“โฮมโปร” ทุ่มเงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ปรับโฉมสาขารองรับไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปพร้อมรับมือเทคโนโลยีที่เข้ามา Disruption ด้วยการเพิ่มพื้นที่การช้อปปิ้งสินค้า และบริการเรื่องบ้านรูปแบบใหม่ หลากหลายช่องทาง ตอบสนองความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์ยุค 4.0 ภายใต้คอนเซปต์ HOME INSPIRES OF LIVING สร้างแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านด้วยสินค้าที่หลากหลายให้เข้ากับทุกๆ ความต้องการที่ไม่มีจุดสิ้นสุด พร้อมบริการเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องบ้านอย่างมืออาชีพ ประเดิมสาขาแรก เอกมัย-รามอินทรา และอีก 2 สาขา มุ่งเน้น Customer Centric สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้าเป็นหลัก พร้อมดันสินค้า Private Brand เพิ่มสัดส่วนยอดขายทะลุ 25% และช่องทางการจัดจำหน่ายที่เชื่อมโยงเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทุกช่องทาง (Omni Channel) ตอกย้ำผู้นำธุรกิจเรื่องบ้านครบวงจรตัวจริง
นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เผยว่า โฮมโปรยืนหยัดความเป็นผู้นำเรื่องบ้านตัวจริงเป็นเวลากว่า 23 ปี มีสาขาให้บริการกว่า 90 สาขาทั่วประเทศ สิ่งหนึ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ คือการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า (Data Analytic) ทุกกลุ่ม Segment เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละโซนพื้นที่ ทั้งกำลังซื้อ ไลฟ์สไตล์ ด้วยการพัฒนาสินค้า และบริการ พร้อมการกระจายสินค้าที่แตกต่างกันไปยังสาขาต่างๆ การปรับโฉมสาขาเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ดำเนินการปรับโฉมสาขา 3 แห่ง คือ โฮมโปร สาขาเอกมัย-รามอินทรา, สาขาราชพฤกษ์ และสาขาเมกาบางนา ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด HOME INSPIRES OF LIVING
สำหรับ โฮมโปร สาขาเอกมัย-รามอินทรา เป็นสาขาที่มียอดขายสูงสุดอันดับหนึ่งในปี 2561 การปรับโฉมสาขาในครั้งนี้ ตอบโจทย์ลูกค้าในโซนกรุงเทพฯตะวันออก และเป็นแลนมาร์คสินค้าเรื่องบ้านแห่งใหม่อย่างแท้จริง ด้วยจุดต่างอย่าง EXCLUSIVE และ LUXURY บนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม. เพิ่มความสะดวกสบายและสร้างประสบการณ์ช้อปที่มากยิ่งขึ้น ให้กับลูกค้าด้วย Variety Inspire สร้างสิ่งที่คิดให้เป็นจริงด้วย Model Room และ QR Code เป็นแห่งแรก พบกับ HOMEPRO EXCLUSIVE LOUNGE เอกสิทธิ์อีกหนึ่งระดับเพื่อรองรับลูกค้าแบบ Private ที่มาซื้อสินค้า และบริการภายในห้าง พร้อมโซนพื้นที่บริการ HOME SERVICE บริการเพื่อคนรักบ้าน โดยช่างมืออาชีพคอยแนะนำ บริการ CLICK & COLLECT ช้อปของตกแต่งบ้านออนไลน์ สามารถเลือกกำหนดช่วงเวลารับสินค้าและสาขาที่สะดวกใกล้บ้านได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือบริการจัดส่งถึงบ้านแบบ Delivery และบริการ Web Q บริการเรียกคิวอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายไม่น่าเบื่อ
โฮมโปรได้พัฒนาสินค้ากลุ่ม ไพรเวทแบรนด์ (Private Brand) ใหม่ ยกระดับสินค้าจาก Good เป็น Better และ Best ตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน, ห้องน้ำ, ห้องครัว, เครื่องมือช่าง และอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำความสะอาด ด้วยกลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง (Differentiation) ที่ต้องมีคุณค่ากับผู้บริโภค ทั้งในด้านดีไซน์ ฟีเจอร์ และฟังก์ชั่น โดยคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพของสินค้าต้องดีเยี่ยม ได้มาตรฐานในราคาที่จับต้องได้ และหาซื้อได้ที่เดียว คือ โฮมโปร หรือ Exclusive @ HomePro เท่านั้น คาดว่าในการผลักดันสินค้ากลุ่มไพรเวทแบรนด์ (Private Brand) ของโฮมโปร จะช่วยให้มีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 20% เป็น 25% ในอนาคต ตลอดจนคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ECO Choice 6 กลุ่มสินค้า, สินค้ากลุ่มผู้สูงวัย, สินค้าที่ขายเฉพาะกลุ่ม (Commercial) อาทิ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โครงการอสังหาริมทรัพย์
นอกจากสินค้า และบริการแล้ว โฮมโปรได้พัฒนาช่องทางการจำหน่าย (E- Commerce) ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า และบริการของโฮมโปรได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง โดยเชื่อมโยงทุกช่องทางการจัดจำหน่ายทั้ง หน้าร้าน,Website, Call center เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้สโลแกน อุ่นใจทุกเรื่องบ้าน ด้วยหลากหลายช่องทาง
ในปี 2562 นี้ บริษัทฯ มีแผนในการปรับโฉมสาขาอีกหลายสาขา อาทิ โฮมโปร สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ในช่วงเดือนมีนาคม โดยคาดหวังว่าลูกค้าเก่าที่เป็นครอบครัวโฮมโปร จะตื่นตาตื่นใจกับความทันสมัยที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าเรื่องบ้านได้ดี รวมถึงลูกค้าใหม่จะได้เข้ามาพบกับแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่เราตั้งใจสร้างสรรค์เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ที่มีแนวทางตกแต่งบ้านที่หลากหลาย ตรงตามคอนเซปต์ HOME INSPIRES OF LIVING เข้ากับทุกๆ ความต้องการที่ไม่มีจุดสิ้นสุดนั่นเอง นางสาว สิริวรรณ กล่าวตอนท้าย