กรุงเทพฯ 14 กันยายน 2560 – เทศกาลภาพยนตร์นานาชาตินอร์ดิก ปี 2017 (Nordic Film Festival 2017) กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2560 ณ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เพื่อฉลองความสำเร็จของอุตสาหกรรมภาพยนตร์กลุ่มประเทศนอร์ดิก ผ่านการนำเสนอวัฒนธรรมและการสร้างความตระหนักถึงสิ่งที่มีความสำคัญทางสังคมในแง่มุมต่างๆ เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืน ความเท่าเทียมทางเพศ ฯลฯ โดยจะจัดฉายภาพยนตร์ที่คัดสรรมาแล้วรวม 8 เรื่อง ซึ่งทุกเรื่องถือเป็นภาพยนตร์ระดับคุณภาพจากกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่ถูกถ่ายทอดเรื่องราวทางศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวยุโรปเหนือได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อคนรักหนังในเมืองไทยโดยเฉพาะ โดยเปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้าชมฟรีและมีบทบรรยายภาษาอังกฤษทุกเรื่อง สามารถจองที่นั่งได้ที่ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ก่อนภาพยนตร์เริ่มฉายครึ่งชั่วโมง โดยสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่จองก่อน
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาตินอร์ดิก จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มความนิยมที่มีต่อภาพยนตร์นอร์ดิก ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีแนวคิดสร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งใหม่ในวงการภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน ทั้งยังช่วยเพิ่มความสนใจที่มีต่อภาพยนตร์ระดับคุณภาพในตลาดภาพยนตร์ของเมืองไทย
นายอุฟเฟอ โวล์ฟเฮซเชิล เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาตินอร์ดิก ปี 2017 จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างผู้แทนกลุ่มประเทศนอร์ดิก และเพื่อเผยแพร่ภาพยนตร์ของของกลุ่มประเทศนอร์ดิกสู่สายตาของผู้ชมในเมืองไทย ซึ่งถือเป็นประเทศที่ชื่นชอบภาพยนตร์ โดยคนไทยมีอัตราการเข้าชมภาพยนตร์ต่อคนสูงมาก การร่วมมือกันในการจัดเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมภาพลักษณ์และเสริมสร้างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของกลุ่มประเทศนอร์ดิก สำหรับภาพยนตร์ของเดนมาร์กที่เราคัดเลือกมา ได้แก่ เรื่อง ‘A Second Chance’ และเรื่อง ‘Key House Mirror’ ซึ่งเป็นการนำเสนอศิลปะของวงการภาพยนตร์เดนมาร์กที่แตกต่างกันออกไป ทั้งสองเรื่องเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าสะเทือนอารมณ์ ที่สามารถแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งของการผลิตภาพยนตร์ของเราได้อย่างชัดเจน”
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาตินอร์ดิก ปี 2017 จัดฉายภาพยนตร์รวม 8 เรื่อง จาก 4 ประเทศ ประเทศละ 2 เรื่อง ซึ่งมีภาพยนตร์หลากหลายประเภท ทั้งดราม่า ตลกขบขัน สารคดีธรรมชาติ ผจญภัย และภาพยนตร์สำหรับครอบครัว ภาพยนตร์ที่ผ่านการคัดเลือกมาฉายในเทศกาลครั้งนี้ ได้แก่ เรื่อง “Key House Mirror” และ “Second Chance” จากประเทศเดนมาร์ก มีเนื้อหาดราม่าสะเทือนอารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วน “Tale of a Lake” และ “Tale of a Forest” จากประเทศฟินแลนด์ เป็นสารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติที่ได้รับการชื่นชมสูงสุดของประเทศ การันตีคุณภาพด้วยรางวัล Best Original Score for a Documentary Feature จากงาน International Film Music Critics Association Award (IFMCA) ด้านภาพยนตร์จากประเทศนอร์เวย์ นำเสนอเรื่อง “Operation Arctic” ซึ่งคว้ารางวัล People’s Choice Award for Best Feature Film จากงาน TIFF Kids International Film Festival และรางวัล Best Children’s or Youth Film จากงาน Amanda Awards และภาพยนตร์เรื่อง “Victoria” คว้ารางวัล Amanda Award สาขา Best Actor in a Supporting Role สำหรับประเทศสวีเดน เตรียมฉายภาพยนตร์เรื่อง “A Holy Mess” และ “Eternal Summer” จากบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำของประเทศ ซึ่งจะบอกเล่ามุมมองความคิดที่แตกต่างแบบหลากหลายอารมณ์ และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศ
นางซาตู ซุยก์การี-เคลฟเวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปีประเทศฟินแลนด์ เราภูมิใจนำเสนอภาพยนตร์เจ้าของรางวัล 2 เรื่องที่ถ่ายทอดธรรมชาติของประเทศได้อย่างงดงาม โดยเรื่อง ‘Tale of a Forest’ คือภาพยนตร์ที่จะพาคุณแง้มประตูสู่ภูมิประเทศอันน่ามหัศจรรย์และสรรพสัตว์ของฟินแลนด์ นอกจากนี้ เรายังนำเสนอเรื่อง ‘Tale of a Lake’ ซึ่งพาคุณไปสัมผัสกับทะเลสาบที่สวยงามของฟินแลนด์กว่า 2,000 แห่ง เมื่อได้ชมภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้แล้ว เราเชื่อว่าผู้ชมจะต้องอยากจองตั๋วเที่ยวบินไปท่องเที่ยวที่ฟินแลนด์แน่นอน! อีกทั้งเรายังเชื่อมั่นว่า เทศกาลภาพยนตร์นอร์ดิกที่จัดขึ้นครั้งแรกนี้ถือเป็นการพัฒนาก้าวกระโดดครั้งสำคัญสำหรับวงการภาพยนตร์ในกลุ่มประเทศนอร์ดิก”
นายเชทิล เพาล์เซน เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่องซึ่งถูกคัดเลือกจาก 4 ประเทศต้องการแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของประชาชนในกลุ่มประเทศนอร์ดิกทั้งในด้านวัฒนธรรมและสังคม ผ่านตัวละครและเนื้อเรื่องที่เข้มข้น โดยนำเสนอภาพยนตร์หลากหลายประเภทในงานครั้งนี้ เนื้อหาหลักของแต่ละเรื่องจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับธรรมชาติ ความรัก ความเท่าเทียมทางเพศ และอารมณ์ในแบบดราม่าตามแบบฉบับของแต่ละประเทศ สำหรับประเทศนอร์เวย์ เราเลือกภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและความรักในธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในอัตลักษณ์ของนอร์เวย์ นับเป็นเรื่องง่ายที่เราจะหลงทางทั้งในธรรมชาติและความรัก โดยภาพยนตร์จากนอร์เวย์ทั้งสองเรื่องของเราจะกล่าวถึงสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่ง นั่นคือการแสวงหาแนวทางการหลุดพ้นจากความเหงาและความสิ้นหวังของมนุษย์ โดยมีฉากหลังเป็นธรรมชาติอันงดงามหลากรูปแบบ ซึ่งเราหวังว่าผู้ชมจะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้”
นายสตัฟฟาน แฮร์สเตริม เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เราขอขอบคุณผู้สนับสนุนการจัดงานทุกท่านที่ทำให้เทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้เกิดขึ้น และรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนอันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออนาคตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของกลุ่มประเทศนอร์ดิก โดยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของกลุ่มประเทศนอร์ดิกมีอิทธิพลอย่างมากต่อตลาดภาพยนตร์โลก ถือเป็นกลุ่มประเทศที่มีแนวโน้มอัตราการเติบโตของการส่งออกที่ดี และยังมีส่วนช่วยในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศนอร์ดิกอีกด้วย โดยเรื่อง ‘A Holy Mess’ ภาพยนตร์แนวตลกขบขันซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานในปีนี้ กำกับโดยผู้กำกับหญิงฝีมือเยี่ยม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าผู้หญิงสามารถทำงานในเชิงพาณิชย์แข่งขันกับผู้ชายได้อย่างเท่าเทียม ส่วนเรื่อง ‘Eternal Summer’ นำเสนอเนื้อเรื่องที่แตกต่างในรูปแบบดราม่าซึ่งควรค่าแก่การรับชมเช่นกัน โดยผู้ชมจะได้รับความสนุกสนานอย่างมากในเทศกาลครั้งนี้ ประเทศสวีเดนมักถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างในด้านความเท่าเทียมทางเพศ และเราภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมสื่อความบันเทิงอันน่าตื่นเต้นนี้”