ศาลฎีกาพิพากษาให้ข่าวของอินโฟเควสท์เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ – สร้างบรรทัดฐานให้วงการสื่อมวลชนไทย

0
278
image_pdfimage_printPrint

ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ได้มีคำพิพากษาเป็นที่สุดแล้ว วินิจฉัยให้งานสร้างสรรค์ประเภทบทความ รายงานพิเศษ และบทสัมภาษณ์ของอินโฟเควสท์เป็นงานอันมีลิขลิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และตัดสินให้อินโฟเควสท์ได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากการถูกละเมิดโดยการทำซ้ำงานและเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต นับเป็นคดีแรกเกี่ยวกับการละเมิดงานข่าวที่ขึ้นถึงชั้นศาลฎีกา เป็นการยกระดับความสำคัญในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาในวงการสื่อสารมวลชนไทย
นายชาลทอง ปัทมพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท อินโฟเควสท์ จำกัด ผู้ให้บริการข่าวสารข้อมูลออนไลน์ชั้นนำในประเทศไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเงิน หุ้นและการลงทุนต่างๆ เปิดเผยว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562 ในคดีหมายเลขดำที่ ทป.58/2558 คดีหมายเลขแดงที่ ทป.72/2559 ซึ่งอินโฟเควสท์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท บิสนิวส์ เอเอฟอี (ประเทศไทย) จำกัด และกรรมการบริษัทฯ เป็นคดีละเมิดลิขสิทธิ์โดยมีการนำงานข่าวของอินโฟเควสท์ไปทำซ้ำและเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอินโฟเควสท์ได้นำเสนองานในรูปแบบบทความ รายงานพิเศษ และบทสัมภาษณ์ จำนวน 135 ชิ้น เป็นหลักฐานในคดี
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า งานพิพาททั้ง 135 ชิ้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสารที่นำเสนอเพียงข่าวประจำวันและข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่เป็นงานที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยมีการศึกษา รวบรวมและคัดเลือกข้อมูลข่าว มีการจัดทำบทสัมภาษณ์ และผ่านกระบวนการวิเคราะห์ขึ้นด้วยความสามารถของผู้สร้างสรรค์เอง และงานนั้นมีการใช้ความวิริยะ อุตสาหะ สติปัญญา และแรงงานในระดับที่เหมาะสม ตลอดจนมีการใช้วิจารณญาณจากประสบการณ์ในการวิเคราะห์ด้วยความคิดริเริ่มของผู้สร้างสรรค์เอง ศาลจึงวินิจฉัยให้ งานข่าวของอินโฟเควสท์ดังกล่าวเป็นงานวรรณกรรมอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และตัดสินให้อินโฟเควสท์ได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ในงานพิพาทดังกล่าว
“คดีนี้เป็นคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารคดีแรกของประเทศไทยที่ขึ้นไปถึงชั้นศาลฎีกา และมีคำพิพากษาเป็นที่สุดแล้ว
ที่ผ่านมา คนมักจะคิดว่า ข่าวเป็นเพียงข้อเท็จจริง ไม่มีลิขสิทธิ์ จึงเกิดการลอกข่าว แล้วนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลข่าวซึ่งเกิดขึ้นมากมาย ผมเชื่อว่า คำพิพากษาของคดีนี้จะช่วยสร้างบรรทัดฐานเรื่องลิขสิทธิ์ในวงการข้อมูลข่าวสารของไทย และจะช่วยกระตุ้นให้สื่อมวลชนได้ตระหนักรู้ถึงสิทธิของตนเองในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับงานข่าวของตนเอง
นอกจากนี้ คำพิพากษาคดีนี้ยังน่าจะส่งผลดีทำให้สำนักข่าวต่างประเทศระดับโลกต่างๆ ที่มาประกอบธุรกิจข้อมูลข่าวสารในไทยและมีงานสร้างสรรค์ข่าวในรูปแบบเดียวกันกับอินโฟเควสท์ ก็จะมีความเชื่อมั่นในกฎหมายลิขสิทธิ์ของประเทศไทย ว่าจะให้ความคุ้มครองงานข่าวของพวกเขาตามมาตรฐานสากลด้วย” นายชาลทองกล่าว

เกี่ยวกับอินโฟเควสท์
บริษัท อินโฟเควสท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นสำนักข่าวออนไลน์ และผู้ให้บริการข่าวสารข้อมูลผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย นอกเหนือไปจากการผลิตข่าวสารข้อมูลออนไลน์โดยกองบรรณาธิการ และทีมพัฒนาข้อมูลของบริษัท อินโฟเควสท์ยังรวบรวมข่าวสารข้อมูลจากแหล่งต่างๆ นับร้อยแหล่ง ทั้งจากสำนักพิมพ์ภายในประเทศ สำนักข่าวในและต่างประเทศ ศูนย์วิจัย บริษัทหลักทรัพย์ หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ และยังมีบริการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆทั่วโลกอีกด้วย
บริการของบริษัทฯ ได้แก่ “นิวส์เซ็นเตอร์” (NewsCenter) บริการข่าวสารข้อมูลออนไลน์, “ไอคิวนิวส์คลิป” (iQNewsClip) กฤตภาคข่าวออนไลน์, “ไอคิวมีเดียลิงก์” (iQMediaLink) บริการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณพรลดา พานิชกุล
บริษัท อินโฟเควสท์ จำกัด
โทร. 02-2535000 ต่อ 318
Email: pornlada@infoquest.co.th