กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขับเคลื่อนขับเคลื่อน Safety Thailand ด้วย ASEAH
M-OSH (ASEAN Migrant OSHNET) สร้างเสริมความปลอดภัยในการทำงานและสุขภาพอนามัยที่ดีแก่แรงงานไทยและต่างด้าว
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการอบรมโครงการขับเคลื่อน Safety Thailand ด้วย ASEAH M-OSH (ASEAN Migrant OSHNET) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรมแคนทารี โคราช อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีภารกิจสำคัญประการหนึ่งคือการกำกับดูแลให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อให้แรงงานมีความปลอดภัย สุขภาพอนามัยดี โดยมีแนวทางดำเนินการที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1.สร้างการรับรู้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยฯ 2.เคร่งครัดการบังคับใช้กฎหมาย และ3.สร้างกลไกประชารัฐในการดำเนินการด้านความปลอดภัยฯ ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งนายจ้าง ลูกจ้าง รวมทั้งบุคลากรด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ โครงการขับเคลื่อน Safety Thailand ด้วย ASEAH M-OSH (ASEAN Migrant OSHNET) เป็นการขับเคลื่อนความปลอดภัยในการทำงานสู่สถานประกอบกิจการโดยคำนึงถึงความแตกต่างของแรงงานที่เข้ามาทำงานในสถานประกอบกิจการโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติ 4 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้ได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ตามกฎหมายความปลอดภัย และมีพื้นฐานในการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายและการเจ็บป่วยจากการทำงาน
นายทศพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การอบรมโครงการขับเคลื่อน Safety Thailand ด้วย ASEAH M-OSH (ASEAN Migrant OSHNET) ในวันนี้ เป็นการสร้างเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้กับผู้เข้าอบรมซึ่งประกอบด้วยผู้ทำหน้าที่ประสานงานแรงงานอาเซียน 4 สัญชาติ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 3 (นครราชสีมา) ประกอบด้วยสถานประกอบกิจการในจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จำนวน 120 คน ให้สามารถบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานประกอบกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเครือข่ายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการประสบอันตรายจากการทำงานให้กับลูกจ้างทั้งคนไทยและต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป