กฟก.อบรมผู้นำองค์กรเวที 2 พิษณุโลก หนุนสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์

0
433
image_pdfimage_printPrint

สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเดินหน้าขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ จัดหลักสูตรอบรมโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพของผู้นำองค์กรเกษตรกรหนุนตัวแทนองค์กรเกษตรกรพัฒนาทักษะการเรียนรู้ สร้างพลังร่วมขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ โดยเวทีที่ 2 เป็นพื้นที่ของภาคเหนือตอนล่าง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี จัดที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดพิษณุโลก ในระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2561 นี้
นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) และมูลนิธิสัมมาชีพ (มสช.) ร่วมจัดทำหลักสูตรอบรมโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพของผู้นำองค์กรเกษตรกรเพื่อให้ผู้ที่เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ในด้านการจัดการวิสาหกิจชุมชน การทำเกษตรอินทรีย์ การวางแผนการผลิต แผนธุรกิจ โดยนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับสมาชิกในองค์กรและชุมชนได้ เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของกองทุนฟื้นฟูฯ
ที่มาของการจัดอบรมในครั้งนี้ เกิดจากการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กฟก. กับ มสช. ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและองค์กรเกษตรกร รวมถึงการพัฒนาส่งเสริมการฝึกอบรมทางด้านวิชาการ ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกร องค์กรเกษตรกร และพนักงานของกองทุนฟื้นฟูฯ สร้างโอกาสการเรียนรู้การจัดการวิสาหกิจชุมชน การทำเกษตรอินทรีย์ การวางแผนการผลิต แผนธุรกิจ แผนการตลาด และมาตรฐานการผลิต เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างครบวงจรและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
วัฒถุประสงค์หลักนั้น ต้องการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเกษตรและเศรษฐกิจในยุคสมัยปัจจุบัน ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ Thailand 4.0 เปลี่ยนจากการทำเกษตรแบบธรรมดา ให้เป็นเกษตรสมัยใหม่ หรือ Smart Farming เกิดความสมดุลในการผลิต การซื้อขาย การแปรรูปตามความต้องการของตลาด เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ด้านการจัดการวิสาหกิจชุมชน และให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์การอบรมในครั้งนี้เป็นการอบรมผู้นำหรือตัวแทนองค์กร 77 จังหวัด จำนวน 14 รุ่น รวม 2,700 คนโดยครั้งแรกจัดอบรม ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดลำปาง และเวทีที่ 2 ที่จะถึงนี้จัดที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดพิษณุโลก แต่ละรุ่นมีเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ 193 คน มีความคาดหวังว่าผู้ที่อบรมไปแล้วสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปลงมือปฏิบัติได้จริง และนำไปถ่ายทอดให้กับสมาชิกคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปต่อยอดความรู้ด้านต่าง ๆ ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ พัฒนาองค์กรเกษตรกรและเกษตรกรสมาชิกสามารถเป็นเกษตรกรมืออาชีพ ยืนหยัดได้บนลำแข้งของตนเอง มีรายได้เป็นกอบเป็นกำเลี้ยงดูครอบครัวสมาชิกภายในองค์กรได้ นายสมยศกล่าว.