อีเอ็มซีเปิดตัวนวัตกรรมไฮบริดคลาวด์ที่งานอีเอ็มซี เวิลด์ 2014 สตอเรจที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์และระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ ปฏิวัติเทคโนโลยีสตอเรจ นำเสนอบริการคลาวด์ราคาประหยัดสู่ผู้ใช้ทั่วไป

0
247
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ – 28 พฤษภาคม 2557

ประเด็นข่าว:

 

  • แนวโน้มเรื่องระบบโมบายล์ โซเชียล คลาวด์ และบิ๊กดาต้า ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ผู้ให้บริการและลูกค้าทุกขนาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ และปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากระบบวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อยกระดับกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจและไอที
  • ด้วยเหตุนี้ อีเอ็มซีจึงปฏิวัติเทคโนโลยีสตอเรจ และนำเสนอบริการคลาวด์ราคาประหยัดสู่ผู้ใช้ทั่วไป โดยมีซอฟต์แวร์ (Software-Defined Storage) ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าผสมผสานคุณประโยชน์ของระบบคลาวด์สาธารณะและระบบคลาวด์ภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี
  • อุปกรณ์ EMC Elastic Cloud Storage (ECS) รุ่นใหม่นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์สตอเรจขนาดใหญ่ที่ก้าวล้ำ นำเสนอประโยชน์ของระบบคลาวด์สาธารณะ ทั้งในเรื่องความสะดวกในการใช้งาน ความคล่องตัว และค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า พร้อมด้วยการควบคุมและความปลอดภัยที่พบในระบบคลาวด์ภายในองค์กร (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่นี่)
  • ViPR 2.0 Software-Defined Storage สร้างมาตรฐานและระบบงานอัตโนมัติสำหรับโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจ โดยเพิ่มความสะดวกในการจัดการทั้งโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจที่มีอยู่และโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจใหม่ ด้วยบริการข้อมูลแบบใหม่ ที่จะรองรับแอพพลิเคชั่นในอนาคต และระบบวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า และตอนนี้สนับสนุนสตอเรจอาเรย์เพิ่มมากขึ้น (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่นี่)

 

 

เนื้อหาข่าว:

 

อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) เปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ สำหรับสตอเรจโดยมีซอฟต์แวร์ (Software-Defined Storage) ซึ่งมอบคุณประโยชน์ที่ผสมผสานกันระหว่างระบบคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) และระบบคลาวด์ภายในองค์กร (Private Cloud) โดยจะช่วยให้ผู้ให้บริการและลูกค้าทุกขนาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์ในเรื่องของประสิทธิภาพ ความคล่องตัว ความปลอดภัย และความสามารถในการควบคุมของระบบไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud)

 

แพลตฟอร์มที่ 3 ของระบบไอที ขับเคลื่อนจากแนวโน้มของเทคโนโลยีคลาวด์, โมบายล์, โซเชียล และบิ๊กดาต้า เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ มากมาย รวมไปถึงภัยคุกคามด้านการแข่งขัน สำหรับองค์กรธุรกิจในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม  โมบายล์แอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่มอบประสบการณ์ที่โดดเด่นและราบรื่นสำหรับลูกค้าในการติดต่อสื่อสารและทำธุรกรรม  แอพพลิเคชั่นเหล่านี้รองรับผู้ใช้หลายร้อยถึงหลายล้านคน และก่อให้เกิดข้อมูลมากกว่าแอพพลิเคชั่นรุ่นเก่านับพันเท่า  ด้วยเหตุนี้ องค์กรต่างๆ จึงต้องปฏิรูปองค์กรโดยอาศัยซอฟต์แวร์ รวมทั้งปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้กลายเป็นเวอร์ช่วลอย่างสมบูรณ์ และสร้างระบบคลาวด์แบบอัตโนมัติ ควบคู่ไปกับการรันแอพพลิเคชั่นบางอย่างบนระบบคลาวด์สาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้เมื่อผสานรวมเข้าด้วยกัน ก็จะกลายเป็นระบบไฮบริดคลาวด์ โดยแอพพลิเคชั่นเกือบทั้งหมดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายให้กับระบบไอที  ทั้งนี้ Economist Intelligence Unit แนะนำให้ปรับใช้รูปแบบไฮบริดคลาวด์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้ตีพิมพ์รายงานที่ระบุว่าผู้บริหารองค์กรธุรกิจ 63% มีแผนที่จะเพิ่มการพึ่งพาระบบไอทีในองค์กร เพื่อนำเสนอทรัพยากรไอทีทั้งภายในและภายนอกองค์กร

 

เพื่อช่วยให้ลูกค้ารับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมไอที อีเอ็มซีจึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ Software-Defined Storage เพื่อช่วยองค์กรต่างๆ ในเรื่องการบริหาร จัดการแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรที่มีอยู่ รวมทั้งช่วยให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่ได้รวดเร็วขึ้นและด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เร็วขึ้น และช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายได้จากแหล่งข้อมูลใหม่ๆ

 

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ใหม่

 

  • อุปกรณ์ EMC® Elastic Cloud Storage (ECS) (เดิมใช้ชื่อว่า “Project Nile”) นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์สตอเรจขนาดใหญ่ที่ล้ำสมัย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ ให้บริการและลูกค้าทุกขนาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม  อุปกรณ์ ECS มอบประโยชน์ของระบบคลาวด์สาธารณะ ทั้งในเรื่องความสะดวกในการใช้งาน ความคล่องตัว และค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า พร้อมด้วยการควบคุมและความปลอดภัยดังที่พบในระบบคลาวด์ภายในองค์กร  อุปกรณ์ ECS มีค่าใช้จ่ายโดยรวม (TCO) ถูกกว่า 28% เมื่อเทียบกับบริการคลาวด์สาธารณะจาก Amazon และ Google (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่นี่)
  • EMC ViPR™ Software-Defined Storage Platform รุ่นใหม่ นั่นคือ EMC ViPR 2.0 ประกอบด้วยความสามารถใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจทั้งเก่าและใหม่ และจัดหาบริการข้อมูลใหม่ๆ ที่จะรองรับแอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่และระบบวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า  ViPR 2.0 นับเป็นสะพานที่เชื่อมโยงไปสู่แพลตฟอร์มที่ 3 (3rd Platform) ของระบบไอที โดยจะช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจได้อย่างอัตโนมัติและสอดคล้องกัน  นอกจากนี้ ViPR ยังเชื่อมต่อกับเครื่องมือจัดการและทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์บริหารจัดการในระดับที่สูงขึ้นไปได้จาก VMware, OpenStack และ Microsoft ดังนั้นสตอเรจจึงสามารถเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่กว้างขวางมากขึ้น  ViPR 2.0 เพิ่มบริการข้อมูลใหม่ๆ รวมถึงการรีพลิเคตและการกระจายข้อมูล ทั้งยังรองรับไดรฟ์ราคาถูกและอาเรย์เพิ่มเติมจากบริษัทอื่นผ่านทาง OpenStack (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่นี่)
  • EMC Data Domain® DD2200 นำเสนอระบบสตอเรจสำหรับการปกป้องข้อมูลในองค์กร ออกแบบเป็นพิเศษด้วยราคาที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าในตลาดระดับกลาง  ด้วยการนำเสนอ DD2200 ผ่านทางเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกของอีเอ็มซี อีเอ็มซีช่วยให้ลูกค้าในตลาดระดับกลางประสบความสำเร็จในการติดตั้งระบบผ่านทางโซลูชั่น VSPEX® (บล็อกEMC Pulse)
  • เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อีเอ็มซีเปิดตัวผลิตภัณฑ์และสมรรถนะใหม่ๆ สำหรับโซลูชั่นไฮบริดสตอเรจในตระกูล VNX® รวมถึงสตอเรจอาเรย์ระดับเริ่มต้น VNXe3200 ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าโซลูชั่น VNXe® รุ่นเก่าถึง 3 เท่า และพัฒนาต่อยอดจาก VNX Series (เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2556)  นอกจากนี้ อีเอ็มซียังได้เปิดตัว ‘Project Liberty’ ซึ่งเป็นระบบ VNX ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นและประสบการณ์ผู้ใช้ของ VNX พร้อมทั้งเพิ่มอิสระในการติดตั้งแอพพลิเคชั่นในดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ ด้วยความคล่องตัวในแบบที่ใกล้เคียงกับระบบคลาวด์  นอกจากนี้ อีเอ็มซียังได้เพิ่มเติม EMC D@RE (Data-At-Rest-Encryption) ให้กับ VNX Series โดยรองรับการเข้ารหัสข้อมูลที่เขียนไปยังดิสก์และขจัดการเข้าถึงข้อมูลจากการเคลื่อนย้ายไดรฟ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่นี่)

 

คำกล่าวของผู้บริหาร:

เดวิด กูลเด้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศของอีเอ็มซี

 

“อุตสาหกรรมกำลังมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของเทคโนโลยีไอที ปัจจัยที่ขับเคลื่อนมาจากอุปกรณ์หลายพันล้านเครื่อง ผู้ใช้หลายพันล้านคน และแอพพลิเคชั่นหลายล้านรายการ  แน่นอนว่าขณะนี้ไม่มีอุตสาหกรรมหรือองค์กรใดเลยที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้  ภารกิจหลักสำหรับลูกค้าในปัจจุบันก็คือ การเพิ่มความได้เปรียบด้านการแข่งขัน โดยอาศัยเทคโนโลยีโมบายล์, โซเชียล, คลาวด์ และบิ๊กดาต้า ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อรองรับเวิร์กโหลดทั่วไปขององค์กร  รูปแบบไฮบริดคลาวด์ช่วยให้ลูกค้ารันแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งภายในและภายนอกดาต้าเซ็นเตอร์ และผลิตภัณฑ์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ซึ่งเปิดตัวในวันนี้จะช่วยรองรับรูปแบบดังกล่าว”

 

เกี่ยวกับอีเอ็มซี

อีเอ็มซี คอร์เปอเรชั่นคือผู้นำระดับโลกที่ช่วยองค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบ IT as a service โดยcloud computing เป็นพื้นฐานสำคัญในการเปลี่ยนผ่านอีเอ็มซี ช่วยให้การเดินทางไปสู่ cloud computing ทำได้รวดเร็วขึ้นด้วยนวัตกรรมในรูปแบบของผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆพร้อมทั้งสนับสนุนหน่วยงานเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดเก็บ จัดการ ปกป้อง และวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดขององค์กรด้วยวิธีที่คล่องแคล่ว ชื่อถือได้ และคุ้มค่ามากว่า ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซีได้ที่www.EMC.com.