หากกล่าวถึงยาอายุวัฒนะที่มีมาแต่โบราณกาล คงต้องนึกถึง “เห็ดหลินจือ” จักรพรรดิแห่งสมุนไพรที่ชาวจีนใช้บำรุงร่างกายมากว่า 2,000 ปี โดยเฉพาะในจักรพรรดิของราชวงศ์ต่างๆ เพราะถือเป็นของล้ำค่าหายากและเป็นสิริมงคล ที่แสดงออกถึงความสมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้เห็ดหลินจือ ยังถูกรวบรวมไว้ในตำรายาจีนโบราณ “เสินหนงเปินเฉ่า” ว่าเป็นยาชั้นสูง ซึ่งหมายถึงเป็นยาที่ไม่มีพิษ สามารถรับประทานต่อเนื่องระยะยาวได้โดยไม่เป็นอันตราย
จากคำร่ำลือเรื่องสรรพคุณของเห็ดหลินจือมายาวนานดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศอาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา จึงให้ความสนใจทำการศึกษาวิจัยถึงสรรพคุณทางยาและสารออกฤทธิ์ของเห็ดหลินจือ โดยการตรวจสอบโครงสร้างทางเคมี การทดลองในห้องปฏิบัติการ และรวบรวมข้อมูลทางสถิติที่ได้จากการรักษาโรคในผู้ป่วย และปี ค.ศ.1958 ประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่นักวิจัยได้เผยแพร่รายงานการค้นพบองค์ประกอบทางเคมีของเห็ดหลินจือ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีมากกว่า 150 ชนิด โดยจำแนกสารออกฤทธิ์ได้ดังต่อไปนี้
ไตรเทอร์พีนอยด์ ชนิดขม ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ดอกและก้าน ส่วนสำคัญคือมีกรดกาโนเดอริค ซึ่งเป็นตัวยับยั้งการหลั่งของสารฮีสตามีน ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันในเลือด นอกจากนี้ยังพบฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในตับ และการต้านสารพิษที่มีต่อตับอีกด้วย
โพลีแซ็กคาไรด์ ในเห็ดหลินจือมีหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางยา เช่น กาโนเดอแรนส์ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด สารเบต้าดีกลูแคน มีส่วนช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการทำงานเม็ดเลือดขาว เพิ่มประสิทธิภาพของระบบคุ้มกันโรค เพิ่มความแรงในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
เยอร์มาเนียม สารนี้พบมากในโสม ในกระเทียม และพบมากในเห็ดหลินจือด้วย เป็นตัวส่งเสริมขบวนการทำงานของร่างกาย สามารถรวมตัวและช่วยกำจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมต่าง มีการใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันเพื่อกำจัดพิษรวมถึงอาการไม่พึงประสงค์ และยังพบว่าสามารถลดความเจ็บปวดในผู้ป่วยมะเร็งได้
นอกจากนี้ เห็ดหลินจือ ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ เหมาะสำหรับบำรุงร่างกาย สามารถบริโภคได้ตั้งแต่วัยเด็ก วัยกลางคน วัยสูงอายุ หรือกระทั่งผู้ป่วย โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือมีหลายรูปแบบให้เลือกบริโภค เช่น เห็ดหลินจือ อบแห้งโดยนำมาต้มดื่มเป็นชา ควรต้มจนเดือดนาน 20 นาที แล้วเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน เห็ดหลินจือ สกัดชนิดแคปซูล ต้องแน่ใจว่าผ่านกระบวนการสกัด วิธีสังเกตง่ายๆ คือ ผงยามีความแห้งละเอียด รสขม ควรรับประทานขณะท้องว่าง ลำไส้จะดูดซึมได้ดี สปอร์เห็ดหลินจือ มีปริมาณสารออกฤทธิ์มากกว่าชนิดสกัด ลักษณะเป็นผงสีน้ำตาล รสจืด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รับประทานโดยผสมกับน้ำอุ่น เครื่องดื่มหรืออาหาร ทั้งนี้การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือ ควรพิจารณาจากผู้ผลิตที่มีความรู้ ความน่าเชื่อถือ และผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาควบคู่ด้วย
สำหรับในประเทศไทย ได้มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และใช้ในการรักษาโรคร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันมายาวนานกว่า 30 ปี โดย นพ.สุรพล รักปทุม ที่ปรึกษางานวิจัย เห็ดหลินจือ ในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ซึ่งถือว่าเป็นคนไทยรุ่นแรกที่รู้จักเห็ดหลินจือ ต่อมาจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากเห็ดหลินจือ ในนาม ดร.สุรพล
อย่างไรก็ตาม เห็ดหลินจือ เป็นเพียงหนึ่งในพืชสมุนไพรหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ดังนั้นต้องอาศัยการดูแลสุขภาพอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนที่เพียงพอ มีสุขภาพจิตที่ดี และการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ จึงจะทำให้มีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก ห่างไกลโรคภัย และมีอายุที่ยืนยาว
ที่มา : หนังสือเห็ดหลินจือ โดย นพ.สุรพล รักปทุม และนพ.ชวลิต สันติกิจรุ่งเรือง ISBN 978-616-91593-1-5
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท 10,000 ปี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากเห็ดหลินจือ โทรศัพท์ 090 721 7210 FB : dr.surapolby10000years และทางเว็บไซต์ www.doctorsurapol.com
สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0 2000 8499 , 098 268 0518