เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องการ “ฝากไข่” มาบ้างตามสื่อต่าง ๆ ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมมีบุตร แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร และทำไมจึงต้องฝากไข่ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า การเก็บรักษาไข่ด้วยวิธีแช่แข็ง (Egg Freezing) หรือ “การฝากไข่” คือการนำเซลล์ไข่ของผู้หญิงมาเก็บแช่แข็งไว้ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เมื่อพร้อมและต้องการมีบุตรค่อยนำมาละลาย เพื่อปฏิสนธิต่อไป
ส่วนทำไมต้องฝากไข่ วิธีการนี้มีประโยชน์อย่างไร เหมาะกับใครบ้าง เราได้รวบรวม 5 เหตุผลที่สาวๆ ทุกคน โดยเฉพาะสาวโสดทั้งหลาย ควรรีบไปฝากไข่กันตั้งแต่วันนี้
1. ลดความเสี่ยงทารกเกิดมาผิดปกติ
ทุกคนทราบกันดีว่า ผู้หญิงยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็จะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ขณะที่ความเสี่ยงในการแท้ง หรือทารกมีความผิดปกติ เช่น โรคดาวน์ซินโดรม กลับสูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากเพศหญิงมีเซลล์ไข่จำนวนจำกัด ประมาณ 6-7 ล้านใบ ซึ่งจะลดลงเรื่อย ๆ จากการมีรอบเดือน ทำให้เมื่ออายุมากขึ้น ความสมบูรณ์และจำนวนของไข่ก็จะลดลง ส่งผลให้มีทารกในครรภ์มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดมาผิดปกติ
ถ้าพูดในเชิงกายภาพแล้ว ช่วงวัยที่เหมาะสมในการเจริญพันธุ์สำหรับเพศหญิงมากที่สุดคืออายุ 20-35 ปี แต่ในปัจจุบัน ช่วงอายุนี้เป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับการเรียนและการทำงานมากกว่า กว่าจะแต่งงานมีลูกก็อาจเลยช่วงวัยนี้ไปแล้ว การฝากไข่จึงเป็นวิธีการช่วยลดความเสี่ยงที่ทารกจะมีความผิดปกติจากไข่ที่ไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ วิธีการนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านพันธุกรรม หรือมีโรคที่ส่งผลให้รังไข่เสื่อมการทำงานเร็ว หรือเคยผ่าตัดรังไข่ เนื่องจากมีซีสต์หรือเนื้องอก อีกด้วย
2. สะดวก ปลอดภัย ได้ผลดี
จากความก้าวหน้าทางการแพทย์ด้านการเจริญพันธุ์ ทำให้วิธีการเก็บไข่ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย โดยแพทย์จะใช้ยาช่วยกระตุ้นให้มีการผลิตไข่เป็นเวลา 10 – 12 วัน ซึ่งจำนวนไข่ที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับอายุและความแข็งแรงของผู้หญิงแต่ละคน จากนั้นจึงทำการเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอด แล้วคัดไข่ที่มีสภาพสมบูรณ์เหมาะสมไปแช่แข็งในอุณหภูมิที่เย็นจัด -196 องศาเซลเซียส
การฝากไข่เป็นวิธีการที่ปลอดภัยมาก ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรงใดๆ เพราะเป็นเพียงการนำไข่ที่จะสูญเสียในแต่ละรอบเดือนมาเก็บรักษาไว้เท่านั้น หลังฝากไข่เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งจะมีอัตราการรอดหลังละลายอยู่ที่ 80 – 90%
3. ใช้ชีวิตโสดได้เต็มที่ ไร้กังวล
ยุคนี้สมัยนี้ ผู้หญิงไม่ได้มีหน้าที่เพียงอยู่บ้าน เลี้ยงลูก ตามแบบฉบับหญิงไทยสมัยก่อนอีกต่อไป สาวๆ ยุคใหม่มีโอกาสและความสามารถแทบไม่ต่างจากผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าการแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ทั้งระดับปริญญาและในสายอาชีพ การทำงาน ที่บางคนเก่งจนได้ตำแหน่งสูงๆ บางคนก็อยากเดินตามความฝัน ในอาชีพที่ตนเองรัก หรือการท่องเที่ยว ออกไปผจญภัยรอบโลก ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้หญิงแต่งงานช้าลงจากเดิมมาก เฉลี่ยอายุ 35 ปี ถึงจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัว และเมื่อแต่งช้า มีลูกช้า ก็ทำให้ปัญหามีบุตรยากตามมา
การฝากไข่ที่สมบูรณ์แข็งแรงไว้เพื่อรอวันที่พร้อม จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทั้งสาวโสดและคู่รักให้ไม่ต้องกังวลกับตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้นอีกต่อไป สามารถสนุกกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เพราะเรารู้กันดีว่า การเลี้ยงดูลูกเป็นงานที่หนัก ต้องมีความรับผิดชอบสูง จนทำให้บางคู่ไม่สามารถโฟกัสกับความก้าวหน้าทางอาชีพได้อย่างเต็มที่ หรือใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงได้เหมือนเดิม
4. แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและกฎหมาย
ปี 2019 แล้ว สังคมเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่มีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่หวงแหนความโสด ไม่ต้องการแต่งงานมีคู่ครอง แต่ในจำนวนนี้ก็มีหลายคนที่มีความพร้อมทั้งความรู้และทรัพย์สิน และต้องการที่จะมีบุตร ซึ่งตามตัวบทกฎหมายในปัจจุบัน ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานยังไม่สามารถมีบุตรจากการผสมเทียมได้ การผสมเทียมสามารถทำให้แก่สามีภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย (จดทะเบียนสมรส) เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่ากฎหมายจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สาวโสดก็สามารถมีบุตรได้โดยอาศัยการบริจาคอสุจิและการผสมเทียม เนื่องจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสังคมยอมรับ Single Mom หรือแม่เลี้ยงเดี่ยวกันมากขึ้น นอกจากนี้ การที่คนอยู่เป็นโสดกันมากขึ้นก็ทำให้อัตราการเกิดลดลงอย่างน่าเป็นห่วง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในอนาคต ซึ่งสาวโสดที่อยากเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็สามารถนำไข่ของตนมาเก็บไว้ก่อนได้ คู่รักเพศเดียวกันก็เช่นเดียวกัน เพราะคู่หญิง-หญิงก็สามารถมาฝากไข่ไว้ก่อนได้ หากมีกฎหมายรองรับก็สามารถมีบุตรและสร้างครอบครัวได้ทันที
5. ฝากไว้ อุ่นใจกว่า
อ่านถึงจุดนี้ อาจมีสาวๆ บางคนแย้งว่าไม่ได้อยากมีลูกสักหน่อย ไม่ต้องฝากไข่หรอก ขอเตือนว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน วันนี้ไม่อยากมี แต่วันหน้าอาจจะอยากขึ้นมาก็ได้ ความโสดที่หวงแหน พอเจอคนที่ถูกใจเมื่ออายุมากขึ้น อาจจะอยากสร้างครอบครัวก็เป็นได้ แต่ขณะที่ใจเราอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ร่างกายเราไม่สามารถย้อนวัยได้ ไข่ที่มีจำกัดก็สร้างขึ้นมาใหม่ไม่ได้ สำหรับสาวๆ กลุ่มนี้ การฝากไข่จึงไม่ต่างกับการซื้อประกัน คือไม่ใช้ก็ได้ แต่มีไว้อุ่นใจกว่า และสุดท้ายหากเราไม่ต้องการใช้จริง ๆ ก็สามารถบริจาคไข่ที่เก็บไว้ให้กับผู้ที่มีบุตรยากคู่อื่น ๆ ได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ หากสาว ๆ หรือคู่รักคู่ไหนสนใจจะฝากไข่ หรือ วางแผนการมีบุตร สามารถเข้าไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง โทร. 02-220-7999