พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี เตรียมจัดแสดงภาพเขียน “Salvator Mundi” ของเลโอนาร์โด ดา วินชี

0
259
image_pdfimage_printPrint

กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาบูดาบี คว้าภาพเขียน “Salvator Mundi” ของเลโอนาร์โด ดา วินชี มาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี พร้อมกับอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของดา วินชี อย่าง La Belle Ferronniere ซึ่งยืมมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ฝรั่งเศส สำหรับภาพเขียน Salvator Mundi นั้น ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในการค้นพบทางศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษเลยทีเดียว

(รูปภาพ: http://mma.prnewswire.com/media/617496/Salvator_Mundi.jpg )

Salvator Mundi เป็นหนึ่งในไม่ถึง 20 ผลงานภาพเขียนของดา วินชี ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ศิลปินที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกได้สร้างสรรค์ภาพนี้ขึ้นเมื่อประมาณคริสต์ศักราช 1500 โดยเป็นภาพวาดสีน้ำมันพระเยซูคริสต์ครึ่งองค์ พระพักตร์ตรง สวมอาภรณ์สีน้ำเงินและแดงเข้ม พระหัตถ์ซ้ายถือคริสตัลทรงกลมและยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเพื่ออวยพร

ท่านโมฮัมเหม็ด อัล มูบารัค รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้จัดแสดงภาพเขียน Salvator Mundi ซึ่งเป็นมรดกอันทรงคุณค่าของเลโอนาร์โด ดา วินชี ณ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี การจัดแสดงครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการนำเสนอพิพิธภัณฑ์สุดพิเศษแห่งนี้ให้ทั่วโลกได้รู้จัก รวมถึงพันธกิจของเราในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้นำทางวัฒนธรรมและนักคิดรุ่นใหม่หันมาทำประโยชน์ให้กับประเทศของเราที่มีความเปิดกว้างและกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

มานูเอล ราบาเต ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี กล่าวว่า “Salvator Mundi ผลงานชิ้นเอกของเลโอนาร์โด ดา วินชี เหมาะสมอย่างยิ่งกับลูฟวร์ อาบูดาบี ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สากลแห่งแรกที่ทลายกำแพงอารยธรรมอันแตกต่าง ผลงานชิ้นนี้จะจัดแสดงเคียงคู่กับคอลเลคชั่นงานศิลปะมากมายของเรา และจะเป็นสมบัติชิ้นพิเศษที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนอย่างแน่นอน”

นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ยังเตรียมเปิดนิทรรศการพิเศษ “From One Louvre to Another: Opening a Museum for Everyone” ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ โดยจะนำเสนอประวัติของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปารีสตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งการจัดแสดงจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานศิลปะในพระราชวังแวร์ซายสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14, การตั้งสถาบันวิจิตรศิลป์ในพระราชวังลูฟวร์ และท้ายที่สุดคือการสร้างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ นิทรรศการนี้จะมีการจัดแสดงผลงานภาพเขียน ประติมากรรม มัณฑนศิลป์ และผลงานศิลปะชิ้นสำคัญอื่นๆ ประมาณ 150 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และบางส่วนมาจากพระราชวังแวร์ซาย

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี มีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงภาพและนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี ศูนย์วิจัย ร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่ โดยสถาปนิก ฌอง นูแวล เป็นผู้ออกแบบ “เมืองพิพิธภัณฑ์” (Arab madina) แห่งนี้ภายใต้หลังคาโดมขนาด 180 เมตรที่ทำจากโลหะรูปทรงเรขาคณิตอันซับซ้อนเกือบ 8,000 ชิ้น ผู้มาเยือนสามารถเดินทอดน่องภายใต้โดมที่โอบล้อมด้วยทะเล ขณะที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาราวสายฝน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเงาของต้นปาล์มที่ขึ้นซ้อนกันในโอเอซิสกลางทะเลทรายของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เมื่อครั้งหนึ่งเหล่านักเดินทางเคยสัญจรผ่านไปมา

เกี่ยวกับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาบูดาบี มีหน้าที่อนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมของอาบูดาบี เพื่อพัฒนาให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ยั่งยืนและโดดเด่น ซึ่งจะช่วยยกระดับชีวิตของทั้งผู้มาเยือนและผู้อยู่อาศัย ทางกระทรวงได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโปรโมทอาบูดาบีบนเวทีโลกผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและการลงทุน โดยมีการกำหนดนโยบาย แผนงาน รวมถึงริเริ่มโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์มรดกและวัฒนธรรม การปกป้องโบราณสถานและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ อาทิ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติซายิด และพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ อาบูดาบี นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังสนับสนุนกิจกรรมเชิงความคิด ศิลปะ และวัฒนธรรม เพื่อธำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันหลากหลายและเชิดชูมรดกของอาบูดาบี สำหรับบทบาทหลักของทางกระทรวงคือการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพัฒนาอาบูดาบีต่อไป

เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี

ลูฟวร์ อาบูดาบี คือพิพิธภัณฑ์สากลที่ตั้งอยู่บนเกาะซาดิยัต โดยจัดแสดงผลงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความหลากหลาย โดย ฌอง นูแวล สถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นผู้ออกแบบเมืองพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่มีทั้งห้องจัดแสดงภาพถาวร 23 ห้อง พื้นที่จัดนิทรรศการชั่วคราว พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก หอประชุม ร้านอาหาร ร้านค้า และศูนย์วิจัย โดยผู้มาเยือนสามารถเดินทอดน่องภายใต้โดมที่โอบล้อมด้วยทะเล ขณะที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาราวสายฝน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเงาของต้นปาล์มที่ขึ้นซ้อนกันในโอเอซิสกลางทะเลทรายของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เมื่อครั้งหนึ่งเหล่านักเดินทางเคยสัญจรผ่านไปมา

ผลงานศิลปะที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาจากอารยธรรมต่างๆทั่วโลก โดยถูกนำมารวมกันเพื่อแสดงถึงความเป็นสากลและแรงบันดาลใจที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งฉีกแนวจากพิพิธภัณฑ์ตะวันตกทั่วไปที่มักแยกผลงานศิลปะจากอารยธรรมต่างๆออกจากกันอย่างชัดเจน สำหรับธีมการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี ประกอบด้วย The portrayal of power, The representation of the divine, Exploring unknown lands และ The dawn of globalisation ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี จัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 620 ชิ้น ทั้งผลงานเดี่ยว ผลงานชุด และคอลเลคชั่น โดยผลงานบางส่วนจะจัดแสดงร่วมกับผลงาน 300 ชิ้นที่ยืมมาจากสถาบันชั้นนำ 13 แห่งในฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบี ถือกำเนิดขึ้นจากข้อตกลงระหว่างรัฐบาลอาบูดาบีและฝรั่งเศสเมื่อปี 2007 โดยข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าอาบูดาบีสามารถยืมชื่อลูฟวร์มาใช้ได้นาน 30 ปี รวมถึงยืมผลงานศิลปะจากสถาบันต่างๆในฝรั่งเศสได้เป็นเวลา 10 ปี (โดยลดจำนวนลงเรื่อยๆ เมื่อมีคอลเลคชั่นถาวรเป็นของตนเองมากขึ้น) และยืมนิทรรศการชั่วคราวได้เป็นเวลา 15 ปี

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ press@louvreabudhabi.ae

ที่มา: กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาบูดาบี