ช่วงวัยเด็ก เป็นช่วงเวลาสำคัญแห่งการเจริญเติบโตทั้งในเชิงสรีระและพัฒนาการทางความคิด ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคต คือ การได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ตั้งแต่ลูกน้อยยังเป็นทารกแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโภชนาการที่ถูกสุขอนามัย การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี การเปิดโลกทัศน์ให้หนูๆเกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ด้วยแอคทิวิตี้ต่างๆ รวมถึงการเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับกับกิจกรรมและช่วงวัยของเด็ก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะด้วยสรีระของลูกน้อยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังแอคทิวิตี้ต่างๆ ที่เหมาะกับเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกัน ดังนั้นคอตตอน ยูเอสเอและแอ๊บซอร์บา จึงได้รวบรวมเคล็ดลับการเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับลูกน้อย และแอคทิวิตี้ของลูก เพราะเมื่อลูกน้อยรู้สึกสบายตัว เด็กก็สามารถเรียนรู้และจดจำสิ่งใหม่ๆ ได้อย่างไร้กังวล
คอตตอน ยูเอสเอ สัญลักษณ์แห่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์ฝ้าย 100% กล่าวว่า “คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ส่วนใหญ่มักทราบกันอยู่แล้วว่าผิวของเด็กๆ นั้นมีลักษณะแพ้ง่ายและบอบบางเป็นพิเศษ ทั้งยังต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด โดยผิวเด็กแรกเกิดจนถึงช่วงปฐมวัยนั้นมีลักษณะอ่อนบาง มีขนอ่อนปกคลุมชั้นผิวหนังเล็กน้อย เซลล์ผิวหนังมีความเหนียวแน่นน้อยกว่าผู้ใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกน้อยจะมีผิวที่แห้งง่าย ไม่ค่อยมีเหงื่อเหมือนเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ที่สำคัญคือผิวจะอ่อนแอต่อการสัมผัสกับสารที่มีความระคายเคือง ทำให้เกิดผดผื่นหรือรอยแดงอักเสบได้ง่ายมาก ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติให้สัมผัส อันอ่อนนุ่มไม่ระคายเคืองผิวของลูกน้อย จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับพ่อแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกเสื้อผ้าชนิดที่เหมาะสมกับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งต้องมีคุณสมบัติที่ไม่ดูดซับความร้อนและช่วยระบายถ่ายเทอากาศได้ดี อย่าง ผ้าฝ้ายแท้ธรรมชาติคุณภาพสูง 100% ที่นอกจากจะเหมาะกับอากาศร้อนอบอ้าวของเมืองไทยแล้ว ผ้าฝ้ายแท้ธรรมชาติยังให้ความนุ่มสบาย ทนทานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
และเมื่อเจ้าตัวน้อยรู้สึกสบายตัวแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าให้เข้ากับแอคทิวิตี้แสนสนุกของลูกๆ คอตตอน ยูเอสเอ จึงได้เชิญกูรูผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องแต่งกายเด็ก คุณโสภณ ณรงคนานุกูล ผู้จัดการส่วนสินค้าเสื้อเด็กแอ๊บซอร์บา (Absorba) โดยบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มาช่วยแนะนำเทคนิคการเลือกเสื้อผ้าให้กับลูกน้อย พร้อมเคล็ดลับการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าคุณหนูๆ ในโอกาสต่างๆ ดังต่อไปนี้
เลือกเสื้อผ้าอย่างไร ให้เข้ากับช่วงวัยของหนูๆ
การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับลูกน้อยในวัยที่แตกต่าง ตั้งแต่ 0-5 ปีนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญในการเลือกสรร เพื่อให้ลูกน้อยสวมใส่อย่างมีความสุขและพร้อมที่จะเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการที่ดีเยี่ยมต่อไป ก่อนอื่นเรามาจำแนกวัยของลูกน้อยแต่ละช่วงอายุ โดยเริ่มจาก วัยแรกเริ่ม ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี ซึ่งวัยนี้เป็นวัยที่ต้องทะนุถนอมเป็นอย่างมาก เพราะภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกายยังมีน้อยมาก ดังนั้นเราควรเลือกเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยที่ได้มาจากธรรมชาติ ที่ปราศจากสารเคมีที่ใช้ในการตกแต่งเนื้อผ้า และเหมาะสมกับทุกสภาวะอากาศ อย่างผ้าฝ้ายแท้ธรรมชาติคุณภาพสูง 100% โดยในฤดูร้อนควรจะเลือกเสื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกบางเบา สามารถถ่ายเทอากาศได้ดีและแห้งเร็ว เมื่อมีเหงื่อออกหรือน้ำนมหกเปื้อนจะไม่เกิดแบคทีเรียหรือกลิ่นอับชื้น ที่อาจส่งผลให้เกิดผื่นแพ้ได้ง่าย ส่วนในฤดูหนาวหรืออยู่ในห้องปรับอากาศ ก็ควรเลือกเสื้อผ้าที่หนานุ่มสบายผิวและให้ความรู้สึก อุ่นสบาย ต่อมา วัยเตาะแตะ อายุระหว่าง 1-3 ปี เป็นวัยที่เริ่มซุกซน อยากรู้อยากเห็น เริ่มมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควร เฝ้าดูแลความปลอดภัยของเด็กวัยนี้ให้มาก และควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำความสะอาดได้ง่าย ทนทานต่อการซักทำความสะอาด และที่สำคัญระบายอากาศได้ดี โดยเสื้อผ้าของเด็กวัยนี้สามารถเพิ่มกลิ่นอายของแฟชั่น ความสวยงามและฟังก์ชั่นตกแต่งมากขึ้นได้ แต่ก็ควรเลือกสิ่งตกแต่งบนเสื้อผ้าที่ไม่มีความแหลมคม ความแข็งหรือมีลักษณะที่จะสามารถเสียดสีหรือกดทับผิวอันอ่อนนุ่มของลูกน้อย เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดความระคายเคืองแล้ว ยังเป็นต้นเหตุต่อการเกิดบาดแผลขึ้นได้อีกด้วย
และวัยเตรียมอนุบาล คือ อายุระหว่าง 3-5 ปี เป็นวัยที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ชอบเลียนแบบ ชอบทำกิจกรรม และเป็นวัยที่ต้องเริ่มปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ เข้าร่วมสังคมต่างๆ เริ่มรู้จักเลือกสิ่งของที่ชอบ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วยตัวเองด้วยบ้าง โดยเริ่มเลือกรูปแบบที่เป็นแฟชั่นหรือที่กำลังนิยมสำหรับเด็กในวัยนี้ รวมถึงควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง ก็ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถป้องกันแสงยูวีได้ เพื่อลดผลกระทบต่อผิวหนังของเด็ก หรือกิจกรรมภาคสนามที่ต้องลุย ก็ควรจะเลือกเสื้อผ้าที่สามารถซักทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกได้ง่าย คราบสกปรกไม่สามารถฝังในเส้นใยได้ ซึ่งช่วยลดการใช้สารเคมีหรือผงซักฟอกที่เข้มข้นในการขจัดคราบสกปรก ที่อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและสุขภาพของลูกน้อยได้
“มิกซ์แอนด์แมทช์” เพิ่มดีกรีความสนุกให้กับทุกกิจกรรม
การมิกซ์แอนด์แมทช์ นับเป็นอีกปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันที่คุณแม่คุณแม่ควรให้ความพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแต่ละกิจกรรมของน้องๆ หนูๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อแล้ว การมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้ายังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะเรื่องของสีสันและลวดลาย เพราะจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กๆ ในเรื่องจินตนาการ การจดจำสิ่งต่างๆ เด็กจะรู้จักความแตกต่างเรื่องของสีได้เมื่อลูกน้อยอายุ 4 เดือนขึ้นไป ซึ่งสีสันและลวดลายที่เห็นในเสื้อผ้าที่สะดุดตาจะช่วยเด็กให้อารมณ์และสมองมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ซึ่งในยามว่างของน้องๆ กิจกรรมมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้า ถือว่าเป็นกิจกรรมทางเลือกหนึ่งที่คุณแม่คุณแม่อาจจะนำมาช่วยเพิ่มพัฒนาการให้กับน้องๆ ได้ โดยอาจนำเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมทช์ได้ทั้งเก่าและใหม่ที่มีมาสอนเด็กๆ ให้สนุกในการเรียนรู้ เช่น การหยิบเสื้อยืดกับเสื้อเชิ้ตมาใส่ทับซ้อนกัน ผูกชายเสื้อด้านข้างหรือพับปลายแขนให้ดูมีมาดเท่ สำหรับเด็กผู้หญิงอาจหาเสื้อผ้าที่ตัดต่อลูกไม้เนื้อผ้าฝ้ายเนื้อบาง ใส่กับท่อนล่างอย่างกระโปรงยีนส์ และสามารถเลือกสีสันที่ตัดกันหรือโทนเดียวกันทั้งเสื้อและกระโปรงก็ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์ความชอบที่อ่อนหวานหรือเปรี้ยวจี๊ด และให้หนูๆ ได้ลองเลือกที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองในการสวมใส่ ทำให้เด็กรู้สึกมั่นใจและเป็นการสร้างความภูมิใจในการสร้างสรรค์ผลงานมิกซ์แอนด์แมทช์ด้วยตัวเอง
เทคนิคง่ายๆ ในการมิกซ์แอนด์แมทช์ คุณพ่อคุณแม่อาจลองเลือกเสื้อผ้าสีสันสดใส ที่เน้นสีที่ตัดกัน สำหรับน้องผู้หญิง อาจเลือกชุดลายพิมพ์ดอกไม้สีแฟนซีกับเลกกิ้งสีบานเย็น ที่เพิ่มความน่ารักสดใสสไตล์สาวหวาน ส่วนเด็กผู้ชาย คุณพ่อคุณแม่ อาจลองเลือกกางเกงยีนส์ฟอกสีน้ำเงินที่ดูทันสมัยและสามารถใส่กับชุดอื่นๆ ได้ หรือเสื้อยืดสีเหลืองสดหรืออาจจะเพิ่มความเก๋อีกนิดกับเสื้อเชิ้ตลายเท่ ๆ กับกางเกงผ้าพื้นขาสั้นลุคสบายๆ แต่ดูหล่อบาดใจเกินวัย
ยิ่งเป็นโอกาสสำคัญ ที่น้องๆ มีนัดต้องออกงานโชว์ตัว คุณพ่อคุณแม่อาจเพิ่มลูกเล่นของเสื้อผ้าด้วยโทนสีพาสเทลอ่อน อย่างสีเบจ ครีม น้ำตาล ที่ให้ความรู้สึกหรูหราคลาสสิค มิกซ์แอนด์แมทช์ด้วยเสื้อผ้าไล่เฉดสีโทนเดียวกัน อย่างการเลือกสีครีมแมทช์ด้วยการไล่เฉดสีอ่อนและสีเข้ม โดยการใช้กางเกงกระโปรงสีเบจ เสริมเครื่องประดับให้ดูโดดเด่นด้วยหมวก กระเป๋า และรองเท้า ที่เพิ่มเสน่ห์ความน่าสนใจให้หนูๆ ได้ไม่น้อย
หวังว่าเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ เลือกและมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าให้หนูน้อยได้อย่างเหมาะสมทั้งวัยและโอกาส และเมื่อวัยซนประจำบ้านได้สวมใส่เสื้อผ้าสุดเก๋ และรู้สึกได้ถึงสัมผัสอันนุ่มสบายไร้กังวลแล้ว เด็กๆ ก็จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ ซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของลูกน้อยต่อไปในอนาคต
