การประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation เปิดฉากขึ้นที่นครปักกิ่งในวันที่ 25 เมษายน ในโอกาสนี้ นายปีเตอร์ ซุน ประธานและซีอีโอบริษัท Inspur Group ได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Build Smart Cities along the Digital Silk Road พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการสร้างเมืองอัจฉริยะตามแนวเส้นทาง Belt and Road ร่วมกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่การเมือง และตัวแทนจากภาคธุรกิจ
นายปีเตอร์ ซุน ชี้ว่า ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา การขยายตัวของเมืองได้มีส่วนอย่างมากต่อการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน และเขามีเหตุผลที่จะเชื่อว่า การก่อสร้างเมืองอัจฉริยะจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่สำหรับเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้า 5G และ AI ทำให้เมืองอัจฉริยะเป็นไปได้ จีนเองได้รับประสบการณ์มากมายในการสร้างเมืองอัจฉริยะ หลังจากที่ได้สั่งสมความเชี่ยวชาญจากการลงมือปฏิบัติมาเป็นเวลาหลายปี โดยเมืองอัจฉริยะจี่หนาน ซึ่งเป็นโครงการเมืองอัจฉริยะที่สร้างโดย Inspur ได้รับการคัดเลือกเป็นโครงการตัวอย่างเมืองอัจฉริยะยอดเยี่ยม 10 อันดับแรกในเดือนเมษายน 2562 ซึ่งถือเป็นการสร้างตัวอย่างในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะภายใต้ Belt and Road Initiative
นายปีเตอร์ ซุน กล่าวว่า การก่อสร้างเส้นทางสายไหมแห่งยุคดิจิทัลไม่ใช่โครงการที่บริษัทจีนดำเนินการโดยลำพัง หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างบริษัททั่วโลก การสร้างเมืองอัจฉริยะต้องอาศัยความร่วมมือของบริษัทจากนานาประเทศ ด้วยเหตุนี้ Inspur จึงได้ผนึกกำลังกับ IBM, Cisco, Diebold Nixdorf, Ericsson และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อริเริ่ม Smart City Alliance ในเดือนพฤศจิกายน 2560 เพื่อส่งเสริมการก่อสร้างเมืองอัจฉริยะตามแนวเส้นทาง Belt and Road โดยมุ่งเน้นไปที่เมืองอัจฉริยะ ระบบการจัดเก็บภาษีอัจฉริยะ เกษตรอัจฉริยะ การเงินอัจฉริยะ และการศึกษาอัจฉริยะ
ปัจจุบัน Inspur ให้บริการด้านการพัฒนาสารสนเทศแก่ 120 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Education Cloud Program ในประเทศไทย Smart Railway Program ในคาซัคสถาน Smart Taxation Program ในแซมเบีย และ Smart City Program ในกือราเซา สำหรับอนาคต Inspur จะร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกมากขึ้น เพื่อสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัลและแบ่งปันผลลัพธ์ของเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกัน นายปีเตอร์ ซุน กล่าวเพิ่มเติม
