เทรนด์ไมโครผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจจัดงาน CLOUDSEC 2013 ครั้งแรกในไทย เผยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนคลาวด์ ช่วยองค์กรธุรกิจรับมือกับกระแส 3 C ได้อย่างมั่นใจ

0
331
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ ประเทศไทย — CLOUDSEC Summits เป็นงานประชุมสัมมนาวิชาการระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2554 และเป็นงานสัมมนาชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ที่เหมาะสำหรับผู้บริหารระดับ C (CIO, CTO, CSO ฯลฯ) รวมถึงผู้จัดการระดับอาวุโสทั้งหลาย ภายในงานจะนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีหน้าที่ในการดูแลและป้องกันปัญหา รวมถึง        กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามโลกไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Have a Safe Journey”        ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้ผู้จัดการและผู้ใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์สามารถประยุกต์เอาแนวทางปฏิบัติและเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์จากทั่วโลกมาปรับใช้เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดความปลอดภัยในการเปลี่ยนระบบจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปไปสู่ระบบเสมือนและท้ายที่สุดเพื่อไปยังโลกของระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ซึ่งในปีนี้งานประชุมสัมมนา CLOUDSEC Summits 2013 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2556 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30 น. ณ  ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

CLOUDSEC Conference 2013

มร.เคน โลว์ ผู้อำนวยการโครงการงานประชุมสัมมนา CLOUDSEC Summits และประธานคณะกรรมการบริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พันธมิตรด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ (Cloud Security Alliance) กล่าวว่า “การประชุมสัมมนา CLOUDSEC เป็นเวทีที่รวมผู้นำทางความคิดในอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ที่มีชื่อเสียงมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า การอภิปรายเชิงโต้ตอบ พร้อมด้วยแปดกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้สำหรับภูมิภาคแห่งนี้  ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้นวัตกรรมล่าสุดเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูล                ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรฐานต่างๆ และได้รับมุมมองเชิงลึกจากผู้นำในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับแนวโน้มเทคโนโลยีเกิดใหม่ สำหรับประเด็นและไฮไลท์สำคัญๆ ของงานในปีนี้  ได้แก่  แนวทางป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ (การโจมตีแบบมีเป้าหมาย) กระแสความนิยมในการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในการทำงานที่เรียกว่า Consumerization (BYOD/การรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่) การคุ้มครองและความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูล การจัดการความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลขนาดใหญ่ อาชญากรรมทาง       ไซเบอร์ และการบังคับใช้กฎหมาย

 

ระบบคลาวด์พร้อมใช้งานแล้ว

CLOUDSEC 2013 ให้ความสำคัญกับความจำเป็นในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าและกระตุ้นให้ผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้ใช้ และองค์กรอุตสาหกรรมต่างๆ เดินหน้าปรับใช้ระบบคลาวด์อย่างรวดเร็ว ภายใต้กรอบแนวคิดสำคัญ 3 C ได้แก่ กระแสความนิยมในการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในการทำงาน (Consumerization) ระบบคลาวด์ (CLOUD) และการโจมตีทางไซเบอร์แบบมีเป้าหมาย (Cyber Threats)

1. กระแสความนิยมในการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในการทำงาน (Consumerization): แนวโน้มของการนำอุปกรณ์ไอทีส่วนตัวมาใช้ในที่ทำงานผลักดันให้เกิดความต้องการด้านเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้นในทุกที่ ทุกเวลา และการเข้าถึงอุปกรณ์ในหลากหลายรูปแบบได้อย่างปลอดภัย สามารถปรับขยายได้ และมีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามการเปิดเผยข้อมูลที่เพิ่มขึ้นภายในโครงสร้างด้านไอทีที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว กลุ่มแอพพลิเคชั่น และสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเปิดรับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในรูปแบบใหม่ๆ องค์กรต่างๆ จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบและโซลูชั่นที่สามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ อีกทั้งยังจะต้องสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบในการคุ้มครองข้อมูลได้อีกด้วย

2. การพัฒนาแนวทางการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ (Cloud): เน้นแนวทางที่หลากหลายซึ่งผู้นำในอุตสาหกรรมเห็นพ้องกันว่าความต้องการแนวทางปฏิบัติเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการผลัก ดันให้เกิดความมั่นใจต่อความสำเร็จในระบบคลาวด์ ด้วยเหตุนี้ CSA และบริษัทเทรนด์ไมโครจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ  สมาคม และองค์กรธุรกิจทั่วภูมิภาค โดยทั้งสองมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันแนวทางด้านความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น รวมทั้งเดินหน้าส่งเสริมและให้ความรู้อย่างเต็มที่แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์

3. การโจมตีทางไซเบอร์แบบมีเป้าหมาย (Cyber Threats): การพัฒนาอย่างยั่งยืนของแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของเครือข่ายที่สนับสนุน และจากความมุ่งมั่นในการสนับสนุนแพลตฟอร์มคลาวด์อย่างต่อเนื่อง บริษัทเทรนด์ไมโครจึงได้ขยายขีดความสามารถของเครือข่ายป้องกันภัยอัจฉริยะ (เทรนด์      ไมโคร สมาร์ท โพรเท็คชั่น เน็ตเวิร์ก) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ที่ได้รับการเปิดตัวเมื่อปี 2551

 

 

และล่าสุดเครือข่ายป้องกันภัยอัจฉริยะ (เทรนด์ไมโคร สมาร์ท โพรเท็คชั่น เน็ตเวิร์ก) ได้รวมขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์ขั้นสูงสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ที่จะช่วยให้บริษัทเทรนด์ไมโคร สามารถระบุภัยคุกคามความปลอดภัยใหม่ๆ ครอบคลุมแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้น รวมถึงการตรวจสอบประวัติแอพพลิเคชั่นบนมือถือ (สำหรับภัยคุกคามอุปกรณ์เคลื่อนที่) กฎด้านช่องโหว่ (สำหรับช่องโหว่และการโจมตี)         กฎด้านการตรวจสอบเครือข่าย (สำหรับการติดต่อสื่อสารของเครือข่าย) และการระบุรายชื่อที่เชื่อถือได้ในระบบคลาวด์ คุณสมบัติเหล่านี้มาพร้อมกับโซลูชั่นซิเคียว คลาวด์ (SecureCloud) และดีพ ซิเคียวริตี้ (Deep Security) โดยนำเสนอการปกป้องข้อมูลที่มีประสิทธิภาพให้กับองค์กรธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งระบบคลาวด์แบบสาธารณะและส่วนตัว รวมถึงระบบเสมือนจริงของ VMware vSphere นอกจากนี้การเข้ารหัสที่ไม่ซ้ำกันผ่านการจัดการคีย์ตามนโยบายและการตรวจสอบความถูกต้องของเซิร์ฟเวอร์ที่โดดเด่นยังช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเก็บรักษาข้อมูลสำคัญที่จัดเก็บไว้กับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำได้อย่างปลอดภัย และช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของระบบจริง ระบบเสมือน และระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัท วีเอ็มแวร์ และบริษัท เทรนด์ไมโคร ได้ร่วมมือกันนำเสนอโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ (agentless) เป็นครั้งแรก โดยออกแบบมาสำหรับการปรับใช้ในระบบคลาวด์  เดสก์ท็อป และศูนย์ข้อมูลที่ใช้ซอฟต์แวร์ VMware® จะเห็นได้ว่าทั้งวีเอ็มแวร์และเทรนด์ไมโครได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยก้าวสู่ระดับใหม่ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถผสานระบบเข้าด้วยกันได้มากขึ้น และปรับใช้ระบบเสมือนจริงอย่างสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนได้รับประโยชน์จากการลงทุนในวีเอ็มแวร์ของตนได้อย่างเต็มที่ และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับสูงสุด”

          มร. สุเรช มุสตาฟา กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก SANS Institute กล่าวว่า        “การประชุมสุดยอด CLOUDSEC เป็นเวทีที่ดีเยี่ยมที่พร้อมให้ข้อมูลแนวโน้มอุตสาหกรรมล่าสุด รวมถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์และสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ดีในการพบปะกับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมด้านไอทีและซิเคียวริตี้ด้วย”

โดยการจัดงาน CLOUDSEC Summits 2013 ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรชั้นนำด้านไอทีและ                   ซิเคียวริตี้ ได้แก่ วีเอ็มแวร์  คลาวด์ ซิเคียวริตี้ อัลลิแอนซ์ (ซีเอสเอ) SANS เอชพี เน็ตเวิร์คกิ้ง  อินฟอร์  บลูโค้ด       เมโทรซิสเต็มส์ฯ เน็ตคลาวด์ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ เอ็มเฟ็ค เอ็นอีซี และเคเอสซี

 

เกี่ยวกับการประชุม CLOUDSEC Summits

CLOUDSEC Summits เป็นงานประชุมสัมมนาวิชาการระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2554 เป็นงานสัมมนาชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ที่เหมาะสำหรับผู้บริหารระดับ C (CIO, CTO, CSO ฯลฯ) รวมถึงผู้จัดการระดับอาวุโสทั้งหลาย ภายในงานจะนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีหน้าที่ในการดูแลและป้องกันปัญหา รวมถึงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามโลกไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ซึ่งจะเข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกท่านได้รับทราบภายใต้แนวคิดที่ว่า “Have a Safe Journey”          ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้ผู้จัดการและผู้ใช้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์สามารถประยุกต์เอาแนวทางปฏิบัติและเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์จากทั่วโลกมาปรับใช้เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดความปลอดภัยในการเปลี่ยนระบบจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปไปสู่ระบบเสมือนและท้ายที่สุดเพื่อไปยังโลกของระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.cloudsec.co