ข่าวประชาสัมพันธ์ ” Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 59 เวทีชี้เทรนด์โลก-กระตุ้นมูลค่าส่งออกยอด

0
246
image_pdfimage_printPrint

ข่าวประชาสัมพันธ์

Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 59 เวทีชี้เทรนด์โลก-กระตุ้นมูลค่าส่งออกยอด Visitor ต่างชาติเพิ่ม 18.80%

งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 59 หรือ The 59th Bangkok Gems and Jewelry Fair ปิดม่านอย่างสวยงาม ยอดผู้เข้าชมงานต่างประเทศตลอด 5 วันเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18.80

งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 59 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ 2560ที่ผ่านมา ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ผู้จัดงาน ดึงผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศ 730 บริษัท ร่วมแสดงศักยภาพพร้อมอวดโฉมสินค้าและนวัตกรรมอัญมณีและเครื่องประดับต่อสายตานักธุรกิจและผู้นำเข้าจากทั่วโลก รวม 2,011 คูหา โดยตลอดระยะเวลา 5 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าร่วมชมงานร่วม 17,000 ราย

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “Bangkok Gems & Jewelry Fair ถือเป็นเวทีการค้าระดับนานาชาติที่นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้พบผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากทั่วโลกแล้วยังเป็นการเปิดโอกาสให้ SMEs ไทยที่มีศักยภาพได้ขยายฐานลูกค้าและขยายตลาดไปยังต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมนักออกแบบและแบรนด์สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้มีเวทีเผยแพร่ผลงานสู่ระดับนานาชาติ โดยการจัดงานในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ ตุรกี โปแลนด์ ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศ CLMV เข้าร่วมจัดแสดง ในขณะที่ผู้เข้าชมงานต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.80 โดยประเทศที่เข้าชมงานสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย จีน เมียนมา เวียดนาม และอเมริกา”

Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 59 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘The World’s Gems & Jewelry Destination” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก หรือ ยังเป็นเวทีนำเสนอเทรนด์อัญมณีและเครื่องประดับรวมถึงแนวโน้มตลาดที่มีศักยภาพสูงในต่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งกรมฯ ได้คัดสรรสินค้าของผู้ประกอบการไทยที่มีความโดดเด่นมาจัดแสดงภายในโซน The New Showcase ซึ่งแบ่งเป็น 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ ‘60+’ จัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำหรับผู้สูงวัย ‘The Moment’ จัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำหรับงานแต่งงาน ‘Metro Men’ จัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำหรับสุภาพบุรุษ ‘Spiritual Power’ จัดแสดงสินค้ากลุ่มเครื่องประดับแนวความเชื่อ/โชคลาง ‘Culture Club’ จัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับหัตถศิลป์ร่วมสมัย ‘Pet Parade’ จัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยง” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว

โดยจำนวนผู้เยี่ยมชมนิทรรศการ The New Showcase มีจำนวนทั้งสิ้น 1,371 คน แบ่งเป็นชาวต่างชาติ จำนวน 708 คน (คิดเป็นร้อยละ 52) และคนไทยจำนวน 663 คน (คิดเป็นร้อยละ 48) โดยผู้เยี่ยมชมนิทรรศการร้อยละ 80 สนใจสั่งซื้อสินค้าเครื่องประดับ โดยเครื่องประดับที่ได้รับความสนใจสูงสุด 3 กลุ่มแรก ได้แก่ เครื่องประดับสำหรับเจ้าสาว เครื่องประดับผู้ชายและเครื่องประดับศิลปหัตถกรรมและแบรนด์ที่ได้รับความสนใจสูงสุดในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ แบรนด์ Beauty Gems แบรนด์ Pranda (Cai Men) และแบรนด์Mirror Mirror ตามลำดับ โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ แหวน สร้อยคอ และจี้

ภายในงานฯ ยังมีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ และเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ อาทิสัมมนา Gem ID Rendezvous ซึ่งกรมฯ ได้จัดขึ้นร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (สวอ.) กรมทรัพยากรธรณี และภาคเอกชนจัดขึ้น สัมมนา Discovery Gemmiferous Nations ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างเครือข่ายและโอกาสทางการค้าจากประเทศที่เป็นแหล่งผลิตอัญมณีระดับโลก ได้แก่ กัมพูชา ศรีลังกา อินเดีย และปากีสถาน ร่วมบรรยายโดยทูตพาณิชย์และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสวอ. กิจกรรมเปิดตัวโครงการ World Ruby Forum 2017 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นปลายปีนี้ สัมมนา Trends of Gems & Jewelry 2017 แนะนำเทรนด์อัญมณีและเครื่องประดับ และกิจกรรม Export Clinic ซึ่งทูตพาณิชย์จาก 58 แห่งทั่วโลกร่วมให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการรุกตลาดต่างประเทศแบบรายบุคคล

สำหรับงานในครั้งหน้างานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 60 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 กันยายน 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้ประกอบการที่สนใจจองพื้นที่แสดงสินค้า สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bkkgems.com หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

* * * * * * * * * *