สตรอแมนน์จัดงานเปิดตัวเป็นทางการในประเทศไทย

0
767
image_pdfimage_printPrint

สตรอแมนน์จัดงานเปิดตัวเป็นทางการในประเทศไทย เชิญทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ความรู้
“รากฟันเทียม” สำคัญอย่างไร
นอกจากจะมีสุขภาพจิตที่ดี สุขภาพกายแข็งแรงแล้ว สุขภาพของช่องปากและฟัน นับเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นที่รู้กันดีโดยทั่วไปว่า การดูแลรักษาช่องปากและฟันไม่ใช่เรื่องยาก แค่ดูแลเหงือกและฟันด้วยการแปรงฟันวันละ 2-3 ครั้งหลังมื้ออาหาร บ้วนปากให้สะอาดอยู่เสมอ แต่หากเมื่อเอ่ยถึง “รากฟัน” หรือ “รากฟันเทียม” คนที่สุขภาพฟันแข็งแรงเป็นปกติอาจไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไรนักว่ารากฟันแท้เป็นอย่างไร แล้วรากฟันเทียมมีไว้เพื่ออะไร
เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจว่ารากฟันคืออะไร รากฟันเทียมมีความสำคัญอย่างไร ทำไมจึงต้องใส่ รากฟันเทียม และควรดูแลรักษาทั้งรากฟันแท้และรากฟันเทียมอย่างไร บริษัท สตรอแมนน์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้ารากฟันเทียมภายใต้แบรนด์ “สตรอแมนน์” (Straumann) จึงได้จัดงานเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท โดยภายในงานได้เชิญทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจเรื่องรากฟันได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น
ผศ.ทพ.สุรกิจ วิสุทธิวัฒนากร อธิบายถึงรากฟันว่า “ฟันแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ฝังเข้าไปในกระดูกเรียกว่ารากฟัน ส่วนที่ต่อยอดขึ้นจากรากเหนือกระดูกเรียกว่าแกนฟัน และส่วนที่สามคือ ครอบฟัน ซึ่งจะครอบอยู่บนแกนเพื่อให้เกิดเป็นรูปทรงของฟัน ซึ่งการดูแลรากฟันแท้มีข้อจำกัดนอกเหนือจากการดูแลปากและฟันให้สะอาดด้วยการแปรงฟัน เพราะถึงแม้เราจะดูแลรักษาความสะอาดฟันเป็นอย่างดีแล้ว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น ฟันแตกจากการบดเคี้ยว ฟันแตกจากอุบัติเหตุ หรือแม้แต่กรณีที่เกิดมาแล้วไม่มีฟันในซี่นั้นๆ หรืออาจจะจัดฟันแล้วเกิดช่องว่างจำเป็นต้องมีฟันเพิ่มเติม เหล่านี้จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการสร้าง “รากฟันเทียม” ขึ้นมาทดแทนรากฟันจริง”
ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ทพ.สุรกิจ อธิบายถึง “รากฟันเทียม” ต่อว่า “คือวัสดุทางทันตกรรมที่มีไว้สำหรับทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไป โดยจะเป็นวัสดุที่ปลูกฝังเข้าไปในกระดูกส่วนที่เคยมีฟันแท้อยู่ ซึ่ง รากฟันเทียมจะทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับต่อยอดขึ้นมาเป็นตัวฟันที่นำมาครอบบนแกนของรากเทียมอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เราสามารถใช้ฟันบดเคี้ยวได้ หรือหากเป็นฟันหน้าที่เสียหายไปรากฟันเทียมจะช่วยทำให้คนไข้กลับมามีฟันที่มีความใกล้เคียงกับฟันแท้ที่สูญเสียไปได้”
ผศ.ทพ.สุรกิจ ยังให้คำแนะนำการดูรักษารากฟันเทียมว่า “เริ่มต้นคือควรเลือกทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดเปลี่ยนรากฟันเทียมโดยเฉพาะ เลือกใช้รากฟันเทียมคุณภาพสูง และดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ ระมัดระวังการบดเคี้ยวด้วยการเลี่ยงการบดเคี้ยวของแข็งมากๆ เพื่อช่วยรักษารากฟันเทียมให้ยืนยาว ส่วนคนที่ไม่ต้องเปลี่ยนรากฟันเทียมก็ควรดูแลรักษา ความสะอาดของช่องปากและฟันให้ดีที่สุด เมื่อฟันสะอาด ไม่เกิดฟันผุ ไม่เป็นโรคเหงือกอักเสบ ฟันแข็งแรง รากฟันก็แข็งแรงด้วยเช่นกัน หากมีความจำเป็นไม่ต้องการเปลี่ยนรากฟันเทียม ยังสามารถเลือกใช้วิธีใส่ฟันปลอม หรือทำสะพานฟันแทนได้ แต่ทั้งสองอย่างก็จะมีข้อเสีย ที่นอกจากความรำคาญในการถอดเข้า-ออกของฟันปลอมแล้วนั้น อาจทำให้เหงือกอักเสบ ฟันข้างเคียงผุ และการบดเคี้ยวอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพออีกด้วย”
ด้าน ผศ.ร.ท.ทพ.ชัชชัย คุณาวิศรุต ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่งได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกรากฟันเทียมว่า “ปัจจุบันรากฟันเทียมมีให้เลือกหลากหลาย มีตั้งแต่ผลิตในประเทศ ผลิตต่างประเทศ โดยจะใช้โลหะไทเทเนียมเป็นวัสดุหลักในการทำรากฟันเทียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในการทำเครื่องมือแพทย์ แต่ปัจจัยที่ทำให้ราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนวัตกรรมต่างๆ กระบวนการผลิต ที่ละเอียดอ่อน รวมถึงกระบวนการเชิงวิทยาศาสตร์ขั้นสูง
สำหรับวิธีที่ดีสุดในการเลือกรากฟันเทียมคือ ศึกษาหาข้อมูลของรากฟันเทียมแต่ละยี่ห้อ และปรึกษาทันตแพทย์ ซึ่งทันตแพทย์จะเลือกรากฟันเทียมที่เหมาะสมให้คนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้วคนไข้ที่มีสุขภาพแข็งแรงทุกคนสามารถเข้ารับการเปลี่ยนรากฟันเทียมได้ แต่สำหรับคนไข้อายุน้อย ทันตแพทย์จะไม่แนะนำ หากมีการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมให้กับเด็กที่ร่างภายยังมีภาวะการเติบโต ฟันซี่ใหม่ที่งอกขึ้นมาอาจเบียดกับรากฟันเทียมซึ่งไม่สามารถขยับได้เหมือนกับฟันจริง ทำให้ฟันผิดรูปหรือผิดระดับได้ และสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัด หรือต้องรับประทานยาบางชนิดที่มีผลกับการผ่าตัดก็เป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถเปลี่ยนรากฟันเทียมได้”
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ข้อมูลจำเพาะของรากฟันเทียม “สตรอแมนน์”
สตรอแมนน์เป็นแบรนด์รากฟันเทียมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก่อตั้งมายาวนานกว่า 60 ปี เป็นแบรนด์รากฟันเทียมที่ได้รับความนิยมและมียอดขายอันดับ 1 ของโลกในตลาดรากฟันเทียม
จุดเด่นหลักของรากฟันเทียมสตรอแมนน์ คือนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้คุณภาพของสินค้า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทันตแพทย์ผู้รักษา และคนไข้ที่รับการฝังรากฟันเทียม ตรงตามแนวคิดการรักษาแบบใหม่ Minimum Invasive คือการรักษาที่ทำให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด และหายเร็วที่สุด นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรมที่โดดเด่นหลากหลาย อาทิ การคิดค้นวัสดุโลหะผลิตรากฟันเทียมที่แข็งแรงที่สุด มีชื่อว่า Roxoild คือ นำเอาโลหะ 2 ชนิด ได้แก่ ไทเทเนียม และเซอโคเนียมมาผสมกัน รวมถึงนวัตกรรมผลิตผิวรากฟันเทียมให้มีคุณสมบัติเป็น Hydrophillic คือ กระบวนการทำให้โลหะชอบน้ำ ซึ่งจะช่วยทำให้เซลล์กระดูกสามารถเข้าสร้างและเติบโต ยึดเกาะกับรากฟันเทียมได้เร็วยิ่งขึ้น ภายในแค่เพียง 4 สัปดาห์
สิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้รากฟันเทียมของแต่ละแบรนด์ ต้องคำนึงถึง คุณภาพของวัสดุที่นำมาผลิตส่วนต่างๆ ของรากฟันเทียม รวมถึงคุณภาพ มาตรฐานการผลิตของโรงงาน ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือและมีความมั่นคงในระยะยาว เนื่องจากรากฟันเทียมเมื่อฝังลงในช่องปากแล้ว จะต้องมีการดูแลรักษาระยะยาวเช่นเดียวกับฟันธรรมชาติ