สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอลได้เริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินตรง 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเมืองซูริคประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ไปยังเมืองตูริน เมืองหลวงแห่งแคว้นเพียดมองต์ของอิตาลี
สายการบินฯ ได้ฉลองเส้นทางใหม่อย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยเที่ยวบิน เอฟ7498 ที่บินด้วยเครื่องบินซาบ 2000 ขนาด 50 ที่นั่งลำใหม่ล่าสุดของสายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอลได้เดินทางถึงสนามบินตูรินเมื่อเวลา 08.40น ตามเวลาท้องถิ่น
เมืองตูรินถือเป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญทางตอนเหนือของอิตาลี อยู่ติดกับเทือกเขาแอลป์ และชายแดนฝรั่งเศส สนามบินได้ให้บริการในระดับภูมิภาค รองรับจำนวนผู้โดยสารกว่า 4.5 ล้านคน
ม.ร. มาริซิโอ เมอร์โล ประธานกรรมการบริหารของสายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอล กล่าวว่า “สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอลมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นสายการบินแรกที่ให้บริการเที่ยวบินตรงเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเมืองซูริคและตูริน
เส้นทางบินใหม่นี้จะขยายการดำเนินธุรกิจของเราในตลาดอิตาลี ที่ซึ่งเราได้เปิดให้บริการในเส้นทางบินไปยังกรุงโรม ฟลอเรนซ์และบอลซาโน่ และเร็วๆนี้ เราจะเปิดให้บริการเส้นทางบินไปยังเมืองเวโรนา
“นักเดินทางเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยวพักผ่อนจะได้รับประโยชน์จากบริการใหม่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำเสถียรภาพด้านการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศสวิสเซอร์แลนด์และอิตาลี
“วันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ของเราในการพัฒนาเครือข่ายสายการบินระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งโดย การเชื่อมต่อเมืองต่างๆในทวีปยุโรป เชื่อมโยงกับพันธมิตรเครือข่ายการบินระดับโลกของเรา อาทิ สายการบินเอทิฮัดและแอร์เบอร์ลิน”
เพื่อต้อนรับการเปิดเส้นทางใหม่ ม.ร. โรแบร์โต้ บาร์บิเอรี ประธานกรรมการบริหารของสนามบินตูริน กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สายการบินเอทิฮัด รีเจียนนอลได้เริ่มให้บริการมาสู่ตูริน ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและช่วยให้ผู้โดยสารของสายการบินได้รับความสะดวกสบายในการเข้ามายังประเทศอิตาลีผ่านการบริการที่ครบครันและทันสมัยของเรา”
นอกเหนือจากการเชื่อมต่อระหว่างเมืองตูรินและซูริค เที่ยวบินบนเส้นทางใหม่นี้ยังมอบความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารด้วยการเชื่อมต่อกับเที่ยวบินใหม่ล่าสุดของสายการบินเอทิฮัดที่บินตรงจากเมืองซูริคไปยังกรุงอาบูดาบี *
เที่ยวบินจากกรุงอาบูดาบี ที่ให้บริการโดยสายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรร่วมทุน อาทิสายการบินเจ็ท แอร์เวย์และสายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลียช่วยเชื่อมต่อเส้นทางในตะวันออกกลาง อนุทวีปอินเดีย เอเชียและออสเตรเลีย
