เมื่อวันที่ 9-10 สิงหาคมที่ผ่านมา บุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึง นายหยู เฉิงตง ซีอีโอของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป และนายหู หยู ประธานบริษัท IFLYTEK พร้อมด้วยนักพัฒนา 6,000 คน มารวมตัวกันที่เมืองตงก่วน เพื่อเข้าร่วมการประชุม Huawei Developers Conference 2019 ซึ่งเปิดเวทีให้ผู้เข้าร่วมงานได้อภิปรายเกี่ยวกับแวดวงอุตสาหกรรม การพัฒนาและการใช้เทคโนโลยี 5G ทั่วโลก และการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมระดับโลก การประชุมจัดขึ้นที่ทะเลสาบซงซาน ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทคท่ามกลางทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เจ้าหน้าที่ประจำคณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคทะเลสาบซงซาน กล่าวว่า เมืองตงก่วนกำลังอ้าแขนรับบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนบุคลากรที่มีความสามารถ และผู้ให้บริการเครือข่ายสุดล้ำ ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเมืองตงก่วนในการบ่มเพาะบริษัทนวัตกรรม ตลอดจนความพร้อมด้านสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นเลิศ
เมืองตงก่วนประสบความสำเร็จในการผลักดันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าสู่กระบวนการเชิงพาณิชย์ ด้วยห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่ครบวงจร ช่างเทคนิคที่มีทักษะ และราคาที่ดินที่ค่อนข้างถูก ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลักดันผลการวิจัยเข้าสู่กระบวนการทางอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้บริษัทและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน บรรดาโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพในเมืองตงก่วนยังได้มีส่วนช่วยดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีเช่นกัน พร้อมนำความคึกคักและความมีชีวิตชีวามาสู่ระบบนิเวศนวัตกรรมของเมือง ยกตัวอย่างเช่น XBOTPARK ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาระบบหุ่นยนต์และฮาร์ดแวร์อัจฉริยะ ด้วยการเชื่อมโยงทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย บริษัท ซัพพลายเชนทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ฯลฯ มาตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2557 จนปัจจุบันประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะโครงการนวัตกรรมแล้วมากกว่า 90 โครงการ นายหลี่ เซ่อเซียง หนึ่งในผู้ก่อตั้ง XBOTPARK กล่าวแนะนำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ว่า ความเร็วในการผลิตซ้ำของเมืองตงก่วน อาจเร็วกว่าในซิลิคอนวัลเลย์หรือในยุโรป ถึง 5-10 เท่า ด้วยต้นทุนเพียงหนึ่งในห้า หรือหนึ่งในสี่เท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทไฮเทคระดับคุณภาพยังได้อานิสงส์จากการหลอมรวมกันของบริษัทต้นน้ำและปลายน้ำของอุตสาหกรรมในเมืองตงก่วน รวมถึงระบบนิเวศอุตสาหกรรมโดยรวมที่ดีขึ้น ดังเช่น หัวเว่ย ที่ได้ตั้งศูนย์ R&D ขึ้นในเมืองตงก่วน ขณะที่ซัพพลายเออร์ของหัวเว่ย เช่น iSoftStone และ Chinasoft International Limited ก็ได้มาเปิดฐานการดำเนินงานในตงก่วนเช่นกัน บริษัทเหล่านี้เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น บิ๊กดาต้า และ คลาวด์คอมพิวติ้ง และเป็นผู้สนับสนุนบริการด้านไอที ซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศนวัตกรรมของเมือง
ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า หัวเว่ยได้ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองตงก่วน ด้วยการจัดตั้งศูนย์ R&D ขึ้นที่นี่ เพื่อรองรับการพัฒนา ทดสอบ และผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยตงก่วนและเมืองเซินเจิ้น จะกลายเป็นฮับเทคโนโลยีระดับโลกแห่งใหม่ และมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการจัดระบบอุตสาหกรรมนานาชาติ
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของตงก่วนช่วยดึงดูดองค์ประกอบด้านนวัตกรรมระดับไฮเอ็นด์ การปฏิรูประบบธุรกิจในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กระบวนการจดทะเบียนบริษัทและขั้นตอนการอนุมัตินั้นง่ายขึ้น และช่วยให้บริษัทลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้ ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาผู้ประกอบการระดับแนวหน้ามาเปิดดำเนินธุรกิจนวัตกรรมในเมืองตงก่วนกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมความสามารถหลักในการแข่งขันของเมือง
ณ สิ้นปี 2561 มีบริษัทไฮเทคระดับชาติมากกว่า 5700 แห่ง และทีมวิจัยนวัตกรรมระดับมณฑล 36 ทีมรวมกันอยู่ในเมืองตงก่วน พร้อมยึดครองตำแหน่งที่สำคัญในระบบนิเวศนวัตกรรมของเมือง และทำงานเป็นแกนกลางเพื่อสร้างตงก่วนให้เป็นเมืองนวัตกรรมระดับชาติ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมการประชุมกล่าวว่า “ด้วยการให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม เมืองตงก่วนจึงทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการดึงดูดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมนวัตกรรม สนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มการวิจัยและพัฒนา และสนับสนุนการคิดค้นนวัตกรรมอย่างเป็นอิสระ เพื่อให้เมืองตงก่วนบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ”
