อลิอันซ์ รั้งอันดับหนึ่ง บริษัทประกันที่มีการพัฒนาด้านความยั่งยืนดีที่สุด จากดัชนียั่งยืนดาวโจนส์ 2 ปีซ้อน
• เป็นบริษัทประกันที่ได้คะแนนความยั่งยืนสูงสุด 85 คะแนนจากเต็ม 100 สองปีซ้อน
• เป็นบริษัทประกันยอดเยี่ยม ในแง่กลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาทุนมนุษย์ ความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ กลยุทธ์ด้านภาษีและการเข้าถึงบริการทางการเงิน
• นำเป้าหมาย ที่จะลดอุณหภูมิโลก 2 องศา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนธุรกิจและการเริ่มต้นการปฏิบัติการ
กลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ติดอันดับบริษัทประกันผู้นำอันดับหนึ่งในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ ประจำปี พ.ศ.2561 (Dow Jones Sustainability Index – DJSI) เป็นปีที่สองติดต่อกันนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 โดยอลิอันซ์มีคะแนนความยั่งยืนอยู่ที่ 85 คะแนน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของธุรกิจประกันซึ่งอยู่ที่ 47 คะแนน ทั้งนี้ อลิอันซ์ เข้าเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ซึ่งเป็นดัชนีประเมินความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ใช้วัดประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ บริษัทชั้นนำ 2,500 บริษํททั่วโลกใน Dow Jones Global Total Stock Market Index การคัดเลือกสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI จะพิจารณาจากผลประกอบการที่ดี ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance – ESG)
นาย กุนเทอร์ ทาลิงเงอร์ คณะกรรมการบริหาร และผู้รับผิดชอบงานด้าน ESG กลุ่มอลิอันซ์ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการติดอันดับในครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการที่เรามุ่งเน้นให้ความสำคัญในด้าน ESG ทำให้เราได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนจากภายนอก ในฐานะที่เราเป็นบริษัทประกันภัย เป็นทั้งนักลงทุนและนายจ้างที่มีความรับผิดชอบ เรามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในทุกตลาดที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น อลิอันซ์ยังได้สร้างมูลค่าเพิ่มทางนิเวศวิทยาและทางสังคมที่สามารถวัดผลได้ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมทางสังคม
ประมวลความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ได้แก่
• ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นประโยชน์ต่อนิเวศวิทยาหรือสังคมทั้งสิ้น 165 แบบ
• ทุ่มเงินลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนจำนวน 5.6 พันล้านยูโร หรือ ประมาณ 2.2 แสนล้านบาท (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560)
• อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อพนักงานหนึ่งคน ลดลง 17 เปอร์เซ็นต์ (เทียบกับปี 2553)
• ให้พนักงานมีส่วนร่วมทางสังคมโดยทำงานจิตอาสารวมประมาณ 80,000 ชั่วโมงและบริจาคเงิน 20 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 787 ล้านบาท สำหรับกิจกรรมสาธารณประโยชน์
อลิอันซ์ได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวในการปกป้องสภาพภูมิอากาศโดยเข้าร่วมโครงการ Science Based Target Initiative (SBTi) จากข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศปารีส (Paris Climate Agreement) อลิอันซ์ ตั้งเป้าลดอุณหภูมิโลกลง 2 องศา โดยอลิอันซ์ได้นำเอาเป้าหมายนี้ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการนำเบี้ยประกันของลูกค้าไปลงทุนเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนนี้ โดยในปี พ.ศ. 2593 อลิอันซ์ ตั้งเป้า การลงทุนทั้งหมดจะต้องมีโครงสร้างที่ไม่กระทบต่อสภาพภูมิอากาศ และเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวต่อระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยคาร์บอน อลิอันซ์กำลังเจรจากับบริษัทต่าง ๆ เพื่อกำหนดและดำเนินการตามเป้าหมายการป้องกันสภาพภูมิอากาศดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการแล้วใน 4 ภาคอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานในระดับสูง ซึ่งรวมถึงภาคการขนส่งด้วย ขณะที่ในพอร์ทภาคธุรกิจพลังงาน ตัวชี้วัด คือการดูที่มูลค่าการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับถ่านหิน ซึ่งจะต้องลดลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยมาตรวัดดังกล่าว พิจารณาจากรายได้ที่บริษัทเหมืองแร่ได้มาจากการทำเหมืองถ่านหิน หรือ ร้อยละของกำลังไฟฟ้าที่ผลิจจากถ่านหินโดยบริษัทพลังงาน ซึ่งมาตรวัดดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางด้าน ESG ของอลิอันซ์ ทั้งยังใช้กับบริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเกี่ยวกับ ESG
ปัจจุบัน อลิอันซ์กำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศที่เป็นที่ยอมรับ องค์กรนอกภาครัฐและ บริษัทที่ให้คำมั่นใน SBTi เพื่อพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดเพื่อให้นักลงทุนสามารถบูรณาการเป้าหมายลดอุณหภูมิโลกสององศาเข้าไปในการลงทุนได้ ซึ่งหลายบริษัทยังไม่สามารถระบุได้อย่างแม่นยำเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาเนื่องจากขาดข้อมูลและขั้นตอนที่ถูกต้องนั่นเอง ในฐานะนักลงทุนระยะยาว เราต้องการวิธีการที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุดในการประเมินกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศของบริษัทที่เราลงทุน
นาย กุนเทอร์ ทาลิงเงอร์ กล่าวอีกว่า “โมเดลธุรกิจที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อพิชิตเป้าหมายสององศาจะถือเป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกที่สำคัญสำหรับพอร์ตการลงทุนของเราในอนาคต เพราะการเร่งลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนให้เร็วที่สุดถือเป็นเรื่องที่สำคัญ การที่เราจะประสบความสำเร็จได้ในเรื่องนี้ ภาคธุรกิจและการเมืองจะต้องผลักดันร่วมกันไปในทิศทางเดียวกัน”
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดอุณหภูมิ 2 องศา อลิอันซ์ยังตั้งใจที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมหาศาลในระยะยาวอีกด้วย ซึ่งมาตรการสำคัญอีกประการหนึ่งในระยะถัดไป คือ ในการดำเนินธุรกิจของทุกบริษัทในเครืออลิอันซ์ เราจะซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้