เดลล์ อีเอ็มซี เปิดตัวสายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ขายดีที่สุดในโลก รุ่นเน็กซ์-เจน ลงตลาด

0
301
image_pdfimage_printPrint

เซิร์ฟเวอร์ใหม่ PowerEdge เจเนอเรชั่นที่ 14 เป็นรากฐานอันมั่นคงแข็งแกร่งสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่ เปี่ยมล้นด้วยศักยภาพ ด้วยแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและให้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับทุกเวิร์กโหลดของลูกค้า ในระบบบริหารจัดการที่เรียบง่าย

สรุปประเด็นข่าวที่น่าสนใจ
• สถาปัตยกรรมเพื่อธุรกิจที่รองรับการขยายได้เต็มที่ สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ (Software-defined data center) ให้ IOPs ฐานข้อมูลที่สูงถึง 12 เท่า เพื่อเร่งความเร็วในการใช้แอปพลิเคชันล้ำหน้า
• ระบบออโตเมชันที่ชาญฉลาด เร่งความเร็วในการจัดการดีขึ้น 4 เท่า ด้วย iDRAC9 และลดขั้นตอนในการติดตั้ง iDRAC ด้วย QuickSync 22
• ให้ความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยแบบผสานรวม ด้วยสถาปัตยกรรมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีบนไซเบอร์ได้ตลอดเวลา รวมถึงรักษาความปลอดภัยของซัพพลายเชนเพื่อการปกป้องที่ครบวงจร

กรุงเทพฯ วันที่ 18 สิงหาคม 2560 – เดลล์ อีเอ็มซี ประกาศเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์รุ่นขายดีที่สุดของโลก รุ่นเน็กซ์-เจน เพื่อช่วยลูกค้าทุกขนาดธุรกิจขับเคลื่อนไปสู่ความริเริ่มเพื่อการปฏิรูปไอที โดยมีการเปิดพรีวิว ที่งาน Dell EMC World 2017 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge รุ่นที่ 14 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่และ ชนะเลิศรางวัล ด้านการออกแบบ ให้แพลตฟอร์มการประมวลผลแบบอัตโนมัติที่ให้ความปลอดภัย และขยายขีดความสามารถได้ สำหรับแอปพลิเคชันแบบดั้งเดิมและที่ทำงานบนคลาวด์ โดยออกแบบมาสำหรับระบบประมวลผลใหม่ Intel® Xeon® ที่รองรับการขยายระบบได้เช่นกัน

“เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge รุ่นที่ 14 เป็นการปรับปรุงสายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดของโลก ออกแบบมาเพื่อช่วยลูกค้าขับเคลื่อนไปสู่การปฏิรูปไอที” นายอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร เดลล์ อีเอ็มซี อินโดจีน กล่าว “โซลูชันระบบโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่เป็นตัวเปลี่ยนโฉมหน้าเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน และด้วยสถาปัตยกรรมที่เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีบนไซเบอร์ได้ตลอดเวลา (cyber-resilient architecture) ที่มาพร้อมนวัตกรรมเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยให้เราสามารถปลดปล่อยศักยภาพทางธุรกิจให้กับลูกค้าได้”

“การปฏิวัติบทบาทของแอปพลิเคชันและดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรในปัจจุบัน” นายอภิชาติ อัศวาดิศยางกูร ผู้อำนวยการด้าน Sales Engineering เดลล์ อีเอ็มซี อินโดจีน ได้ให้ความเห็น “ในปัจจุบัน ความต้องการด้านดาต้าเซ็นเตอร์เปลี่ยนไป เนื่องจากดาต้าเซ็นเตอร์ในปัจจุบันต้องมีระบบโครงสร้างที่ทันสมัยสามารถปรับเปลี่ยนและขยายขีดความสามารถรองรับความต้องการรวมถึงช่วยให้การปฏิรูปไอทีทำได้เร็วขึ้นได้ในที่สุด เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge รุ่นที่ 14 เข้ามาเปลี่ยนโฉมระบบหลักของดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัยนำไปสู่การตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
จากการศึกษากราฟแสดงการเติบโตของการปฏิรูปไอทีของ ESG 2017 (ESG 2017 IT Transformation Maturity Curve) ที่สนับสนุนการจัดทำโดยเดลล์ อีเอ็มซี ขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า องค์กรที่กำลังเดินสู่ความริเริ่มในการปฎิรูปไอทีได้ไกลที่สุดก็จะเห็นว่าไอทีเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างทางการแข่งขันได้มากกว่าถึง 7 เท่า การจะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ สิ่งสำคัญอันดับต้นสำหรับความริเริ่มด้านการปฏิรูปไอทีหลายๆ ด้านคือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยที่สามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วยความปลอดภัยในขณะที่ช่วยผลักดันนวัตกรรมที่ทำให้โมเดลธุรกิจใหม่เกิดขึ้นได้
และด้วยสถาปัตยกรรมด้านธุรกิจที่รองรับการปรับขยาย ระบบออโตเมชันอันชาญฉลาด และระบบรักษาความปลอดภัยแบบผสานรวม จึงทำให้ สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge รุ่นที่ 14 มอบคุณประโยชน์เหล่านี้ได้ตามต้องการ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เป็นรากฐานอันมั่นคงแข็งแกร่งของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย ช่วยให้ลูกค้าขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เดินไปข้างหน้าและสามารถบรรลุเป้าหมายของการปฏิรูปไอทีได้เร็วยิ่งขึ้น
สถาปัตยกรรมทางธุรกิจที่รองรับการปรับขยาย ของเซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge ช่วยให้ลูกค้าตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถที่ยกระดับเรื่องของประสิทธิภาพสำหรับงานเวิร์กโหลดทั้งระบบเดิม ระบบเสมือน และบนคลาวด์ในรูปของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ (Software-defined data center) สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge ใหม่ รองรับเทคโนโลยี non-volatile memory express (NVMe) ได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ลูกค้าเร่งการนำ software-defined data storage และ hyper-converged infrastructure มาใช้ ด้วยความสามารถดังต่อไปนี้
• เร่งประสิทธิภาพการทำงานของฐานข้อมูล และมีค่าหน่วงเวลา (Latency) ที่ต่ำลง โดยให้ค่า IOPS ฐานข้อมูลสูงขึ้นถึง 12 เท่า และให้ Latency ของฐานข้อมูลน้อยลงถึง 98 เปอร์เซ็นต์ในคลัสเตอร์ VMware vSAN
• สามารถทำ Live Migration หรือย้ายเวอร์ชวลแมชชีนขณะที่ยังทำงานอยู่ ได้เร็วขึ้นและไม่เกิดผลกระทบใดๆ โดยปัจจุบันทำได้เร็วขึ้น 58 เปอร์เซ็นต์ และใช้ซีพียูน้อยลงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่องใช้ RDMA (Remote Direct Memory Access) 25GbE
• ให้ประสิทธิภาพด้านสตอเรจที่เร็วขึ้น ในการประมวลผลเพื่อขยายประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันได้สูงสุด เร็วกว่าไดร์ฟ NVMe 6 เท่า ให้แฟลช สตอเรจที่จุขึ้น 5 เท่า ให้ density มากขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ใส่สล็อต input/output ได้มากขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์

ระบบออโตเมชันอันชาญฉลาดในเซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge ช่วยให้มืออาชีพด้านไอทีมุ่งเน้นที่งานสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณค่าธุรกิจและให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าได้ โดยเฉพาะ OpenManage Enterprise ที่มาพร้อมขุมพลังจาก RESTful API จึงนับเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ปรับใช้งานในระบบอัตโนมัติได้ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดต การสอดส่องดูแล รวมถึงการซ่อมบำรุง ทั้งนี้ระบบบริหารจัดการ (management console) ใหม่อันทรงพลังของ OpenManage Enterprise ยังช่วยผู้ใช้ในเรื่องต่อไปนี้
• บริหารจัดการวงจรการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ได้ง่ายดาย ตั้งแต่เริ่มนำมาใช้งาน ตลอดจนการยกเลิก รวมถึงการปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มสมรรถนะด้วย iDRAC9 ช่วยให้ประสิทธิภาพในการจัดการดีขึ้นถึง 4 เท่า ในส่วนของยูสเซอร์อินเทอร์เฟซ และให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ช่วยลดเวลาในการติดตั้ง iDRAC ได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ด้วย QuickSync 2 ระบบบริหารจัดการผ่านโมบาย
• เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge สามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเทคโนโลยีด้านการคาดการณ์ปัญหาและแก้ไขในเชิงรุกจาก ProSupport Plus และ SupportAssist

เดลล์ อีเอ็มซี เชื่อว่าระบบรักษาความปลอดภัยแบบผสานรวม เป็นส่วนที่อยู่ในการประมวลผลและไม่ควรนำมาคิดค่าลิขสิทธิ์ต่างหาก เดลล์ อีเอ็มซี จึงได้คิดค้น Root of Trust ไว้ในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ในสองรุ่นที่ผ่านมา ทั้งนี้สถาปัตยกรรมที่พร้อมรับมือการโจมตีบนไซเบอร์ได้ตลอดเวลา (Cyber-Resilient Architecture) จึงช่วยลูกค้าปกป้อง (Protect) ตรวจจับ (Detect) และกู้คืน (Recover) รวมถึงยกเลิก (Retire) เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ผ่านวิธีต่อไปนี้
• การบูตที่ให้ความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการเข้ารหัส (Cryptographically Trusted Booting) ที่เป็นการตอกย้ำความปลอดภัยแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ของเซิร์ฟเวอร์ และให้ความปลอดภัยดาต้าเซ็นเตอร์ในภาพรวม โดยมีฟีเจอร์อย่าง Root of Trust ที่เป็นพื้นฐานของซิลิคอน มีระบบป้องกัน Intel Boot Guard, Singed Firmware และ Automatic BIOS Recovery รวมถึง OpenManage Enterprise ใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นเวอร์ชวลคอนโซลให้ความปลอดภัยเซิร์ฟเวอร์ ได้อย่างเหนือชั้น ในขณะที่ให้ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานสำหรับลูกค้า
• การปิดล็อกระบบ (System Lockdown) ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะทางของ PowerEdge ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยเรื่องการตั้งค่าระบบ ไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือเกิดจากการประสงค์ร้ายพร้อมกับจะทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ ในกรณีที่ผู้พยายามเปลี่ยนแปลงระบบ
• การยกเลิกระบบ (System Erase) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถยกเลิกหรือกำหนดการใช้งานใหม่ (repurpose) ของเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นที่ 14 ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการลบข้อมูลจากไดร์ฟสตอเรจและที่ฝังอยู่ในส่วนหน่วยความจำแบบ non-volatile อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ในการประสานการทำงานร่วมกับอินเทลนั้น เดลล์ อีเอ็มซี ได้นำหน่วยประมวลผล Intel® Xeon® ที่รองรับการขยายความสามารถมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge รุ่นที่ 14 ด้วยจำนวนคอร์ของซีพียูที่มากขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์ และมีแบนด์วิธในส่วนความทรงจำที่มากขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge รุ่นที่ 14 สามารถเร่งประสิทธิภาพแอปพลิเคชันสำคัญทางธุรกิจและงานเวิร์กโหลด เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ที่ล้ำหน้าที่สุดของ เดลล์ อีเอ็มซี รวมถึงในรูปของ แร็ค และ เบลด
• Dell EMC PowerEdge R640 – การผสมผสานที่ลงตัวสำหรับระบบประมวลผลดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับ dense scale-out และ สตอเรจ ในแพลตฟอร์ม 1U/2-socket
• Dell EMC PowerEdge R740 – ม้าศึกสำหรับสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ ให้สมดุลระหว่างสตอเรจ, I/O และการเร่งความเร็วแอปพลิเคชัน รวมถึงความยืดหยุ่นที่เหนือชั้นในการตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม 2U/2S ทั้งนี้ R740 รองรับผู้ใช้ VDI ได้มากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และรองรับ GPU Accelerator ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Hadoop Analytics9
• Dell EMC PowerEdge R740XD – แพลตฟอร์ม 2U/2S นี้ ให้สมรรถนะด้านสตอเรจที่ดีที่สุด และรองรับแอปพลิเคชัน เช่น software-defined storage ในระดับความสามารถที่ตอบสนองความต้องการของผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้ใช้ Hadoop/Big Data และ co-location hosting
• Dell EMC PowerEdge R940 – แพลตฟอร์ม 3U/ 4S ที่รองรับความต้องการใช้งานสูงสุด รวมถึงเวิร์กโหลดสำคัญๆ อย่าง ERP, e-Commerce และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งนี้ PowerEdge R940 สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนลิขสิทธิ์ Oracle ได้มากถึง 600,000 เหรียญสหรัฐ และให้ประสิทธิภาพการทำงานบนสภาพแวดล้อม SAP SD Sybase ได้เร็วขึ้นถึง 44 เปอร์เซ็นต์
• Dell EMC PowerEdge M640 และ FC640 – รองรับการทำงานในลักษณะโมดูล ออกแบบมาเพื่อให้สมรรถนะในระดับสูง ให้ density ที่ดีที่สุด สามารถรองรับการขยายระบบได้อย่างเหนือชั้นทั้งบนเบลด และบนแพลตฟอร์มแบบโมดูล
• Dell EMC PowerEdge C6420 – ระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูงในอุดมคติ ขยาย density ได้สูงสุด ให้ความสามารถในการขยายระบบ และให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงต่อหน่วยบนโมดูล่า แพลตฟอร์ม 2U/8S

เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ยังเป็นรากฐานที่มั่นคงของโซลูชันเดลล์ อีเอ็มซี แพลตฟอร์มและโซลูชันชั้นนำในอุตสาหกรรมของ เดลล์ อีเอ็มซี ยังได้ประโยชน์จากขุมพลังและระบบรักษาความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่นี้ เนื่องจากจะมีการฝังเซิร์ฟเวอร์ไว้ในอุปกรณ์ดาต้าเซ็นเตอร์ และสตอเรจ รวมถึง อุปกรณ์แบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ และแร็ค, แพลตฟอร์ม ไฮบริดคลาวด์, ready nodes, โซลูชันบันเดิล และโซลูชันอื่นๆ ของเดลล์ อีเอ็มซี

การผสานรวมเหล่านี้ ฝังลึกมากกว่าการใช้ซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ชั้นนำของอุตสาหกรรมที่อยู่ในสายผลิตภัณฑ์ระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้เดลล์ อีเอ็มซี ใส่มุมมองเชิงลึกไปในสแต็กซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ไว้ในฮาร์ดแวร์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะได้อย่างเหมาะสม รวมถึงทำการทดสอบและประเมินการทำงานในเชิงลึกไปพร้อมๆ กัน

เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ จะเป็นรากฐานของโซลูชัน เดลล์ อีเอ็มซี ที่ใช้บน PowerEdge รุ่นก่อนหน้านี้ เช่น VxRail Appliances, VxRack Systems, XC Series, vSAN ReadyNodes, ScaleIO Ready Nodes, IsilonSD Edge และ ECS (Elastic Cloud Storage) นอกจากนี้ จะมีพร้อมอยู่ในโซลูชันและแพลตฟอร์มใหม่ๆ ของ เดลล์ อีเอ็มซี ทั้ง Data Domain Appliance, CloudArray, Ready Bundles, Ready Systems, Dell EMC Enterprise Hybrid Cloud, Dell EMC Native Hybrid Cloud และ Dell EMC Cloud for Microsoft Azure Stack

การวางจำหน่าย
• Dell EMC PowerEdge R940, R740, R740xd, R640, และ C6420 พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกแล้วในขณะนี้
• Dell EMC PowerEdge FC640 และ M640 จะวางจำหน่ายในช่วงต่อมาในปี 2017.
• โซลูชัน Dell EMC ที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ใหม่ จะมีพร้อมจำหน่ายทั่วโลกในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2017