ข่าวประชาสัมพันธ์
กระทรวงพาณิชย์จัดการประชุม Thailand Rice Convention 2017 อย่างยิ่งใหญ่
มั่นใจไทยเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวโลก พร้อมชูสุดยอดนวัตกรรมข้าวไทย
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ หรือ “Thailand Rice Convention 2017” (TRC 2017) อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้ ณ ห้องคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ A ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นำเสนอมุมมองใหม่ด้านนวัตกรรมข้าวไทยสู่สายตาชาวโลก
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน Thailand Rice Convention 2017 ในปีนี้ มีแนวคิดแตกต่างจากการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา โดยได้นำเสนอแนวคิด “Rice Plus : ข้าวไทย ก้าวใหม่…ด้วยนวัตกรรม” เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นผู้นำการผลิตและแหล่งซื้อขายข้าวคุณภาพดีของโลก และโชว์นวัตกรรมข้าวไทยที่นำเทคโนโลยี ขั้นสูงมาแปรรูปข้าวให้เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้อย่างมหาศาล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม หรือ Value-based Economy ภายใต้โมเดล “ประเทศไทย 4.0”
การประชุม TRC 2017 ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การค้าข้าวไทย และทิศทางในอนาคต” เพื่อให้แขกผู้มีเกียรติได้รับทราบทิศทางและนโยบายของรัฐบาลต่ออุตสาหกรรมข้าวไทย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มผู้นำเข้าข้าว ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมข้าว พร้อมด้วยผู้แทนการค้าจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศผู้ซื้อ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่สำคัญ อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อิรัก อิหร่าน สเปน อังกฤษ ไนจีเรีย เคนยา แอฟริกาใต้ เวียดนาม กัมพูชา และสปป. ลาว เป็นต้น ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เกษตรกร และสื่อมวลชน รวมกว่า 1,000 คน และที่สำคัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า สาธารณรัฐอิรัก พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงาน Grain Board ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวของอิรักได้เดินทางเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยจะได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างโอกาสในการส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักในอนาคต ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม ได้นำคณะเข้าปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยเช่นกัน
สำหรับการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ เริ่มด้วยการบรรยายในหัวข้อ “แนวโน้มการค้าข้าวโลก” โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท The Rice Trader ต่อด้วยการเสวนาของผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการพัฒนาข้าวทั้งไทยและต่างประเทศ ในหัวข้อ “ทิศทางตลาดข้าวและเกษตรปลอดภัยสู่โลกนวัตกรรม”
และหัวข้อ “นวัตกรรมข้าว…ก้าวต่อไปของข้าวไทย” โดยเน้นในประเด็นทิศทางและโอกาสในการพัฒนาข้าวอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมและงานวิจัย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทย ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมข้าวที่น่าสนใจ อาทิ น้ำมันรำข้าว การพัฒนาแป้งข้าวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และนวัตกรรมข้าวไทยในวงการสุขภาพและความงาม เป็นต้น
นางอภิรดี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ ภายในงาน TRC 2017 ได้จัดแสดงนิทรรศการ “Rice Plus” ทั้งในบริเวณสถานที่ประชุม และนิทรรศการสำหรับประชาชนที่สนใจ ณ ลานอีเดน 3 บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีการนำเสนอโครงการในพระราชดำริและพระราชกรณียกิจที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระปรีชาสามารถ และพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยต่อการวิจัยและพัฒนาข้าวไทย เป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 และยังมีส่วนแสดงพัฒนาการของข้าวไทยและผลิตภัณฑ์ตลอดจนนวัตกรรมข้าวไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ (Food Product) และผลิตภัณฑ์อุปโภคอื่นๆ (Non-food Product) เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสุขภาพ และเวชภัณฑ์และวัสดุวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ เป็นต้น
นางอภิรดี กล่าวปิดท้ายว่า การจัดงาน TRC 2017 เป็นเวทีระดับสากลให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงการค้าข้าว จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมอง วิสัยทัศน์ ตลอดจนข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการค้าข้าวของโลก และเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ส่งออกข้าวของไทยและผู้นำเข้าข้าวจากประเทศคู่ค้าสำคัญ นอกจากนี้ พี่น้องเกษตรกรไทยจะได้รับทราบถึงทิศทางและแนวโน้มของตลาดโลก รวมทั้งนวัตกรรมของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับข้าว เพื่อจะได้ผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดต่อไป การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง และจะส่งผลดีต่อชื่อเสียงและการขยายตลาดข้าวไทยอย่างยั่งยืนต่อไป