วี-กัลลิเวอร์เปิดสาขาเชียงใหม่

0
387
image_pdfimage_printPrint

nomura-s

วี-กัลลิเวอร์ รุกตลาดรถมือสองภาคเหนือ
• เปิดสาขาแรกที่เชียงใหม่ ตามด้วยเชียงรายและใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
• เชื่อมั่นภาคเหนือมีศักยภาพเติบโตสูง

บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจรถมือสองอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าเปิดสาขาแรกของภาคเหนือที่เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นสาขาที่ 5 ของกัลลิเวอร์ เพื่อรองรับความต้องการรถมือสองในภาคเหนือ
มร.คัทซึชิ โนมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายโดยการเปิดสาขาเพิ่มเติมเพื่อครอบคลุมพื้นที่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยล่าสุดได้เปิดสาขาเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสาขาแรกในภาคเหนือเพื่อรองรับกับความต้องการรถมือสองในเชียงใหม่และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือ “ขณะนี้เรากำลังขยายสาขาเพิ่มเติมในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย หลังจากเปิดสาขาที่เชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว เราได้เตรียมพร้อมที่จะเปิดสาขาเชียงรายและอีก 1 สาขาในใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร” มร.โนมูระ กล่าว
กัลลิเวอร์ เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1.5 ไร่ โดยมีพื้นที่จอดรถสำหรับการขาย 50 คันและตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 30 คันต่อเดือน สาขาล่าสุดนี้เป็นสาขาที่ 5 ลงทุนโดยวีกรุ๊ป
มร.โนมูระ กล่าวว่าตนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดรถมือสองในภาคเหนือว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูง ทั้งนี้เพราะจังหวัดภาคเหนือถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวจะกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าภาคเหนือได้เป็นอย่างดี
กัลลิเวอร์ปัจจุบันมี 3 สาขาในจังหวัดสมุทรปราการ 1 สาขาที่นครสวรรค์ และขณะนี้กำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิดสาขาเชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ ขอนแก่นและสุพรรณบุรี “ผมอยากจะบอกว่าเราได้มีการเจรจากับผู้สนใจจำนวนมากที่จะมาร่วมกับเราในการขยายเครือข่ายกัลลิเวอร์ในประเทศไทย” มร. โนมูระ กล่าว

– 2 –
ภายใต้แผนการยกระดับตลาดรถมือสองในประเทศไทย กัลลิเวอร์ ได้แนะนำระบบธุรกิจรถมือสองที่ได้รับการยอมรับสู่สังคมไทย โดยเฉพาะข้อเสนอรับประกันความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการรับซื้อคืนภายใน 30 วันหรือ 5,000 กิโลเมตร พร้อมทั้งการรับประกันมาตรฐาน 6 เดือนหรือ 10,000 กิโลเมตร ตลอดจนข้อเสนอเพิ่มเติมรับประกัน 1 – 3 ปีแล้วแต่อายุของรถยนต์
สำหรับกัลลิเวอร์ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทค้ารถมือสองในประเทศญี่ปุ่น มีสาขาทั้งสิ้น 430 สาขาในปัจจุบัน และมีการซื้อรถมือสองปีละประมาณ 200,000 คัน และขายรถออกตรงสู่ผู้บริโภคประมาณปีละ 60,000 คันผ่านเครือข่าย 430 สาขาแฟรนไชส์ทั่วประเทศญี่ปุ่น
มร.โนมูระ กล่าวว่ากัลลิเวอร์ขณะนี้กำลังดำเนินการพัฒนาระบบการซื้อขายผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งรู้จักอย่างแพร่หลายในชื่อ “ดอลฟิเนต” (Dolphinet) ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายใต้ระบบนี้ จะทำให้ลูกค้าและผู้ร่วมธุรกิจกับกัลลิเวอร์ สามารถทำธุรกรรมการซื้อและขายรถมือสองบนจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าตลาดรถมือสองในประเทศไทยขณะนี้ ยังไม่สู้จะดีมากนัก มร.โนมูระ กล่าวว่า วี-กัลลิเวอร์ มีความมั่นใจว่าตลาดรถมือสองจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งส่งผลให้กัลลิเวอร์ ได้รับการติดต่อจากผู้สนใจที่จะร่วมทำธุรกิจกับกัลลิเวอร์ ซึ่งรวมไปถึงเจ้าของเต็นท์รถอิสระทั่วไป บริษัทเช่าซื้อรถยนต์ หรือแม้แต่นักธุรกิจทั่วไป ก็ให้ความสนใจที่จะเจรจาร่วมธุรกิจแฟรนไชส์รถมือสองกับกัลลิเวอร์ และผู้สนใจทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด โทรศัพท์ 02-168-3356-7