวาน โดยอุทิศตนเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถอยู่ร่วมกับโรคเบาหวานได้ ภารกิจของเราคือการมอบโซลูชั่นที่ทันสมัยเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับโรคเบาหวาน ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิม เราได้ใช้นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคเบาหวานในการพัฒนาโซลูชั่นและเครืองมือคุณภาพสูง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านบวกในชีวิตประจำวันของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
บริษัทของเราเป็นผู้คิดค้นระบบวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด CONTOUR(R) ที่ผสานเทคโนโลยีขั้นสูงกับฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่าย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับโรคเบาหวานได้ ขณะเดียวกัน เรายังคงเดินหน้าทำการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ รวมถึงโซลูชั่นใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในแวดวงโรคเบาหวาน โดยเราได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและพันธมิตรรายอื่นๆ ในการรับประกันว่าผลิตภัณฑ์ของเราได้มาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านความแม่นยำ ความเที่ยงตรง และความน่าเชื่อถือ ทั้งยังรับประกันว่าเราประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
Ascensia Diabete Care ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 จากการขายกิจการของ Bayer Diabetes Care ให้แก่ Panasonic Healthcare Holdings Co., Ltd ผลิตภัณฑ์ของเราวางจำหน่ายในกว่า 125 ประเทศทั่วโลก Ascensia Diabetes Care มีพนักงานประมาณ 1,700 คน และดำเนินงานใน 31 ประเทศ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกวด คณะกรรมการตัดสิน และเกณฑ์การตัดสิน กรุณาเข้าไปที่ https://ascensiadiabeteschallenge.com
สื่อมวลชนติดต่อ
Joseph Delahunty ( joseph.delahunty@ascensia.com )
อ้างอิง
[1] IDF Diabetes Atlas (2017)
ที่มา: Ascensia Diabetes Care