กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตรียมดำเนินคดีนายจ้างโรงทำอิฐ จ.เชียงใหม่ กรณีลูกจ้างต่างด้าวถูกเครื่องบดดินหนีบขาเจ็บสาหัส หากพบฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัยฯ
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีอุบัติเหตุลูกจ้างต่างด้าวถูกเครื่องบดดินหนีบที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ได้สั่งการให้พนักงานตรวจความปลอดภัยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 5 เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบว่าสถานที่เกิดเหตุคือโรงงานทำอิฐสินบุญทรัพย์ ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยน้ำดิบ ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกิจการผลิตอิฐ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2560 เวลา 10.30 น. ขณะที่นายทูน ลุงส่า อายุ 23 ปี ลูกจ้างสัญชาติเมียนมา มีหน้าที่ขับรถแบ็คโฮตักดิน ได้ตักดินจากกองดินใส่เครื่องบดดิน แต่มีดินบางส่วนกองอยู่ขอบเครื่องบดลูกจ้าง จึงลงจากรถใช้เท้าถีบดินให้เข้าไปในเครื่องบด แต่ลื่นทำให้เท้าข้างซ้ายเข้าไปในเครื่องบด หลังเข้ารับการรักษาแพทย์ได้ตัดขาซ้ายเหนือเข่า ขณะนี้ลูกจ้างได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ กสร.ได้ประสานสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ให้ช่วยเหลือตามสิทธิแล้ว
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวต่อว่า พนักงานตรวจความปลอดภัยจะได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และรวบรวมพยานหลักฐานว่านายจ้างได้มีการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ.2552 หรือไม่ เช่น จัดให้พื้นที่บริเวณรอบเครื่องจักรอยู่ในลักษณะที่ปลอดภัย จัดให้มีวิธีการดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้ลูกจ้างได้รับอันตรายจากการทำงานกับเครื่องจักร จัดทำตะแกรงหรือครอบปิดคลุมส่วนที่หมุนได้และส่วนส่งถ่ายกำลังให้มิดชิด รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบแล้วนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะดำเนินคดีทันที โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
