Advanced Aesthetic Technologies ประกาศจับมือ China National Biotec Group บุกตลาดเสริมความงามของจีน

0
268
image_pdfimage_printPrint

Advanced Aesthetic Technologies, Inc. (AAT) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเสริมความงามด้วยซิลิโคนเจล และ China National Biotec Group (CNBG) บริษัทในเครือ China National Pharmaceutical Group Corporation (SINOPHARM) ประกาศการดำเนินการตามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในวันนี้ โดยความสัมพันธ์ใหม่ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ CNBG ให้การยอมรับในผลิตภัณฑ์ของ AAT และการที่ AAT ยอมรับสถานะความเป็นผู้นำด้านชีวเภสัชภัณฑ์ของ CNBG ในประเทศจีน ทั้งสองฝ่ายจึงได้สร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรในด้านหุ้นและผลิตภัณฑ์ ตามข้อตกลงดังกล่าว CNBG จะถือหุ้นส่วนใหญ่แต่ไม่มีอำนาจควบคุมใน AAT เพื่อแลกกับการลงทุนใน AAT และบริษัท Lanzhou Biotechnique Development Co., LTD. ในเครือของ CNBG (ต่อไปนี้เรียกว่า “Lanzhou Company”) จะรับผิดชอบเรื่องการขอใบอนุญาตตามกฎระเบียบของจีน และดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Algeness(R) ของ AAT ในประเทศจีน

CNBG เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ขณะที่ Lanzhou Company เป็นผู้ผลิตโบทูลินัมท็อกซิน (BXTA) รายเดียวในประเทศจีน ทั้งนี้ Hengli(R) (LANTOX) เป็นโบทูลินัมท็อกซินชั้นนำในตลาดจีน โดยมีการจำหน่ายไปยังสถานเสริมความงามทางการแพทย์กว่า 6,500 แห่งในจีน และครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 75% ในตลาด BTXA ของจีน

Algeness(R) ของบริษัท Advanced Aesthetic Technologies, Inc. เป็นสารเติมเต็มผิว (dermal filler) แบบซิลิโคนเจล (gel implant) ชนิดฉีดที่สามารถละลายได้หมดซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว และเป็นสารธรรมชาติ 100% จึงทำให้มีความได้เปรียบในแง่ของความปลอดภัย การฟื้นฟูผิว และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติทั้งในขณะหน้านิ่งและขณะที่มีการเคลื่อนไหวบนใบหน้า นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ทางคลินิกโดยทั่วไป ซึ่งได้แก่ มีอาการบวมน้อยมากหลังการฉีด และเห็นผลชัดเจนในทันที Algeness ได้รับเครื่องหมาย CE Mark และปัจจุบันมีการจำหน่ายไปยังกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง AAT ได้เริ่มดำเนินการเพื่อขออนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) แล้ว

ดั๊ก เอเบล ประธานและซีอีโอของ AAT กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือแบบเอ็กซ์คลูซีฟในประเทศจีนร่วมกับ CNBG ความเป็นเลิศของ CNBG ในการพัฒนาชีวเภสัชภัณฑ์ และความเป็นผู้นำของ Lanzhou Company ในตลาดเสริมความงามของจีน ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นพันธมิตรในอุดมคติที่เราอยากร่วมงานด้วย เพื่อนำ Algeness ผ่านขั้นตอนการอนุมัติและออกสู่ตลาดจีนในที่สุด นอกจากนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ CNBG ให้การยอมรับว่า Algeness มีศักยภาพที่จะปฏิวัติตลาดสารเติมเต็มผิว และเมื่อรวมกับความพยายามในการระดมทุนของเราแล้ว เรามั่นใจว่าการลงทุนของ CNBG จะทำให้เราสามารถดำเนินการเพื่อผลักดัน Algeness ไปสู่การจดทะเบียนกับ FDA ซึ่งรวมถึงการทำการทดลองทางคลินิกตามกฎระเบียบให้แล้วเสร็จ เพราะการเข้าสู่ตลาดจีนและสหรัฐถือเป็นขั้นตอนการสร้างมูลค่าที่สำคัญสำหรับ AAT”

นพ.ไบรอัน เอ็ม. คินนีย์ (M.D., F.A.C.S.) ศัลยแพทย์ตกแต่งในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการ AAT ระบุว่า “Algeness เป็น ‘การเสริม’ สารเติมเต็มแบบเนื้อเยื่ออ่อนที่ตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองสำหรับแพทย์และคนไข้ด้วยการให้ผลลัพธ์ทันที โดยมีอาการบวมและผลข้างเคียง หรือผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันน้อยมาก นอกจากนี้ สารตัวนี้ยังเป็นมากกว่าเพียงแค่การเติมเต็มเพื่อทำให้เห็นภาพและรูปทรง คนไข้ของผมต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยพร้อมผลลัพธ์ที่ดูและให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ Algeness มีศักยภาพที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้กลุ่มนี้ในแนวทางใหม่และก้าวล้ำ”

เกี่ยวกับ Algeness(R)

Algeness เป็นซิลิโคนเจลที่ทำจากอะกาโรส (agarose) เป็นธรรมชาติล้วน สามารถย่อยสลายทางชีวภาพ และเข้ากับเนื้อเยื่อของร่างกายได้ รวมทั้งปลอดจากสารเคมีสังเคราะห์หรือการเชื่อมโยงทางเคมี สารเติมเต็มผิว Algeness สามารถทำให้ใบหน้าอิ่มเต็มได้ทันที และคงอยู่ได้นาน โดยไม่ต้องใช้สารเคมีและการเชื่อมโยงทางเคมีที่พบในสารเติมเต็มแบบกรดไฮยาลูโรนิค ทั้งนี้ Algeness มีจำหน่ายตามความเข้มข้นของอะกาโรสใน 4 ระดับ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการเสริมความงามสำหรับริมฝีปาก ริ้วรอย และรอยย่นรอบปาก และเพื่อปรับให้ได้รูปและเติมเต็มแก้ม ขากรรไกร และบริเวณอื่น ๆ Algeness ได้รับเครื่องหมาย CE Mark และมีจำหน่ายใน 33 ประเทศในยุโรป ลาตินอเมริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง

เกี่ยวกับ China National Biotec Group

CNBG เป็นบริษัทในเครือของ Sinopharm ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทยาและการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยมีธุรกิจหลักได้แก่ การจัดจำหน่าย การขายปลีก การวิจัย และการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ CNBG เป็นผู้ผลิตโบทูลินัมท็อกซิน เอ (botulinum toxin A) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 77% และด้วยการดำเนินงานมากว่า 20 ปี บริษัทจึงได้สร้างเครือข่ายที่ฝังรากลึกทั่วประเทศจีนเพื่อขายและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบำบัดรักษาและผลิตภัณฑ์เสริมความงามทางการแพทย์ ที่ครอบคลุมหน่วยงานทางคลินิกหลัก ๆ ทั้งหมด โดย Hengli ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของ CNBG ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสาขาการเสริมความงามทางการแพทย์ นอกจากนี้ CNBG ยังเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายวัคซีนและผลิตภัณฑ์จากพลาสม่ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งการขยายตัวที่แข็งแกร่งของธุรกิจหลักของบริษัทได้สร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องและมั่นคงเพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจต่อไป

เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเสริมความงาม

ในรายงานวิจัย Market Research Future มีการคาดการณ์ว่า ตลาดสารเติมเต็มผิวทั่วโลกจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นที่ 12.5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า และคาดว่าจะมีมูลค่า 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2566 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดนี้ขยายตัวก็คือความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากทั้งแพทย์และผู้บริโภคเกี่ยวกับการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (minimally invasive) และแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด (non-invasive)[1] ปัจจุบัน ศัลยแพทย์ตกแต่ง แพทย์ผิวหนัง และแพทย์เวชปฏิบัติอื่นๆ[2] ทั่วโลกได้ทำการฉีดสารเติมเต็มให้กับคนไข้มากกว่า 8.5 ล้านครั้งต่อปี ขณะที่ข้อมูลจากสมาคมศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามแห่งสหรัฐพบว่า เฉพาะในสหรัฐ ศัลยแพทย์ตกแต่งได้ฉีดสารเติมเต็มกว่า 2.6 ล้านครั้งในปี 2561 ซึ่ง 30% เป็นการฉีดกรดไฮยาลูโรนิค คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ โดยการฉีดสารเติมเต็มผิวในสหรัฐนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น 39% ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา[3]

Algeness(R) และ Master Your Results(R) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AAT, Inc. และบริษัทย่อย Algeness-Europe Ltd ในไอร์แลนด์

ข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต

AAT ไม่สามารถรับประกันได้ว่า การดำเนินการต่าง ๆ ตามข้อตกลงความร่วมมือจะเสร็จสมบูรณ์ตามเวลาที่กำหนด การดำเนินการเหล่านี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ข้อความทั้งหมดในข่าวข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ยกเว้นข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงในอดีต ถือเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต และไม่ได้เป็นการรับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุไว้ในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต

[1] https://www.marketresearchfuture.com
[2] https://www.isaps.org
[3] https://www.surgery.org