กลุ่มทรู รายงานการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของผลกำไรและรายได้ในปี 2558
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลกำไรประจำปี 2558 จำนวน 4.4 พันล้านบาท พร้อมการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ในทุกธุรกิจหลัก โดยการได้มาซึ่งใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800MHz และ 900MHz จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มทรูอย่างสูงและต่อยอดความเป็นผู้นำ 4G และโมบายล์ บรอดแบรนด์ในไทย
ในปี 2558 กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 จากปีก่อนหน้า เป็น 74.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะรายได้จากบริการนอนวอยซ์ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งนี้ EBITDA เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10.3 จากปีก่อนหน้าเป็น 22.1 พันล้านบาท อันเป็นผลจากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่ายและบริการ เพื่อเร่งเพิ่มฐานลูกค้า 4G 3G และไฟเบอร์ บรอดแบรนด์ ทั่วประเทศ
กลุ่มทรู รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของบริษัท จำนวน 4.4 พันล้านบาท ในปี 2558 เมื่อเทียบกับผลกำไรจำนวน 1.3 พันล้านบาท ในปีก่อนหน้า โดยผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งนี้ เป็นผลจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 58 จากปีก่อนหน้า และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “การให้บริการด้วยเครือข่ายที่ดีที่สุดและครอบคลุมที่สุดผนวกกับยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ยังคงเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรู และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มทรูประสบความสำเร็จในปี 2558 อีกทั้งยังทำให้ผู้บริโภคไว้วางใจในสินค้าและบริการของกลุ่มทรูมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้รายได้และผลประกอบการของกลุ่มทรู โดยเฉพาะธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เติบโตแข็งแกร่ง
การชนะการประมูลคลื่นความถี่ 1800MHz และ 900MHz นับเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มทรู ในการคงความเป็นผู้นำอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สาย ด้วยคุณภาพเครือข่าย 4G 3G และ 2G ประสิทธิภาพสูงสุดและบริการที่ครบทุกมิติ ผ่านคลื่นความถี่ที่มีอยู่ครบครันทั้งคลื่น 900 1800 2100 และ 850 MHz (ภายใต้กสท.) ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตของกลุ่มให้แข็งแกร่งและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดผู้ใช้บริการระบบรายเดือนด้วยคุณภาพเครือข่ายที่สูงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้กลุ่มทรูสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในส่วนของผู้ใช้บริการระบบเติมเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ แตกต่างจากในอดีตที่กลุ่มทรูมีเครือข่ายบริการ 2G ในวงจำกัด”
ความมุ่งมั่นและทุ่มเทของกลุ่มทรูโมบายในการสร้างแบรนด์และเพิ่มคุณภาพโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการของกลุ่ม เติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 17.3 ในปี 2558 ในขณะที่ รายได้จากการให้บริการรวมของผู้ประกอบการใหญ่รายอื่นเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 โดยกลุ่มทรูโมบายมีส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20.8 ในไตรมาส 4 ปี 2558 เมื่อเทียบกับร้อยละ 17.8 ในไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้ เป็นผลจากการใช้งานโมบาย อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างสูง ทำให้รายได้นอนวอยซ์ของกลุ่ม เติบโตถึงร้อยละ 40.5 จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ กลุ่มทรูโมบาย มีฐานผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 19.1 ล้านราย ณ สิ้นปี 2558
ทรูออนไลน์ เดินหน้ามอบประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มประสิทธิภาพให้กับลูกค้า ด้วยการขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ยกระดับการเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชากรในประเทศ พร้อมให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุดที่ 1 กิกกะไบต์ (GB) ทั้งนี้ ทรูออนไลน์ตั้งเป้าขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ให้มีความครอบคลุมกว่า 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ เพิ่มเติมจาก 6 ล้านครัวเรือน ณ สิ้นปี 2558 นอกจากนี้ ผลตอบรับที่ดีมากต่อแพ็กเกจไฟเบอร์บรอดแบนด์ ของกลุ่ม ซึ่งได้เปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี ผลักดันให้ยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 306,682 ราย ในปี 2558 และขยายฐานลูกค้าบรอดแบนด์เป็น 2.4 ล้านราย
คอนเทนต์คุณภาพหลากหลายและครบครันสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้านจากทรูวิชั่นส์ พร้อมด้วยแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์ที่คุ้มค่าของกลุ่ม ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตของรายได้ค่าสมาชิกและค่าโฆษณาให้แก่ทรูวิชั่นส์ จุดแข็งนี้ ร่วมกับความสำเร็จในการจัดอีเว้นท์การแสดงและมิวสิคชั้นนำระดับโลก ทำให้รายได้จากการให้บริการของทรูวิชั่นส์ เติบโตสูงร้อยละ 10.9 จากปีก่อนหน้า เป็น 12.0 พันล้านบาท ในปี 2558 ในขณะที่ ช่องรายการทีวีดิจิทัล “ทรูโฟร์ยู” ของกลุ่ม และกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ ทรู ดิจิทัล เอชดี ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของรายได้โฆษณาและกระตุ้นการสมัครสมาชิกแพ็กเกจของทรูวิชั่นส์ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2558 ทรูวิชั่นส์ มีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านรายโดยมีจำนวนลูกค้ารายใหม่สุทธิเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 591,705 ราย ในปี
นายศุภชัย กล่าวว่า “กลุ่มทรู จะรักษาความเป็นผู้นำโทรคมนาคม ด้านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบมีสายและไร้สาย รวมถึงบริการเพย์ทีวี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างโครงข่ายที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง การให้บริการที่ดีเยี่ยมในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมทั้งเพิ่มประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์แก่สมาชิกให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ โครงข่าย 4G และ 2G ของทรูมูฟ เอช จะมีความครอบคลุมร้อยละ 98 ของประชากรไทยในอีกไม่ช้า เพิ่มเติมจากโครงข่าย 3G ของกลุ่มซึ่งมีความครอบคลุมแล้วทั่วประเทศ ในขณะที่ กว่าครึ่งของครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทย จะสามารถเข้าถึงบริการไฟเบอร์บรอดแบรนด์ของทรูออนไลน์ นอกจากนี้ ทรูวิชั่นส์ จะปรับโฉมและเพิ่มประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ของสมาชิก ด้วยคอนเทนต์คุณภาพหลากหลายที่มาพร้อมกับนวัตกรรมและการเลือกรับชมช่องรายการโปรดได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยความมุ่งมั่นเหล่านี้ ร่วมกับการเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน จะเสริมสร้างให้กลุ่มทรู เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน”
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่กลุ่มทรูมีรายได้เติบโตแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตที่โดดเด่นของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีกทั้งกลุ่มทรู ยังสามารถสร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในปี 2558 ทั้งนี้ แผนการเพิ่มทุนจำนวน 60,000 ล้านบาท ของบริษัท จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะการเงินของกลุ่ม และคงอันดับเครดิตองค์กรที่เป็นระดับการลงทุน หรือ Investment Grade ตามนโยบายการรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA (Net Debt-to-EBITDA ratio) ของกลุ่มให้ต่ำกว่า 2 เท่า นอกจากนี้ บริษัท จะมุ่งมั่นรักษาวินัยทางการเงิน และเพิ่ม productivity ทั่วทั้งองค์กร เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการทางการเงินของกลุ่มต่อไป”