PPS ปรับกลยุทธ์จับมือลูกค้า-พันธมิตร ขยายพอร์ตงานในและต่างประเทศ

0
407
image_pdfimage_printPrint

PPS ปรับกลยุทธ์จับมือลูกค้า-พันธมิตร ขยายพอร์ตงานในและต่างประเทศ พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจบริษัทย่อย เพิ่มศักยภาพและโอกาสเข้ารับงาน ด้านโปรฟิน กรุ๊ป รออนุมัติให้บริการระบบเสนอขาย ICO Portal เผยภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังปรับตัวดี รับรู้รายได้งานรัฐ เอกชน คว้างานใหม่หลายโครงการ รอเซ็นสัญญา 105 ล้านบาท หนุน Backlog 332 ล้านบาท ขณะที่งบครึ่งปีแรกรายได้ 194.76 ล้านบาท กำไร 14.51 ล้านบาท

ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานรถไฟฟ้า งานเรือ เพื่อร่วมรับงานที่ปรึกษาฯในประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนการทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่มค้าปลีกที่มีแผนขยายสาขาในต่างประเทศด้วย ซึ่งการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการรับงานทั้งในและต่างประเทศของบริษัท

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทย่อย โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะควบรวม ขายหุ้น หรือยุบกิจการ และมีแผนขยายขอบเขตการทำงาน โดยเพิ่มการรับงานตกแต่งภายใน และการรับงานแบบจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ (turnkey) ดำเนินการตั้งแต่ออกแบบสถาปัตย์ ออกแบบโครงสร้าง คุมงานก่อสร้าง จนถึงงานแล้วเสร็จ ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างของบริษัทย่อยดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างศักษภาพและโอกาสในการรับงานมากขึ้น

ขณะที่ บริษัท โปรฟิน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนดำเนินธุรกิจ Project Financing และ ICO Portal อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในการเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายดิจิทัล คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนพ.ย.นี้ ขณะนี้มีบริษัทที่สนใจจะระดมทุนด้วยการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ICO) อยู่ระหว่างการเจรจา 4-5 ราย

“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากงานเอกชน หลายแห่ง อาทิ งานคอนโดมีเนียม งานค้าปลีก รวมถึงงานภาครัฐบางส่วน ขณะเดียวกันในไตรมาส 3 บริษัทสามารถเข้ารับงานใหม่หลายโครงการ อาทิ งานโครงการมิกซ์ยูส และงานประมาณราคาก่อสร้าง 3 โครงการ ขณะนี้เริ่มให้บริการและรับรู้รายได้บางส่วนแล้ว นอกจากนี้มีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกมูลค่า 105 ล้านบาท ส่วนงานโครงการภาครัฐ อาทิ งานรถไฟฟ้า งานรถไฟรางคู่ งานรถไฟความเร็วสูง ฯลฯ หากโครงการดังกล่าวเปิดประมูลตามแผน บริษัทได้เตรียมความพร้อมเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 332 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 149 ล้านบาทภายในปีนี้” ดร.พงศ์ธร กล่าว

สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 194.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 190.27 ล้านบาท จำนวน 4.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.36% และมีกำไรสุทธิ 14.51 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.68 ล้านบาท จำนวน 19.17 ล้านบาท หรือลดลง 56.92%