บริษัท ทรินา โซลาร์ จำกัด (Trina Solar) ผู้นำระดับโลกด้านโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะครบวงจร เปิดเผยว่า โมดูล Vertex เดินหน้าบุกเบิกการใช้โมดูลกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงและประสิทธิภาพสูงในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก โดยล่าสุด ทรินา โซลาร์ ได้เซ็นสัญญาจัดหาโมดูล Vertex ล็อตแรก 100MW ให้แก่บริษัท ซันซอร์ส เอเนอร์จี (SunSource Energy) ซึ่งเป็นผู้นำด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานในอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดเกิดใหม่อีกหลายแห่ง
ซันซอร์ส เอเนอร์จี มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองโนอิดา รัฐอุตตรประเทศของอินเดีย บริษัทได้สั่งซื้อโมดูล Vertex แบบสองหน้า 105MW และจะนำไปใช้ในหลายโครงการในรัฐต่าง ๆ ทั่วอินเดีย โดยทรินา โซลาร์ จะเริ่มส่งมอบโมดูลในไตรมาส 4 ของปีนี้
เฮเลนา หลี่ ประธานบริษัท ทรินา โซลาร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า นี่เป็นการเซ็นสัญญาจัดหาโมดูล Vertex เกิน 100MW ครั้งแรกในอินเดีย
“การที่เราได้รับคำสั่งซื้อโมดูล Vertex ล็อตใหญ่จากอินเดียแสดงให้เห็นว่าพลังงานหมุนเวียนเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแห่งนี้”
“โมดูล Vertex แบบสองหน้าได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดอินเดีย และเราคาดการณ์ว่าโมดูลกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงจะยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากในอนาคต ทั้งนี้ ตลาดอินเดียมีการแข่งขันสูง โดยลูกค้าใส่ใจในประสิทธิภาพ ต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) อย่างมาก”
“ทุกคนต่างต้องการลดต้นทุน LCOE ซึ่งโมดูล Vertex สามารถช่วยได้เพราะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูง ทำให้ไม่ต้องใช้โมดูลจำนวนมากในการผลิตไฟฟ้าให้ได้ตามเป้าหมาย”
“นอกจากนั้นยังช่วยลดต้นทุน BOS เพราะการใช้โมดูลน้อยลงทำให้ใช้อุปกรณ์ติดตั้ง สายไฟ และกล่องพักสายไฟลดลงตามไปด้วย นอกจากนั้นยังใช้ชั่วโมงทำงานและพื้นที่น้อยลงด้วยเช่นกัน”
คุณหลี่กล่าวเสริมว่า โมดูล Vertex เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพมาแล้ว ได้แก่ เซลล์ PERC ชนิดโมโนคริสตัลไลน์, มัลติบัสบาร์, เทคโนโลยีการตัดแบ่งโมดูลเป็นสามส่วน และเทคโนโลยีกระจกสองชั้น
อาดาร์ช ดาส ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซันซอร์ส เอเนอร์จี กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับมาตรฐานประสิทธิภาพและคุณภาพในระดับสูงเสมอมา ความร่วมมืออย่างยาวนานกับทรินา โซลาร์ ช่วยให้เราสามารถเดินหน้านำเสนอโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เราหวังว่าการผสานความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของทรินา โซลาร์ กับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมประยุกต์ของเรา จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพการใช้พลังงานหมุนเวียนในอินเดียและที่อื่น ๆ”
คุชากรา นันดัน ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซันซอร์ส เอเนอร์จี กล่าวเสริมว่า “เรายินดีกับทรินา โซลาร์ ที่ได้รับคำสั่งซื้อล็อตนี้ และยินดีที่ได้ร่วมงานกัน การใช้เทคโนโลยีโมดูลสองหน้าเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของเราในการเดินหน้าใช้เทคโนโลยีพลังงานใหม่เพื่อประโยชน์ของลูกค้าและนักลงทุน เราเป็นบริษัทแรก ๆ ในอินเดียที่ดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ + ระบบกักเก็บพลังงาน และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนน้ำ เทคโนโลยีโมดูลแบบสองหน้าช่วยเพิ่มความทนทานของเซลล์ PERC ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ และทำให้เราสามารถใช้รังสีสะท้อน เราเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นตัวพลิกเกม และเราตั้งใจว่าจะใช้โมดูลเหล่านี้ในโครงการต่าง ๆ ทั่วประเทศ”
โมดูล Vertex ของทรินา โซลาร์ มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงถึง 21% และสามารถผลิตไฟฟ้ามากกว่า 500W จากแผงด้านหน้า ซึ่งสูงกว่าโมดูลรุ่นก่อน ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
โมดูล Vertex มีสองแบบ ได้แก่ โมดูลแบบกระจกรองด้านหลังหน้าเดียว และโมดูลแบบกระจกสองชั้นสองหน้า ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าจากด้านหลังของโมดูลได้ด้วย
โมดูลที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงจะช่วยลดต้นทุน BOS อย่างมาก อย่างเช่นโมดูล Vertex 500W+ แบบกระจกสองชั้นสองหน้าที่ติดตั้งบนพื้นดินในโซลาร์ฟาร์มแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งช่วยลดต้นทุน BOS ราว 6-8% และลดต้นทุน LCOE ราว 3-4% เมื่อเทียบกับโมดูลกระจกสองชั้นสองหน้า 410W ทั่วไป
โมดูล Vertex ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น เพราะแต่ละแผงมีเซลล์ซิลิคอนขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 210 มม. เซลล์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้มีพื้นที่จับแสงมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น โดยแต่ละแผงมี 150 เซลล์ ประกอบด้วยเซลล์ PERC ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำ ทำให้มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงถึง 21% ซึ่งหมายความว่าผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น
เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำประกอบด้วยเทคโนโลยีมัลติบัสบาร์ ซึ่งลดการสูญเสียกำลังไฟฟ้าให้กับความต้านทานจนเหลือน้อยที่สุด ส่งผลให้โมดูลทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสภาพแสงน้อย นอกจากนั้นยังมีการใช้เทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ขั้นสูงในการออกแบบโมดูล ซึ่งช่วยลดช่องว่างระหว่างเซลล์แต่ละเซลล์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของโมดูลดีขึ้น นำไปสู่การลดต้นทุน BOS ในที่สุด
ขณะเดียวกัน ทีมวิจัยและพัฒนาของทรินา โซลาร์ ได้ผสมผสานเทคโนโลยีการตัดแบ่งโมดูลเป็นสามส่วนโดยไม่สร้างความเสียหายและมีความหนาแน่นสูง ซึ่งช่วยลดการสูญเสียกำลังไฟฟ้าให้กับความต้านทาน ทั้งยังเพิ่มความทนทานต่อการแตกหักและจุดร้อนของโมดูล ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่สูงสุด ส่งผลให้สามารถสร้างสรรค์โมดูลกำลังสูงที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความน่าเชื่อถือสูง ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพของโมดูลตลอดระยะเวลารับประกัน
ลิงก์รูปภาพ: https://www.trinasolar.com/sites/default/files/India+Habitat+Center_recompress.jpg
คำบรรยายภาพ: India Habitat Centre Project ในปี 2559 (จากซ้ายไปขวา) เการาฟ มาเธอร์ กรรมการบริษัท ทรินา โซลาร์ อินเดีย, เฮเลนา หลี่ ประธานบริษัท ทรินา โซลาร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และคุชากรา นันดัน ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซันซอร์ส เอเนอร์จี
เกี่ยวกับทรินา โซลาร์
ทรินา โซลาร์ คือผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2540 ในฐานะผู้พัฒนาโซลูชันเซลล์แสงอาทิตย์อัจฉริยะสำหรับสถานีไฟฟ้าขนาดใหญ่ โซลูชันเชิงพาณิชย์และโซลูชันสำหรับครัวเรือน ระบบกักเก็บพลังงาน และโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ นอกจากนี้ ทรินา โซลาร์ ยังเป็นผู้บุกเบิกด้านพลังงาน IoT (Internet of Things) และมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกในภาคส่วนเกิดใหม่นี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.trinasolar.com
เกี่ยวกับซันซอร์ส เอเนอร์จี
ซันซอร์ส เอเนอร์จี คือบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำ ผู้พัฒนา ครอบครอง และดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในนามของลูกค้าเชิงพาณิชย์และเชิงอุตสาหกรรมทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2553 บริษัทก็เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ และนำเสนอโซลูชันพลังงานใหม่ให้แก่ตลาดอินเดียและทั่วโลก บริษัทส่งมอบโครงการพลังงานแสงอาทิตย์คุณภาพสูงกว่า 300 โครงการ ใน 24 รัฐทั่วอินเดีย และ 6 ประเทศทั่วโลก เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโครงการใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ณ เวลาที่เริ่มทดสอบการทำงาน โครงการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของเอกชนโครงการแรก ๆ ในอินเดีย รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ + ระบบกักเก็บพลังงาน บริษัทมีแหล่งเงินทุนภายในองค์กร รวมถึงมีศักยภาพด้าน EPC และการบริหารสินทรัพย์ จึงสามารถจัดการกระบวนการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดด้วยตัวเอง นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับเงินลงทุนจาก Neev Fund ซึ่งเป็นบริษัทไพรเวทอิควิตี้ที่ได้รับการสนับสนุนจาก State Bank of India (SBI) และ Department for International Development (DFID) แห่งสหราชอาณาจักร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sunsource-energy.com