ไม่มีของเสีย ให้เสียของ ….
วันนี้ ‘เถ้าชีวมวล’ หรือ ของเหลือจากโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นพีเอส ผู้นำด้านพลังงานทดแทนจากพลังงานปลูกได้ ที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับการยอมรับจากเกษตรกรว่า เป็นของดีที่ช่วยให้พืชผลของพวกเขาเจริญงอกงาม โดยที่มาของเถ้าชีวมวลนี้ เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงชีวมวลจากพืชพลังงาน อาทิ ต้นพลังงาน หญ้า เนเปียร์ ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่รอบๆโรงไฟฟ้า ปลูกเป็นรายได้เสริม รวมทั้งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจำพวก แกลบ ชานอ้อย เปลือกไม้ เหง้ามัน ซังข้าวโพด และรากไม้ ที่รับซื้อจากเกษตรกรชุมชนรอบๆโรงไฟฟ้า
เถ้าชีวมวลของโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มเอ็นพีเอส ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรว่า มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร โดยนำไปเป็นวัสดุปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความร่วนซุย และความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชผลทางการเกษตรลดต้นทุนในการเพาะปลูกได้ ทั้งนี้มีเกษตรกรหลายรายในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ทั้งที่ทำอาชีพเกษตรเป็นรายได้หลักและรายได้เสริม เล็งเห็นประโยชน์ของเถ้าชีวมวลนำมาใช้ผสมเป็นวัสดุปลูกพืชเกษตรที่เกษตรกรได้ลงทุนเพาะปลูก อาทิ มะนาว ผักสวนครัว และพืชอื่นๆ ทำให้ได้ผลผลิตที่งอกงามและสมบูรณ์
คุณธนนท์ ประสิทธ์มณีรัตน์ หรือคุณดำ เจ้าของสวนมะนาว เนื้อที่ 1 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านนาใน ต. เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่าได้ลงทุนปลูกมะนาวในวงบ่อ โดยได้ติดต่อขอการสนับสนุนเถ้าชีวมวลจำนวนหนึ่งจากโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มเอ็นพีเอส เมื่อปี 2558 นำมาเป็นส่วนผสมร่วมกับวัสดุปลูก อื่นๆ ได้แก่ ขี้ไก่ ขี้วัว ขุยมะพร้าว ทราย โดย พบว่ามะนาวมีการเจริญเติบโตงอกงามเป็นอย่างดี ออกลูกดก ให้น้ำมะนาวเป็นปริมาณมาก เมื่อถึงเดือนที่ 8 ก็สามารถเก็บขายได้ โดยที่ผ่านมาสามารถขายมะนาวสร้างได้ประมาณ 6,000-10,000 ต่อเดือน
“ได้ใช้เถ้าชีวมวลจากโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มเอ็นพีเอส มาเป็นส่วนผสมในวัสดุปลูกมะนาว ทำให้มะนาวมีต้นแข็งแรง ใบเขียว ออกลูกดก ลูกขนาดใหญ่ มีน้ำมะนาวเยอะ สามารถส่งขายสร้างรายได้ โดยเฉพาะหน้าแล้งที่มะนาวขาดตลาด จะเป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้ามาจองถึงสวนเลย นับเป็นรายได้เสริมที่ดีจากงานประจำที่ทำอยู่ “ ธนนท์กล่าว
นอกจากนั้นคุณธนนท์ได้กล่าวเสริมว่า ได้มีการปลูกมะนาวแบบไม่ใช้เถ้าชีวมวลเป็นส่วนผสมในวัสดุปลูก พบว่ามะนาวเจริญเติบโตช้า และไม่สมบูรณ์เท่ากับการใช้เถ้าชีวมวลเป็นส่วนผสมในวัสดุปลูก
ห่างโรงไฟฟ้าฯออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ยังมีพื้นที่ปลูกผักสวนครัว และพืชไร่ อาทิ ถั่วลิสงถั่วฝักยาว ถั่วพลู บวบ กล้วย ข้าวโพด ของคุณประคอง ไทยเจริญ หรือป้าจ้อย เกษตรกรหมู่ 3 บ้านนาใน ต. เขาหินซ้อน ในพื้นที่ 13 ไร่ ป้าจ้อยกล่าวว่า เดิมสภาพดินในแถบนี้เป็นดินทรายปนดินร่วนมีสีแดง และได้ปลูกมันสำปะหลัง ได้ผลผลิตไม่ดีนัก หัวลีบ เล็ก แคระแกร็น ต่อมาในปี 2558 จึงได้ขอการสนับสนุนเถ้าชีวมวลจากโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มเอ็นพีเอส ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนของป้าจ้อยมาช่วยปรับปรุงสภาพดินให้มีความร่วนซุย มีสภาพที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตที่ดีของพืชเกษตร โดยมีการใช้เถ้าชีวมวลแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ ผสมเถ้ากับดินเพื่อเป็นการปรับปรุงสภาพดิน ทำให้ดินร่วนซุยก่อนการเพาะปลูก และอีกลักษณะคือโรยเถ้าชีวมวลบริเวณโคนต้นที่เติบโตแล้ว โดยใช้พลั่วพรวนดินรอบโคนต้นให้ทั่ว ทั้งนี้ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไป จะทำให้พืชเที่ปลูกเจริญเติบโตให้ผลผลิตดี
“เดิมต้นมันสำหลังที่เคยปลูกก่อนหน้านี้มีต้นเล็ก ใบซีด และได้หัวมันขนาดเล็ก น้ำหนักน้อย ขายไม่ได้ราคา หลังจากมีการนำเถ้าชีวมวลมาคลุกไถกลบในดิน ทำให้ดินมีความร่วนซุย ลดความหนาแน่นของดิน จะเห็นว่าใบก็จะมีสีเขียวขี้น ลำต้นสมบูรณ์แข็งแรง ให้หัวมันขนาดใหญ่ และน้ำหนักเยอะ รวมทั้งพืชสวนครัวอื่นๆ ถั่วฝักยาว บวบ พริก มะเขือ ก็ให้ผลผลิตที่ดี ขายได้ราคามากขึ้น ทำให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวก็ดีขึ้น ” ป้าจ้อยกล่าว
จากผลผลิตพืชเกษตรอันสมบูรณ์ งดงาม ของเกษตรกรรอบๆโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มเอ็นพีเอส ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้ใช้เถ้าชีวมวลในการสร้างความสมบูรณ์ให้กับผืนดินเกษตรกรรม ทำให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ สร้างรายได้ และทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้น เป็นการเกื้อกูลกันระหว่างชุมชนกับโรงไฟฟ้าพลังงานปลูกได้ในกลุ่มเอ็นพีเอสอย่างยั่งยืน
