ไอบีเอ็มเปิดตัว Power System ใหม่พร้อมเทคโนโลยีสตอเรจและเมนเฟรม ช่วยลูกค้าเสริมศักยภาพ การรักษาความปลอดภัย คลาวด์ และการวิเคราะห์ข้อมูล

0
339
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพ 1 พฤศจิกายน 2555: ไอบีเอ็มเผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถแก้ไขปัญหาท้าทายที่สำคัญ เช่น การปรับปรุงความปลอดภัย การใช้ประโยชน์จากคลาวด์คอมพิวติ้ง และการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล  เทคโนโลยีใหม่ที่เปิดตัวใหม่นี้ครอบคลุมถึงระบบ Power System ระดับองค์กรที่มีสมรรถนะสูงสุด ระบบดิสก์สตอเรจระดับไฮเอนด์ และอัพเดตซอฟต์แวร์สำคัญๆ สำหรับคอมพิวเตอร์เมนเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุด การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มสำหรับการพัฒนาระบบ Smarter Computing โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายมากมายที่องค์กรต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ ตั้งแต่จุดอ่อนด้านความปลอดภัยไปจนถึงการบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านโซเชียลและโมบายล์

ม.ร โจว ดับบลิวซี ชาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มได้เปิดตัว ระบบ Power System ระดับองค์กร ที่พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนา (R&D) มูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ โดยได้จัดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในงาน “Smarter Computing in the New Era of IT” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ในงานจะมีการแสดงเทคโนโลยีและสตอเรจใหม่ล่าสุดภายใต้แนวคิด Smarter Computing ที่โดดเด่นด้านความปลอดภัย และการประมวลผล พร้อมการชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างใกล้ชิด“

 

เซิร์ฟเวอร์ IBM Power 770 และ Power 780 ประกอบด้วยไมโครโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ POWER7+ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์บนเวิร์กโหลดแอพพลิเคชั่น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า(1)  โดย POWER7+ มีหน่วยความแคช L3 ใหญ่ขึ้น 2.5 เท่า เพิ่มความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสไฟล์ที่รวดเร็วกว่าสำหรับระบบปฏิบัติการ IBM AIX และการบีบอัดหน่วยความจำ โดยยังคงใช้พลังงานเท่าเดิม เมื่อเทียบกับชิป POWER7 รุ่นก่อนหน้า

 

เซิร์ฟเวอร์รุ่นสูงสุด Power 795 ได้รับการปรับปรุง เพื่อให้ลูกค้าสามารถรันแอพพลิเคชั่นที่มีความต้องการสูงมาก เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้หน่วยความจำสูงสุด 16 เทราไบต์ พร้อมด้วย Dual In Line Memory Module (DIMM) ขนาด 64GB

 

นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้เพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Power System เพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไพรเวทหรือแบบบริการเอาต์ซอร์ส และตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องในส่วนของแอพพลิเคชั่นและเวิร์กโหลด ตัวอย่างเช่น Elastic Capacity on Demand for Power Systems Pools รองรับการใช้ทรัพยากรร่วมกันบนเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความพร้อมใช้งานและปรับปรุงการเข้าใช้ทรัพยากรระหว่างที่ดำเนินการบำรุงรักษาระบบตามแผนที่วางไว้หรือการบำรุงรักษาที่ไม่ได้วางแผนไว้

 

เมื่อจัดการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ด้วยซอฟต์แวร์เวอร์ช่วลไลเซชั่น IBM PowerVM ลูกค้าจะสามารถย้ายพาร์ติชั่นเซิร์ฟเวอร์ได้ง่ายดายขึ้น เพื่อสร้างสมดุลของทรัพยากรได้อย่างรวดเร็ว โดยสอดรับกับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป  เวอร์ช่วลแมชชีนแต่ละเครื่องสามารถเคลื่อนย้ายได้รวดเร็วกว่า 3 เท่า และสามารถโยกย้ายหลายๆ ระบบพร้อมกันได้รวดเร็วกว่า 4.7 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า(3) 

 

โครงสร้างพื้นฐานไอทีทั่วไปถูกโจมตีผ่านทางอินเทอร์เน็ตเกือบ 60,000 ครั้งในแต่ละวัน(4) และโดยเฉลี่ยแล้ว ความเสียหายโดยรวมที่เกิดจากข้อมูลองค์กรรั่วไหลมีมูลค่าสูงถึง 5.5 ล้านดอลลาร์(5)  ด้วยเหตุนี้ การรักษาความปลอดภัยจึงเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดสำหรับองค์กร  เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซอฟต์แวร์ด้านการรักษาความปลอดภัยและการกำกับดูแล IBM PowerSC พร้อมด้วย Trusted Surveyor ได้รับการอัพเดต และสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ รวมถึงรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

 

ปัจจุบัน องค์กรต้องรับมือกับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนสร้างภาระอย่างมากต่อผู้ดูแลระบบไอที  ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและการจัดการระบบไอที รวมไปถึงการรักษาความปลอดภัย  ด้วยเหตุนี้ ไอบีเอ็มจึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบสตอเรจระดับไฮเอนด์สองรุ่น ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับมือกับความท้าทายดังกล่าวได้อย่างแท้จริง

 

IBM System Storage DS8870 คือผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบสตอเรจระดับองค์กรขนาดใหญ่ DS8000 โดยอัพเกรดด้วยโปรเซสเซอร์ IBM POWER7 ที่ก้าวล้ำ และแคชระบบสูงสุด 1TB จึงทำให้ระบบสตอเรจ DS8870 มีประสิทธิภาพสูงกว่า 3 เท่าสำหรับการประมวลผลธุรกรรม เมื่อเทียบกับรุ่น DS8800(2)  ยิ่งไปกว่านั้น Storage Performance Council ระบุว่า DS8870 ครองอันดับ 1 จากผลการทดสอบประสิทธิภาพ SPC-2(6)  และ DS8870 ประกอบด้วยไดรฟ์ที่เข้ารหัสได้เองเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

 

ในส่วนของเทปสตอเรจ ไอบีเอ็มได้ปรับปรุง IBM Virtualization Engine TS7700 รีลีส 3 ซึ่งเป็นระบบที่ผสานรวมเวอร์ช่วลไลเซชั่นเข้ากับเทปแม่เหล็ก  ระบบดังกล่าวเป็นรุ่นอัพเดตของ TS7700 Enterprise Virtual Tape Library System ซึ่งโดยปกติแล้วใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยคอมพิวเตอร์เมนเฟรม และออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำเวอร์ช่วลไลซ์ระบบเทปสตอเรจที่มีอยู่ เพื่อปรับปรุงความสามารถในการบริหารจัดการ ความจุ และความปลอดภัย  Virtualization Engine ยกระดับให้กับระบบสตอเรจ ด้วยการเข้ารหัสแบบครบวงจร และการเชื่อมต่อได้มากถึง 6 ระบบในสถาปัตยกรรมกริด เพื่อขยายขีดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล และการจัดหาทรัพยากรสำรอง

 

โซลูชั่นใหม่ Technical Computing for Big Data ประกอบด้วย General Parallel File System (GPFS) ของไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการไฟล์ขั้นสูง มักจะใช้ในสภาพแวดล้อมการประมวลผลประสิทธิภาพสูงสำหรับการจัดเก็บและนำเสนอข้อมูลจำนวนมหาศาลสำหรับการสร้างแบบจำลองสภาพอากาศ การสำรวจแหล่งขุดเจาะน้ำมัน และการผลิตสื่อดิจิตอล  การผสานรวม GPFS เข้ากับแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นและการจัดตารางเวลา IBM Platform Symphony รวมไปถึง IBM Intelligent Cluster จะช่วยให้ลูกค้าองค์กรมีสภาพแวดล้อมแบบประสิทธิภาพสูง ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

 

ไอบีเอ็มเปิดตัวซอฟต์แวร์สำหรับเมนเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุดของไอบีเอ็ม นั่นคือ zEnterprise EC12 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมระบบไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากข้อมูลสำคัญเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและปรับปรุงการให้บริการแก่ลูกค้า

 

zEC12 คือหนึ่งในระบบรุ่นแรกๆ ที่รันแอพพลิเคชั่นด้านการประมวลผลธุรกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูลรวมอยู่ในเครื่องเดียว ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับและวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจที่มีการจัดโครงสร้างในแบบเรียลไทม์  ตอนนี้ ไอบีเอ็มเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายสำหรับการรันระบบวิเคราะห์ข้อมูลบน System z ด้วยอุปกรณ์ IBM DB2 Analytics Accelerator V3 ซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วในการตอบสนองสำหรับการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกทางด้านธุรกิจ  นอกจากนี้ อุปกรณ์เร่งความเร็วดังกล่าวยังช่วยลดความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลไว้บนดิสก์ไดรฟ์ในเครื่องเมนเฟรมได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับสตอเรจได้อย่างมากเลยทีเดียว(7)

 

ไอบีเอ็มรองรับการพัฒนา ส่งมอบ และควบคุมตัวประมวลผลธุรกรรม CICS (Customer Information Control System) ในระบบคลาวด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ zEnterprise สามารถสร้างสภาพแวดล้อมไพรเวทคลาวด์ที่รองรับธุรกรรมลูกค้าจำนวนมาก  ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ CICS 5.1 แอพพลิเคชั่นแบบอินเทอร์แอคทีฟ เช่น ระบบเอทีเอ็ม แอพพลิเคชั่นระบบธนาคาร และแอพพลิเคชั่นประกันภัย จะพร้อมใช้งานในระบบคลาวด์

 

IBM Security zSecure Suite V1.31.1 ปรับปรุงข้อมูลข่าวกรองด้านความปลอดภัย ด้วยการระบุกิจกรรมที่ผิดปกติก่อนที่ระบบจะได้รับความเสียหาย การตรวจหาภัยคุกคามด้วยการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์ลักษณะการทำงานของเครือข่าย และการจัดการการตรวจสอบด้านความปลอดภัย  การผนวกรวมเข้ากับ QRadar SIEM (การจัดการข้อมูลและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย) รองรับการตรวจสอบดูแลการรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งองค์กร

 

นอกเหนือจากการปรับปรุงระบบและสตอเรจเหล่านี้แล้ว ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ Software Defined Networking (SDN) สำหรับระบบเครือข่ายองค์กร  IBM Programmable Network Controller จัดหาซอฟต์แวร์อัจฉริยะสำหรับ IBM RackSwitch และสวิตช์อื่นๆ ที่รองรับ OpenFlow  โดย OpenFlow จะรองรับการสร้างเครือข่ายเสมือนจริง พร้อมความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่นที่จำเป็นสำหรับการตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในสภาพแวดล้อมบริการคลาวด์และโมบายล์