สายการบินเอทิฮัดประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์

0
215
image_pdfimage_printPrint

สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฉลองครบรอบ 10 ปี สร้างสถิติผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ด้วยจำนวนผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

สายการบินเอทิฮัดรายงานผลประกอบการรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารประจำไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2556 ที่ 900 ล้านดอลลาห์สหรัฐ (ปีพ.ศ. 2555: 758 ล้านดอลลาห์สหรัฐ) คิดเป็นอัตราส่วนสูงขึ้นร้อยละ 19 และผลประกอบการรายได้จากการขนส่งสินค้าที่ 193 ล้านดอลลาห์สหรัฐ (ปีพ.ศ. 2555: 165 ล้านดอลลาห์สหรัฐ) คิดเป็นอัตราส่วนสูงขึ้นร้อยละ 17

 

อัตราส่วนจำนวนผู้โดยสารในไตรมาสแรกของปีนี้ พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 18 โดยเพิ่มจาก 2.3 ล้านคนเป็น 2.8 ล้านคน

 

อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารร้อยละ 80.5 เพิ่มสูงขึ้น 4 จุดจากปีที่แล้ว (ปีพ.ศ. 2555: ร้อยละ 76.5) ทั้งๆ ที่อัตราส่วนของความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12 ทั้งนี้ อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินเอทิฮัดสูงกว่าอัตราส่วนเฉลี่ยปัจจุบันที่ร้อยละ 77.1 ของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ

 

ภาคการขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัดก็สร้างสถิติใหม่ในไตรมาสแรกเช่นกัน โดยอัตราส่วนการระวางน้ำหนักเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 20 จาก 85,152 ตัน เป็น 101,776 ตัน

 

มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “สายการบินฯ มีผลประกอบการประจำไตรมาสแรกที่ดีกว่าแนวโน้มของผลประกอบการของสายการบินอื่นๆ ทั่วโลก นั่นเป็นเพราะเราทำรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารในไตรมาสแรกนี้ได้สูงสุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน”

 

“ความสำเร็จในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลยุทธ์แห่งการเติบโตที่ยั่งยื่น การสานต่อความร่วมมือกับสายการบินพันธมิตร และการลงทุนทางกรรมสิทธิ์ ที่ส่งผลดีให้กับสายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรของเรา”

 

รายได้จากการทำการเที่ยวบินร่วมและความร่วมมือต่างๆ กับสายการบินพันธมิตรมีอัตราส่วนกระโดดสูงขึ้นถึงร้อยละ 34 โดยเพิ่มจาก 136 ล้านดอลลาห์สหรัฐเป็น 182 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ภายใน 3 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 20 ของรายได้ทั้งหมดประจำไตรมาสแรก

 

“นอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ตามตัวชี้วัดที่ตั้งไว้แล้ว ความร่วมมือกับสายการบินพันธมิตรยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการโดยสรุปเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่ลดน้อยลงผ่านการทำงานร่วมกันของระบบปฏิบัติการต่างๆ”

 

พันธมิตรทางการบินของสายการบินเอทิฮัดประกอบไปด้วย สายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์เซเชลส์ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย และสายการบินแอร์ลินกัส โดยแต่ละสายการบินต่างประกาศผลกำไรในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2556 แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของแบบการทำธุรกิจผ่านความร่วมมือกับสมาชิกสายการบิน

 

โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัดประกาศผลประกอบการประจำปี 2555 ด้วยกำไรสุทธิ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายได้ทั้งหมด 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการทะลุ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก

 

อัตราส่วนปริมาณที่นั่งโดยสารทั้งหมดเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยคิดเป็น 15,900 ล้าน (ปีพ.ศ. 2555: 14,300 ล้าน) เนื่องจากฝูงบินผู้โดยสารและขนส่งสินค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 73 ลำ (ปีพ.ศ. 2555: 66 ลำ) อัตราส่วนรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 โดยคิดเป็น 12,900 ล้าน (ปีพ.ศ. 2555: 10,900 ล้าน) ทำลายสถิติการเติบโตของความสามารถในการบรรทุกผู้โดยสารทั้งหมด

 

ธุรกิจการขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัดก็สร้างสถิติใหม่ในไตรมาสแรกนี้เช่นกัน ซึ่งขัดแย้งกับแนวโน้มอื่นๆ ในอุตสาหกรรมการบิน โดยปริมาตรการขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 (ขีดจำกัดในการเติบโตของความสามารถในการบรรทุกอยู่ที่ร้อยละ 19) ซึ่งเป็นผลมาจากผลการทำงานที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ผนวกกับการเพิ่มขึ้นของภาคการขนส่งสินค้าจากประเทศแถบอนุทวีปอินเดียตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์

 

การขนส่งสินค้าผ่านเครื่องบินจำนวน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากเมืองฮุสตันถึงกรุงอาบูดาบี ส่งผลในทางที่ดีต่อผลประกอบการด้านการขนส่งในไตรมาสแรกนี้ด้วย

 

สายการบินเอทิฮัดรับมอบเครื่องบินขนส่งสินค้าลำใหม่โบอิ้ง B777 ซึ่งใช้ในการลำเลียงสินค้าไปยังเส้นทางฝั่งทวีปยุโรปและแอฟริกาในไตรมาสแรก และสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เครื่องบินขนส่งสินค้าลำที่สองเป็นเครื่องบินโบอิ้ง B747 ถูกส่งมอบเข้าสู่ฝูงบิน ส่งผลให้สายการบินเอทิฮัดขยายขนาดฝูงบินสำหรับขนส่งสินค้าเป็นทั้งหมด 8 ลำ

 

ผลประกอบการการขนส่งทางอากาศที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในครั้งนี้ช่วยเสริมสร้างความสามารถและความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการของภาคการขนส่งทางอากาศของสายการบินฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

ความสำเร็จของสายการบินเอทิฮัดในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2556 ได้แก่

  • การ “ปรับโฉม” การให้บริการผู้โดยสาร เว็บไซต์ และระบบการเช็คอิน ผ่านระบบใหม่ ‘เซเบอร์โซนิค’
  • การเปิดให้บริการเที่ยวบินประจำวันสู่งกรุงวอชิงตัน ดีซี ครั้งแรกในวันที่ 31 มีนาคม 2556 และเปิดตัวห้องรับรองระดับพรีเมี่ยมแห่งใหม่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลส
  • การเปิดตัวเที่ยวบินสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2556
  • การเปิดตัวห้องรับรองระดับพรีเมี่ยมสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติที่นั่งชั้นหนึ่ง (Diamond First Class) และที่นั่งชั้นธุรกิจ (Pearl Business Class) ณ กรุงปารีส
  • การเปิดตัวแคมเปญโฆษณาโทรทัศน์ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาห์สหรัฐ ภายใต้ธีม “The World Is Our Home, You Are Our Guest”
  • พนักงานกว่า 200 คนจบการฝึกฝนหลักสูตร Emiratisation ของสายการบินเอทิฮัด
  • การแต่งตั้งพนักงานชาวเอมิเรตส์จำนวน 34 คนเข้ารับตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในเครือข่ายของสายการบินเอทิฮัดที่มีอยู่ทั่วโลก

 

ตารางเปรียบเทียบผลประกอบการไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2555 และ 2556:

 

ตัวชี้วัด

ไตรมาสแรก พ.ศ. 2556

ไตรมาสแรก พ.ศ. 2555

ความเปลี่ยนแปลง

รายได้จากการขนส่งผู้โดยสาร

900 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

758.1 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

เพิ่มขึ้นร้อยละ 19

รายได้จากการขนส่งสินค้า

193.1 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

165.4 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

เพิ่มขึ้นร้อยละ 17

รายได้ทั้งหมด

1,136.5 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

989 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

เพิ่มขึ้นร้อยละ 15

ผู้โดยสาร

2,767,789 ราย

2,340,356 ราย

เพิ่มขึ้นร้อยละ 18

อัตราส่วนรายได้จากการขนส่งผู้โดยสาร (RPKs)

12.9 ล้าน

10.9 ล้าน

เพิ่มขึ้นร้อยละ 17

อัตราส่วนปริมาณที่นั่งโดยสารทั้งหมด (ASKs)

15.9 ล้าน

14.3 ล้าน

เพิ่มขึ้นร้อยละ 12

อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร

ร้อยละ 80.5

ร้อยละ 76.5

เพิ่มขึ้น 4 จุด

เครื่องบิน

73 ลำ

66 ลำ

เพิ่มขึ้น 7 ลำ