อินโดรามา เวนเจอร์ส แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และประจำปี 2561

0
471
image_pdfimage_printPrint

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และประจำปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561

ข้อมูลสำคัญของผลประกอบการประจำปี 2561:
 รายได้รวม 10.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบปีต่อปี
 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบปีต่อปี อัตรากำไรหลักรวมก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA Margins) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13
 กำไรสุทธิอยู่ที่ 819 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบปีต่อปี
 กำไรต่อหุ้น อยู่ที่ 4.61 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบปีต่อปี
 กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน อยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบปีต่อปี
 ยืนยันตัวเลขประเมินผลประกอบการเบื้องต้นของปี 2562
 เข้าซื้อกิจการรวมทั้งสิ้น 12 แห่ง สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ

ข้อมูลสรุป:
บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม โดยทำรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากทุกกลุ่มธุรกิจและทุกภูมิภาค อันเป็นผลมาจากขนาดของบริษัทฯ รวมไปถึงการบูรณาการทางธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ที่อ่อนตัวตามฤดูกาลนั้นได้รับผลกระทบจากการหยุดการผลิตชั่วคราวของธุรกิจ PTA/PET ในประเทศเนเธอร์แลนด์และโปแลนด์ ก่อนกลับมาดำเนินการผลิตเป็นปกติตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 กำไรหลักรวมก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) ในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 อยู่ที่ 318 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบปีต่อปี และมีอัตราส่วนหนี้สินจากการดำเนินงานสุทธิต่อทุนที่ 0.87 เท่า ณ สิ้นปี 2561

ภาพรวม: ภาพรวมในปี 2562 และในอนาคต ยังคงเป็นบวก อันเป็นผลมาจากการปรับปรุงโครงสร้างในห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ PET และการพัฒนาการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจเส้นใย ช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรหลังจากนี้ ปริมาณการผลิตโดยรวมในปี 2562 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 13 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 10.4 ล้านตันในปี 2561 บริษัทฯ มั่นใจว่าสามารถทำกำไรได้ตามการประเมินผลการประกอบการที่ 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 และตามแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2566 ยังมุ่งทำกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 2561 โดยมีงบประมาณการลงทุนอยู่ที่ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐจากกระแสเงินสดภายใน

การลงทุนที่กำลังดำเนินอยู่: บริษัทฯ มีรายจ่ายฝ่ายทุนที่จัดสรรไว้แล้วจำนวน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโครงการก๊าซแครกเกอร์ที่รัฐหลุยส์เซียนา และ โรงงานผลิต PTA และ PET แบบบูรณาการ ที่เมืองคอร์ปัส คริสตี มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยโครงการลงทุนนี้จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของไอวีแอลในปี 2562, 2563 และ 2564 ซึ่งน่าจะทำให้เกิดผลกำไรที่สูงขึ้น และช่วยให้หนี้สินต่อส่วนทุนในงบแสดงฐานะทางการเงินมีสัดส่วนที่ดีขึ้น

การพัฒนากลุ่มธุรกิจ: ทุกกลุ่มธุรกิจของไอวีแอลมีความสามารถหรือมี EBITDA margins สองหลักตลอดทั้งวัฎจักรอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจของไอวีแอลในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนและแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจ Integrated PET ธุรกิจโอเลฟินส์ ธุรกิจเส้นใย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของไอวีแอลในอนาคต

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว: “ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เราบรรลุการดำเนินงานตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม ในขณะเดียวกัน สามารถรักษาความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ในปี 2561 เรามีการเติบโตสูงสุดในประวัติศาสตร์ เรามีกิจการใหม่ที่เข้าซื้อ 12 แห่งและกิจการร่วมทุน 3 แห่งที่เราครอบครอง การแบ่งกลุ่มธุรกิจใหม่จะช่วยขับเคลื่อนวิถีการเติบโตในอนาคตของเรา จากความแข็งแกร่งทางการเงิน ทีมผู้นำที่มีความเข้มแข็ง และตำแหน่งในตลาดที่แข็งแกร่งตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ผมมั่นใจว่า เราจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และปี 2562 จะเป็นอีกปีที่ไอวีแอลเติบโตไปอย่างก้าวล้ำ”