เปิดกรุภาพพระบรมฉายาลักษณ์ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” กว่า 10,000 องค์ และของสะสมอื่นๆ อีกมากมายอันเกี่ยวเนื่องกับพระองค์ พร้อมภาพข่าวในพระราชสำนัก ที่บันทึกจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เกือบทุกวัน นานกว่า 20 ปี
นายภูดิท กรรณิการ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภู-วนารถ เจ้าของงานอดิเรกการสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ ในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผู้ซึ่งมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ สิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระองค์มากมาย นับไม่ถ้วน
อาจารย์ภูดิท เล่าให้ฟังถึงงานอดิเรก “การสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ว่า ตอนตนเองเด็กๆ บ้านที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขขทัย เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตนเองและครอบครัวจะต้องดูข่าวในพระราชสำนักทุกวัน ได้เห็นในหลวงพระราชินีทรงงานต่างๆ มากมายเพื่อคนไทย จึงรู้สึกทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงพระราชินี นอกจากนี้ยังได้เห็นความงดงามของพระราชพิธีสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ความงดงามของฉลองพระองค์ พระจริยวัตร และรอยพระสรวย ที่เป็นยิ้มแห่งสยามในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ จึงทำให้เริ่มสนใจเรื่องราวของพระองค์
การสะสมช่วงแรกๆ นั้นยังไม่จริงจังมากนัก เนื่องจากยังเด็กๆ ก็จะเก็บสะสมรูปของท่านจากสิ่งที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ปฏิทิน ภาพจากหนังสืเก่าๆ ของที่บ้าน ประกอบกับที่บ้านจะได้รับปฏิทินปีใหม่จากธนาคารต่างๆ มากมาย พอหมดปีปฏิทิน คุณแม่ก็เป็นคนเก็บปฏิทินเหล่านี้ไว้ไม่ทิ้ง แต่พอโตขึ้นคุณแม่ก็มอบหน้าที่ในการเก็บปฏิทินให้คุณนุ จึงได้เห็นความงดงามของพระบรมฉายาลักษณ์ของพระราชินี ทำให้มีความคิดที่อยากจะมีงานอดิเรกในการเก็บสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
เริ่มสะสมภาพพระบรมฉายาลักษณ์อย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2534 ตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้ไปค้นเจออัลบั้มภาพ และหนังสือพระราชประวัติของพระราชินี ที่เก่ามากในตู้ของคุณแม่ จึงนำมาเก็บรวมไว้กับภาพและปฏิทินที่มีอยู่ ตอนเรียนชอบเข้าห้องสมุดของโรงเรียนพบหนังสือชื่อ “รวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์พิเศษ ใน สมเด็จพระบรมราชินีนาถ” ด้านหลังมีบทพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เรื่อง “ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” อ่านแล้วชอบมากจึงได้นำไปถ่ายเอกสาร และเข้าเล่มเก็บไว้
ในส่วนของพระบรมฉายาลักษณ์ที่เก็บมาจนถึงปัจจุบันนี้มีมากมาย จนนับไม่ถ้วน อาจมากกว่า 10,000 องค์ ทั้งภาพสี ขาวดำ ภาพเล็ก ภาพน้อย เก็บหมดทุกองค์ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจำนวนมากมายขนาดนี้ ภาพชุดแรกๆ เป็นภาพเก่าที่คุณแม่เก็บไว้เอง และส่วนหนึ่งได้มาจากอาจารย์วไลพร บุญเพ็ญ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาไทยตอนเรียนชั้นมัธยมปลาย บ้านอาจารย์ท่านนี้จะรับ นิตยสาร เดือนละประมาณ 3 – 4 เล่ม ได้มีโอกาสไปบ้านอาจารย์ จึงขออาจารย์ฉีกรูปภาพสมเด็จพระบรมราชินีนาถจากหนังสือเหล่านั้น แต่รูปภาพเก่าๆ อาจารย์ไม่ให้ จนเรียนจบชั้น ม.6 อาจารย์เห็นว่าสะสมจริงๆ จึงมอบภาพเก่าจากนิตยสารสกุลไทย นิตยสารจันทร์ยุคเก่าซึ่งเป็นของแม่อาจารย์ จำนวนกว่า 100 ภาพ ให้คุณนุ นอกจากนั้นคุณนุก็เก็บหาเอง โดยเฉพาะเมื่อเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ ก็เริ่มมีพระบรมฉายาลักษณ์มากขึ้น ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ จะชอบไปเดินตลาดนัดสวนจตุจกัร ตลาดนัดคลองถม ร้านหนังสือเก่าๆ ทุกที่ไปมาหมด เพื่อหาหนังสือ และรูปภาพที่เกี่ยวกับสมเด็จพระบรมราชินีนาถ โดยมีวิธีในการหารูปภาพคือ เลือกหนังสือที่เป็นเดือนวันเฉลิม วันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากัตริย์ ก็มักจะเจอภาพ แต่คุณนุเล่าว่า บางครั้งมีอะไรบางอย่างที่เกิดความมหัศจรรย์กับตัวเอง คือ เวลาไปเที่ยวไหน พอเจอร้านหนังสือเก่าๆ จะเข้าไปดูโดยไม่ได้คิดอะไร ก็มักจะเจอหนังสือที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นมาโดยบังเอิญ ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่เก็บ คุณนุแยกเป็นหมวดหมู่ เช่น พระบรมฉายาลักษณ์คู่ของในหลวงราชินี ภาพที่เกี่ยวกับพระราชประวัติ ภาพเก่าขาวดำยุคเก่า ภาพฉลองพระองค์ในเครื่องแบบทางราชการต่างๆ ภาพฉลองพระองค์ชุดไทย ภาพการเสด็จเยี่ยมราษฎร์ ภาพแยกเป็นปี พศ. บ้าง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของสะสมอื่นๆ เช่น ปฏิทินทั้งแบบแขวน แบบตั้งโต๊ะ แบบปกพา ดวงตราไปณษณียกร ไปรษณียบัตร เหรียญกปาษณ์ที่ระลึกที่ระลึกในวโรกาสต่างๆ บัตรโทรศัพท์ ส.ค.ส. โปสกาดส์ หนังสือที่ระลึกในวโรกาสสำคัญต่างๆ และสิ่งพิมพ์บนวัสดุอื่น เช่น ประปุกออมสิน แก้วน้ำ จาน ฯลฯ
ของสะสมของ อ.ภูดิท ที่ทำให้ต้องทึ้งมากที่สุด คือ คุณนุได้บันทึกภาพข่าวในพระราชสำนัก ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องไว้ด้วย โดยได้เริ่มบันทึกเทปอัดมาตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน แต่อัดเป็นวีดีโอเทป ตอนนี้มีทั้งหมดประมาณมากกว่า 100 ม้วน ได้ถามคุณนุว่าทำไมถึงต้องอัดเทปข่าวในพระราชสำนัก และอัดทุกวัน ไม่ไปไหนเลยหรือ..? คุณนุ บอกว่า ที่อัดเพราะชอบดูข่าวพระราชกรณียกิจของพระราชวงศ์ไทย ประกอบกับวันหนึ่งประมาณ ปี พ.ศ. 2533 ได้ดูข่าวในพระราชสำนัก มีงานเฉลิมฉลอง 90 พรรษาสมเด็จย่า ในหลวง พระราชินี พระราชวงศ์ ทุกพระองค์ เสด็จฯ ไปเฝ้าสมเด็จย่าที่พระตำหนักดอยตุง จ.เชียงราย ได้เห็นภาพในหลวง พระราชินี พระราชวงศ์ทุกพระองค์ เข้าไปกราบ และกอดสมเด็จย่า สมเด็จย่าก็ทรงกอดและหอมแก้มทุกพระองค์ ดูข่าวในพระราชสำนักวันนั้นแล้วมีความสุขมาก อยากดูอีก แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี จึงขอให้คุณแม่ซื้อเครื่องอัดวีดีโอเทปให้ แต่แม่ก็ไม่ซื้อให้ จนเรียนจบ ม.6 เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ คุณพ่อเห็นว่าตนเองอยากได้เครื่องเล่นวีดิโอมาเพื่ออัดข่าวในหลวงพระราชินี จึงซื้อให้ หลังจากนั้นเวลา 2 ทุ่มเกือบทุกวันจะมานั่งดูข่าว และอัดข่าวในพระราชสำนัก จนรู้ว่าช่วงระยะเวลาใดจะเสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎรที่ไหน อย่างไร ปัจจุบันถึงแม้เทคโนโลยีเปลี่ยนไป คุณนุก็ยังคงอัดเป็นวีดีโอเทป จนมาเรียนปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีการศึกษา ที่ ม.เกษตร มีการเรียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีการบันทึกภาพดิจิตอล จึงนำเทปวีดีโอเหล่านั้นมาแปลงสัญญาณและตัดต่อลงแผ่น DVD พร้อมจัดทำข้อมูลประกอบข่าวในพระราชสำนัก เช่น ในแผ่น DVD 1 แผ่น จะข่าวพระราชกรณียกิจในหลวง พระราชินีเสด็จไปไหน อย่างไร นอกจากนี้ยังมีวีดีโอเทปเกี่ยวกับพระราชพิธีที่สำคัญต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 อีกด้วย
ตลอดระยะเวลากว่า 23 ปี ที่มีงานอดิเรกสะสมพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมราชินีนาถนั้น ตนเองมีความสุขมาก สิ่งของเหล่านี้เป็นกำลังแรงใจ ให้ตนเองทุกครั้งที่ท้อแท้กับชีวิต เวลามานั่งเปิดดูภาพพระบรมฉายาลักษณ์องค์ต่างๆ หรือเปิดข่าวในพระราชสำนักดู จะมีกำลังใจขึ้นมาทันทีทุกครั้ง ของสะสมเหล่านี้ทำให้ตนเองเป็นคนอ่อนโยน ใจเย็นกับเรื่องต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต และที่สำคัญมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของตนเองตลอดเวลา ปัจจุบันเห็นว่าคนในสังคมมีติดต่ออยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งตนเองเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นคนฯรุ่นใหม่ จึ งอยากให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสองพระองค์ จึงมักจะนำรูปภาพต่างๆ มาให้นักศึกษาได้ชมเวลาสอน และนำรูปภาพมาโพสทาง Facebook ให้เพื่อนๆของตนเองได้ชมกัน จนมีเพื่อนหลายคนบอกให้ทำเวปเพจเกี่ยวกับในหลวงพระราชินี จึงได้ร่วมกับเพื่อนทำเวปเพจชื่อ “In my heart ภาพที่อยู่ในหัวใจคนไทย” โดยอัญเชิญภาพพระบรมฉายาลักษณ์ และพระราชกรณียกิจของพระราชวงศ์ไทย มาให้ผู้สนใจชม ซึ่งมีผู้สนใจเข้าชมและเป็นแฟนเพจมากพอสมควร
ความฝันอันสูงสุดของอาจารย์ภูดิท กรรณิการ์ คือ อยากนำสิ่งสะสมมาจัดนิทรรศการเฉลิมเกียรติ อยากจัดทำพิพิธภัณฑ์ หรือศูนย์ประวัติศาสตร์ที่รวบรวมเรื่องราวของในหลวงพระราชินี และพระราชวงศ์ หรืออาจจะมอบสิ่งสะสมเหล่านี้ให้เป็นสมบัติแก่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง เพื่อรักษาเก็บไว้เป็นสมบัติของชาติ แต่ถ้าไม่เป็นอย่างที่คิด ก็จะยังคงเก็บสะสมเรื่องราวของสมเด็จพระบรมราชินีนาถต่อไปด้วยความจงรัก และภักดี
