เครือเบทาโกรลงทุน 1,100 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ปลอดยา ปลอดฝุ่น

0
220
image_pdfimage_printPrint

เบทาโกรใช้งบลงทุนก่อสร้าง 1,100 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งใหม่ ปลอดยาปฏิชีวนะทั้งกระบวนการผลิต มาตรฐานโรงงานระดับสากล มั่นใจปลอดฝุ่น 100% รองรับปริมาณความต้องการในประเทศที่ขยายตัว และฟาร์มของบริษัทในเครือฯ ที่เน้นอาหารสัตว์คุณภาพสูง  ปลอดยา ตอกย้ำนโยบายความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) จากต้นน้ำที่ดี สู่คุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ

 

ลพบุรี (1 ก.พ.56) เครือเบทาโกร ได้จัดให้มีพิธีเปิดโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ตำบลช่องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยมี นายสัตวแพทย์ยุคล            ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเครือเบทาโกร แขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและจังหวัดลพบุรี เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่าง    คับคั่ง

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณการใช้อาหารสัตว์ปีละไม่ต่ำกว่า 15 ล้านตัน (ที่มา : สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย) และมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปี เครือเบทาโกรจึงสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งใหม่นี้ขึ้นโดยใช้งบลงทุน  1,100 ล้านบาท เป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์แบบปลอดยาปฏิชีวนะตลอดทั้งกระบวนการผลิต มีกำลังผลิต 36,000 ตันต่อเดือน สำหรับฟาร์มของลูกค้าที่ต้องการอาหารสัตว์ปลอดยา และฟาร์มของบริษัทในเครือฯ เพื่อเป็นต้นทางกระบวนการผลิตที่ดีจากฟาร์มต้นน้ำ สู่ปลายทางผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูง รองรับเทรนด์การบริโภคอาหารของผู้บริโภคปัจจุบันที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับอาหารสัตว์ที่ผลิตจากโรงงานนี้ เป็นอาหารสัตว์บกปลอดยาปฏิชีวนะ ที่ควบคุมคุณภาพการผลิตทุกขั้นตอน โดยผ่านเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ภายใต้นโยบายอาหารปลอดภัย (Food Safety) ขั้นสูงสุดของเครือเบทาโกร ทั้งอาหารสุกร อาหารไก่เนื้อ อาหารไก่ไข่ และอาหารโค นอกจากนี้ เครือเบทาโกรได้ให้ความใส่ใจในเรื่องอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมของโรงงาน โดยระบบบำบัดอากาศในโรงงานทั้งหมด ออกแบบให้ใช้เครื่องกำจัดฝุ่นชนิดถุงผ้า (Bag filter) มีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นจากทุกกระบวนการผลิตได้ 100% จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีฝุ่นกระจายออกไปสู่ชุมชนภายนอก ลดปัญหาเรื่องกลิ่น ซึ่งใช้งบประมาณในการลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมทั้งกำหนดแผนการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควบคุมปริมาณและค่าตรวจวัดตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

 

“เครือเบทาโกรมีแผนในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการผลิตในทุกๆ ด้าน เพื่อรองรับฐานลูกค้าในประเทศ และพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานและสามารถแข่งขันในตลาดได้ทั้งเรื่องคุณภาพและต้นทุนการผลิต อีกทั้งมีแผนการขยายฐานการผลิตอาหารสัตว์ให้ครอบคลุมและรองรับการขยายตัวของธุรกิจอาหารสัตว์ในภาพรวม รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม สร้างแบรนด์อาหารสัตว์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง จัดหาพันธมิตรเพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาความรู้และขีดความสามารถของบุคคลากรอย่างจริงจัง” นายวสิษฐกล่าว

โรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งใหม่นี้ เป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งที่ 9 ของเครือเบทาโกร ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยเริ่มก่อสร้างในเดือนธันวาคม พ.ศ.2553 แล้วเสร็จสมบูรณ์และดำเนินการผลิตเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2555 ทำให้เครือเบทาโกรมีกำลังการผลิตอาหารสัตว์จากทุกโรงงานซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคที่สำคัญของประเทศรวมกว่า 3 ล้านตันต่อปี ปัจจุบันได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ระบบวิเคราะห์อันตรายและควบคุมจุดวิกฤตในกระบวนการผลิต HACCP (Hazard Analysis & Critical Control Point) และอยู่ในระหว่างการจัดทำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม หรือมาตรฐาน ISO 14001 : 2004 การจัดการด้านอาชีวอนามัยและ           ความปลอดภัย OHSAS 18001 : 2007 / TIS 18001 : 1999 เป็นต้น ที่สำคัญไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะในทุกสายการผลิต จึงนับเป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย

 

********************************

 

เกี่ยวกับเครือเบทาโกร

เครือเบทาโกร เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศที่ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่อาหารสัตว์ ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพเพื่อการส่งออกและจำหน่ายในประเทศ มุ่งผลิตและพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย จากฐานอุตสาหกรรมการเกษตรที่ทันสมัยเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรโลก ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย ภายใต้แนวคิด “เพื่อคุณภาพชีวิต” ที่สำคัญ เบทาโกร เป็นบริษัทของคนไทยที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ ทำให้เกิดการร่วมลงทุนในการผลิตและพัฒนาคุณภาพอาหารปลอดภัย เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ ฮ่องกง ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย และยุโรป