UNISOC ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการโทรแบบ 5G ผ่านโมดูล 5G mmWave

0
491
image_pdfimage_printPrint

ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับโลกด้านชิปเซ็ตการสื่อสารผ่านมือถือและชิปเซ็ต IoT วันนี้ UNISOC ออกมาประกาศว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาการโทรผ่านโมดูล 5G millimeter wave (mmWave) บนคลื่นความถี่ 26GHz แล้ว โดยความสำเร็จดังกล่าวจะเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาชิพเซ็ท 5G mmWave ต่อไป

การทดสอบครั้งนี้ดำเนินการโดยใช้เทอร์มินัล 5G mmWave ที่เป็นตัวต้นแบบของ UNISOC ประกอบกับอุปกรณ์กำเนิดสัญญาณ และอุปกรณ์วิเคราะห์สัญญาณของ Keysight

เทอร์มินัลต้นแบบ 5G mmWave ตัวดังกล่าวประกอบด้วย สายอากาศ phased array ที่มีความถี่ระดับกลางและใช้วิธีส่งสัญญาณแบบเบสแบนด์ ซึ่งถูกติดตั้งมาพร้อมกับตัวประมวลผลแบบ multi-core ด้วยระบบประมวลสัญญาณความเร็วสูง FPGA และสายอากาศ phased array ขนาดใหญ่ พร้อมความสามารถในการรองรับคลื่นความถี่ 26/39GHz เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของแบนด์วิธขนาดใหญ่ที่มีความถี่และความเร็วสูง รวมถึงการทดสอบ MU-MIMO ในสถานการณ์จำลองบนเครือข่าย 5G NR ที่หลากหลาย

UNISOC โลดแล่นในแวดวงเครือข่าย 5G มายาวนาน อีกทั้งยังเข้าร่วมการทดสอบเพื่อวิจัยและพัฒนาเครือข่าย 5G ที่จัดโดย IMT-2020 (5G) Promotion Group มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ UNISOC และ Keysight ได้ร่วมกันสาธิตการโทรผ่านโมดูล 5G mmWave และแสดงผลลัพธ์ล่าสุดของเทคโนโลยี 5G mmWave ที่งาน PT Expo China 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย. ในปักกิ่ง

เกี่ยวกับ UNISOC

UNISOC เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แบบ fabless ชั้นนำในเครือของ Tsinghua Unigroup ที่มีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาชิปเซ็ตเพื่อรองรับการใช้งานด้านการสื่อสารเคลื่อนที่และ IoT ผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยชิปเซ็ตที่รองรับมาตรฐานการสื่อสาร 2G/3G/4G/5G และโซลูชันชิปเซ็ตในด้าน IoT, RFFE, การเชื่อมต่อไวร์เลส, ความมั่นคง, โทรทัศน์ และอื่น ๆ บริษัทมีพนักงานราว 4,500 คน มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 14 แห่ง และศูนย์บริการลูกค้า 7 แห่งทั่วโลก บริษัทมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสามซัพพลายเออร์ชิปเซ็ตมือถือที่ครองส่วนแบ่งในตลาดโลกมากที่สุด รวมถึงผู้ให้บริการชิปเซ็ตที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอุปกรณ์ IoT และการเชื่อมต่อ ตลอดจนบริษัท 5G ชั้นนำของจีน รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.unisoc.com