แม้นายหม่า เสี่ยวปิง เจ้าของร้านเคบับในเมืองหลานโจว มณฑลกานซู จะไม่ค่อยเต็มใจลงทุนกับเครื่องควบคุมควันในร้านของตนเองเท่าใดนัก แต่หลังจากติดตั้งเครื่องดังกล่าวแล้ว กลับกลายเป็นว่าธุรกิจของเขากำลังไปได้ดีมากๆ
“เมื่อก่อนร้านเราย่างขาแกะวันละ4ขา แต่ตอนนี้เราต้องย่างถึงวันละ20ขา มีคนเข้าร้านเราเยอะขึ้น และเราก็ขายดีกว่าเดิมมาก” เขาเปิดเผย
หลานโจว ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขาแม่น้ำเหลือง ทางตะวันตกเฉียงเหนืออันแห้งแล้งของจีน เคยมีมลพิษมากที่สุดในประเทศ เลวร้ายจนถึงขั้นที่คนพูดติดตลกกันว่าไม่สามารถมองเห็นเมืองนี้ได้จากภาพถ่ายดาวเทียม
มาตรการควบคุมมลพิษที่เข้มงวดได้ส่งผลให้ปริมาณความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศที่ขนาด10ไมครอน และ2.5ไมครอน ลดลงกว่า75%เมื่อเทียบกับระดับของปี2556โดยเมื่อปีที่ผ่านมา เมืองหลานโจวมีจำนวนวันฟ้าใสเพิ่มขึ้นมากถึง50วัน แตะที่243วันต่อปี
คณะผู้ตรวจสอบมลภาวะทางอากาศจากส่วนกลางได้ยกย่องให้หลานโจวเป็น “เมืองตัวอย่างในการพัฒนาคุณภาพอากาศ” โดยตลอดปี2559ปริมาณการใช้ถ่านหินในหลานโจวลดลงเหลือเพียง6ล้านตันเท่านั้น เมื่อเทียบกับระดับ10ล้านตันในปี2555
หนึ่งในมาตรการที่หลานโจวประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ การผลักดันให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นลงพื้นที่สำรวจ โดยนายหยาง หมิงหยัน เสมียนประจำสำนักงานแขวงแห่งหนึ่ง เป็นหนึ่งในผู้ตรวจตราปริมาณมลพิษของเมืองหลานโจว จากจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด10,000คนด้วยกัน
“ทุกๆเช้า ผมจะตรวจตราพื้นที่ที่รับผิดชอบ เพื่อดูว่าใครกำลังเผาอะไร ไม่ว่าจะเป็นถ่านหินหรือไม้ฟืน ถ้าหากผมพบปัญหา ผมจะขอความร่วมมือให้เขาหยุดทำเช่นนั้น ถ้าหากไม่ฟัง ผมก็จะนำเรื่องไปรายงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่า”
ทุกเมืองต่างก็มีนโยบายป้องกันมลพิษ แต่สำหรับหลานโจว นโยบายเหล่านี้มีความเข้มงวดอย่างมาก
“บางเมืองนั้นกลัวหรือไม่สามารถต่อกรกับบริษัทใหญ่ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะกลัวว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่หลานโจวไม่มีปัญหานี้” นายซิ่ง ลี่เฟิง รองผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมหลานโจว กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น สำนักงานฯ ยังได้ลงโทษปรับองค์กรวิสาหกิจด้านปิโตรเคมีชั้นนำไปแห่งหนึ่ง และได้ขอให้บริษัทบางแห่งขอโทษต่อประชาชน
เจ้าหน้าที่บางรายถูกลงโทษ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมมลพิษตามที่ได้รับมอบหมาย ขณะที่อีกหลายรายที่แสดงความกระตือรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่นั้น ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
“อันที่จริง แม้มาตรการหลายอย่างของเรายังไม่ทันสมัยมากนัก แต่ผู้ก่อมลพิษในเมืองหลานโจวต้องอยู่ภายใต้การบังคับแห่งกฎหมายโดยสมบูรณ์” นายซิ่งกล่าว
เมืองที่มีมลพิษสูง อาทิ ฉือเจียจวง และ เจิ้งโจว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังเมืองหลานโจวเพื่อศึกษาดูงาน
นายหม่า เจียนหมิน จากมหาวิทยาลัยหลานโจว กล่าวว่า เมืองหลานโจวสามารถส่งต่อความสำเร็จให้กับเมืองอื่นๆได้
โดยหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จ ได้แก่ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กล่าวคือ แม้สามารถติดตามตรวจสอบมลภาวะได้ทางออนไลน์ แต่การที่เจ้าหน้าที่ในเมืองหลานโจวลงพื้นที่ตรวจตราสถานที่จริงด้วยตนเองต่างหากที่ถือเป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานที่แท้จริง
รัฐบาลคาดการณ์ว่า ทุกเมืองในระดับมณฑลหรือสูงกว่านั้น จะมีวันฟ้าใสคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และหลานโจวจะต้องพยายามไปให้ถึง
“หลานโจวยังคงต้องเดินหน้าต่อไปจึงจะบรรลุเป้าหมายนั้น เริ่มแรกมลภาวะลดลงเพราะเราเผชิญหน้ากับปัญหา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่การควบคุมมลภาวะก็ค่อยๆยากขึ้นตามลำดับ และกว่าที่เราจะสำเร็จได้ในแต่ละครั้ง ก็ต้องเจองานที่ยากขึ้นเรื่อยๆ” เฉิน ยี่หมิน เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมหลานโจวกล่าว
ที่มา: สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมหลานโจว