GLAND เผยพัฒนาโครงการเดอะแกรนด์พระรามเก้า 1.2 ล้าน ตารางเมตร เปิดพื้นที่แล้ว 2 ใน 3 กว่า 8 แสนตารางเมตร

0
294
image_pdfimage_printPrint

GLAND เผยพัฒนาโครงการเดอะแกรนด์พระรามเก้า 1.2 ล้าน
ตารางเมตร เปิดพื้นที่แล้ว 2 ใน 3 กว่า 8 แสนตารางเมตร

• พร้อมลุยสร้างอีก 4 แสนตารางเมตร เติมเต็มโครงการเดอะแกรนด์พระรามเก้าใน 5 ปี
• ได้ฤกษ์ เปิดขายเพนท์เฮ้าส์และดูเพล็กซ์

บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND เจ้าของโครงการเดอะแกรนด์ พระรามเก้า ศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร (New CBD) บนพื้นที่ 73 ไร่ ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่ 1.2 ล้านตารางเมตร ขณะนี้เปิดบริการเต็มแล้วกว่า 800,000 ตารางเมตร หรือ 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด รองรับศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร หรือ New CBD ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจระดับพรีเมี่ยม ที่มีศักยภาพพร้อมแข่งขันกับ CBD ในระดับภูมิภาคได้อย่างแน่นอน รวมถึงความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ต่อไปในอนาคต นับเป็นโครงการ เมกะโปรเจ็คท์ที่ใหญ่ที่สุดเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพมหานคร ที่รวมอาคารสำนักงานที่ทันสมัย , ห้างสรรพสินค้าและพื้นที่ค้าปลีก , โรงแรม , ศูนย์ประชุม และคอนโดมิเนียมหรู พร้อมอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต บนพื้นที่ 1.2 ล้านตารางเมตร

นางสาวรมณี บุญดีเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ GLAND เปิดเผยว่านับจากปี พ.ศ. 2552 ที่ได้เริ่มต้นการพัฒนาโครงการเดอะแกรนด์พระรามเก้าจนถึงปัจจุบัน สามารถพัฒนาพื้นที่ 73 ไร่ หรือเทียบเท่าพื้นที่ 1.2 ล้านตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดใช้พื้นที่แล้วกว่า 800,000 ตารางเมตรหรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของโครงการ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัย พื้นที่สำนักงานให้เช่า และพื้นที่ช็อปปิ้งอาเขต รวมไปถึงพื้นที่ถนนภายในโครงการที่รองรับการใช้งานของผู้ใช้บริการ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้สัญจรผ่านไปมาระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนรัชดาภิเษก รวมไปถึงการใช้ผ่านไปยังบริเวณซอยอสมท. ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่จะสร้างศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่หรือ New CBD ในใจกลางกรุงเทพมหานคร

ล่าสุด จีแลนด์ ได้เปิดใช้อาคารไฮไลท์อีก 1 แห่งในโครงการได้แก่ อาคารจีทาวเวอร์ ซึ่งมีความโดดเด่นของดีไซน์และนวัตกรรมการก่อสร้างที่ทันสมัยที่สุดในระดับอาเซียน โดยได้รับความไว้วางใจและเข้ามาเช่าพื้นที่จากบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายราย อาทิ โทรคมนาคม บริษัทประกันภัยชั้นนำ เครือข่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือแม้แต่สถาบันการเงิน และการธนาคารสำคัญของไทย เป็นต้น ขณะนี้มียอดผู้เช่าแล้วกว่า 97% ของพื้นที่หลังเปิดให้บริการในไตรมาสแรกที่ผ่านมา

“สิ่งที่เป็นจุดแข็งของเราคือ จากสัดส่วน 1.2 ล้านตารางเมตรนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เช่า ซึ่งเราสามารถดูแลและคงสภาพแวดล้อมของโครงการให้อยู่ในสภาพเหมือนเปิดโครงการใหม่ได้โดยตลอด และเราขายพื้นที่ออกไปเฉพาะคอนโดที่อยู่อาศัยโครงการ เบ็ล แกรนด์ พระราม 9 เท่านั้นซึ่งมีจำนวนจำกัด คิดเป็นสัดส่วนเพียง 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ดังนั้น โครงการนี้จึงสามารถสร้างรายได้เพื่อนำมาพัฒนาโครงการให้เติบโตต่อไปในอนาคต ขณะนี้เรายังคงเดินหน้าพัฒนาพื้นที่อีกไม่ต่ำกว่าสี่แสนตารางเมตร โดย 1 ใน 3 ของเฟสต่อไปจะเป็นฟังก์ชั่นของอาคารสำนักงานและโรงแรม ศูนย์ประชุมและการค้าขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค ตอกย้ำความเป็นผู้นำ CBD แห่งใหม่ โครงการเดอะแกรนด์ พระรามเก้า ของไทยสู่ความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ต่อไปในอนาคต” นางสาวรมณี กล่าว

“สิ่งที่คณะผู้บริหารเราเน้นก็คือ เมื่อเรามาอยู่ที่นี่แล้ว เราจะต้องสร้างความเจริญและประโยชน์ให้กับสังคม ดังนั้น ทันทีที่เราเปิดโครงการ เราก็เปิดทางสัญจรให้กับสาธารณะชน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรที่คับคั่งหนาแน่นมากขึ้นทุกวันและเพื่อประโยชน์ของสังคมผู้ใช้รถใช้ถนนในย่านนี้” นางสาวรมณี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในด้านพื้นที่ขายในส่วนของที่อยู่อาศัยที่ยังคงเหลือเพียงเล็กน้อย นางสาวรมณี กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมเปิดจำหน่าย Penthouse จำนวน 2 ห้อง และ Duplex จำนวน 20 ห้อง เป็นครั้งแรกแก่บุคคลทั่วไปที่สนใจ ในวันที่ 21-30 ก.ย. 60 โดย Penthouse มีขนาดเริ่มต้นที่ 127 ตารางเมตร พร้อมการตกแต่งสมบูรณ์แบบ อยู่บนอาคาร เบ็ล แกรนด์ พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท ส่วน Duplex เป็นห้องแบบ 2 ชั้น มีพื้นที่เริ่มต้นที่ 107 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่เช่นกัน

“ราคานี้ ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับทำเลและคุณภาพของโครงการ โดยกลุ่มเป้าหมายสำหรับห้องหรูทั้ง 2 แบบนี้ จะเป็นองค์กรที่ซื้อไว้สำหรับรับรองแขก VIP หรือนักธุรกิจที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุนเพราะราคาเริ่มต้นนี้ จะต้องสูงขึ้นตามสภาพตลาดอย่างแน่นอน” นางสาวรมณี กล่าว