“70 YEARS OF MEMORIES” คำสอนของพ่อ
“70 YEARS OF MEMORIES” คำสอนของพ่อ
ผ่านช่วงเวลาที่ยากเย็นที่สุดมาจนจะครบ 1 ปี ของการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการนี้ กลุ่มบูติคนิวซิตี้ฯ โดยประวรา เอครพานิช กรรมการผู้จัดการ บมจ. บูติคนิวซิตี้ มีความตั้งใจจัดโครงการ “70 YEARS OF MEMORIES” (70 เยียส์ ออฟ เมมโมรีส์) เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงครองราชย์ให้ประชาชนชาวไทยมีความสุขตลอด 70 ปี และได้ทรงสอนสิ่งต่างๆ ให้แก่พสกนิกรไทยที่ได้เรียนรู้จากพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส แนวคิดจากพระราชปรัชญา บทเพลงพระราชนิพนธ์ รวมถึงพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรที่ท่านได้ทรงปฏิบัติเป็นต้นแบบมาโดยตลอด ทั้งนี้ จึงได้เรียนเชิญคณะผู้บริหารและบุคคลจากวิชาชีพต่างๆ กว่า 70 ท่าน มาร่วมน้อมรำลึกถึงคำสอนของพ่อหลวง “70 ปี แห่งความทรงจำ” ที่จะนำมายึดปฎิบัติสืบต่อไปเพื่อการดำเนินชีวิตในทางถูกต้องและมีความสุข ขอเชิญติดตามคลิปทางเพจ Guy Laroche BTNC C&D GSP Lofficiel BTNC Jousse Paris
ดร.ศิรินา โชควัฒนา ปวโรฬารวิทยา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย
“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นปรัชญาของโลก“
ในปีที่ประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 ท่านพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงคือ ความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน การดำเนินชีวิต ทั้งส่วนตัวและธุรกิจ ก็ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยมองว่าทุกคนต้องรู้จักตัวตนของตัวเองว่าพอหรือยัง พอระดับไหน และต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ปรัชญาเศรษกิจพอเพียงที่พระราชทานให้คนไทยนี้ นับว่าเป็นปรัชญาของโลกที่สามารถใช้ได้ทุกชาติ ทุกศาสนา และใช้ได้ตลอดกาล
ปณิธาน ปวโรฬารวิทยา ประธานกรรมการ บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน)
“พระองค์ท่านสอนว่า…ต้องรู้จักให้ รับ และส่งต่อความดีสู่สังคม“
ตอนแรกที่มีเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ยังไม่เข้าใจ แต่หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอีโค่ ซิสเท็ม คือการสร้างวงจรของการมีชีวิตอยู่ โดยมีการให้ การรับ การแบ่ง การดึงกลับและการผลักออก อย่างนี้คือหลักการที่ดี ไม่ใช่แค่เอื้อให้ธุรกิจของเราเจริญก้าวหน้าไป แต่จะเอื้อให้สังคมเติบโตไปพร้อมธุรกิจ และให้ทุกคนมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง รู้จักให้ รู้จักรับ รู้จักส่งต่อความดีไปสู่สังคมด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ผมจะนำไปใช้กับครอบครัว ธุรกิจและสังคมที่เราอยู่
ประวรา เอครพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน)
“เราจะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก เหมือนที่พระองค์ท่านเป็นต้นแบบที่ดีแก่ชาวไทย“
ที่ประทับใจที่สุดเป็นเรื่องการเป็นผู้นำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ท่านแสดงให้เห็นคือท่านรับผิดชอบต่อประชาชนของพระองค์ แนวทางที่นำมาใช้คือการรับผิดชอบต่อองค์กร และครอบครัว เรากำลังเป็นต้นแบบให้กับลูกในเรื่องของความรับผิดชอบและการแบ่งปัน การแบ่งปันเป็นเรื่องสำคัญ ทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลคนอื่นเช่นเดียวกันกับที่ในหลวงทรงดูแลประชาชน
ปัทมวดี เสนาณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
“เราเห็นพระองค์ท่านดูแลสมเด็จย่า ทำให้เราเข้าใจถึงความกตัญญูต่อบุพการี“
ตั้งแต่เด็กจนโตที่ได้เห็นพระราชกรณียกิจต่างๆ ทุกครั้งที่เห็น ตอนที่สมเด็จย่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ พร้อมกับสมเด็จพระพี่นาง ก็จะเห็นในหลวง รัชกาลที่ 9 ท่านไปดูแลแม่ ดูแลพี่สาวตลอด ทราบว่าท่านจะไปเสวยอาหารเย็นด้วยทุกวัน หรือเกือบแทบทุกมื้อเลยด้วยซ้ำ ส่วนตัวที่บ้านปลูกฝังเรื่องความกตัญญูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราก็สอนมาถึงรุ่นลูกเลยว่า ความกตัญญูนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
อรชุมา ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซทูโอ ไฮโดร จำกัด (H2O HYDRO CO;LTD)
“เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก ทั้งยังสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้“
เรื่องที่ทุกคนคุ้นเคยอยู่แล้วคือเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับตัวเฟย์เองก็นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้หลายๆ เรื่องอย่างการทำงาน การบริหาร ไลฟ์สไตล์ที่เราปฏิบัติอยู่ในชีวิตประชำวัน สามารถนำมาใช้ในครอบครัว โดยพยามยามจะรักษาสมดุลในการใช้ชีวิต ทำหน้าที่ต่อครอบครัวอย่างเต็มที่ และเต็มที่ในหน้าที่ของการทำงานเช่นกัน พอเพียงกับทุกสิ่งที่เรามี เฟย์ว่าการใช้ชีวิตแบบนี้มีความสุขค่ะ และจะมีความสุขมากขึ้นถ้าเรานำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตของเราเองได้ทุกคน
เสาวณีย์ อภิวันทน์โอภาส ธุรกิจส่วนตัว
“พระองค์ท่านทรงเป็นแบบในเรื่องของความซื่อสัตย์“
อย่างแรกตั้งแต่เด็กจนโตก็จะเห็นข่าวพระราชกรณียกิจของท่านมาตลอด เรารู้ว่าพระองค์ยึดถือเรื่องความซื่อสัตย์เป็นหลัก ครั้งหนึ่งเคยอ่านหนังสือว่าท่านทรงแข่งกีฬาเรือใบ และแล่นไปโดนทุ่น ซึ่งมันผิดกติกา ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่มีใครสังเกตเห็นก็ตาม พระองค์ท่านทรงกลับมาที่ชายฝั่ง บอกว่าเราแพ้แล้ว เพราะว่าเราฟาวล์ อันนี้จำได้ติดใจเลย และรู้ว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญต่อตัวเองและผู้อื่นที่สุด โดยส่วนตัวมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เราสัญญาอะไรไว้กับลูกค้าก็ต้องทำอย่างนั้น ความซื่อสัตย์สำคัญมากในการทำธุรกิจ ถ้าเราผิดพลาด ไม่มีใครให้โอกาสเราบ่อยๆ
ตวงทิพย์ ณ นคร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สุทธิภาคย์ ออแกไนเซอร์ จำกัด
“เมื่อใดที่เรามีโอกาส เราจะตอบแทนคุณแผ่นดินเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน“
สมัยวัยเด็ก ที่บ้านจะให้ดูในหลวงในเรื่องของการทำความดี และการทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม พอเราโตขึ้นมา เราก็จะทราบว่าการทำความดีมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งความเพียร ความอดทนอดกลั้นและการใช้สติ เดียร์มีในหลวงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตลอดเวลา ทุกวันในการดำเนินชีวิตไม่ว่าสุข ทุกข์หรือมีปัญหา ก็จะทำให้เราก้าวผ่านปัญหานั้นไปได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ เดียร์ตั้งปณิธานในชีวิตว่า เมื่อไรที่มีโอกาสก็จะขอตอบแทนคุณแผ่นดินให้ได้ดีที่สุด
ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ ตัวแทนสาวไทยเข้าประกวด มิสเอิร์ธ 2013 และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2014
“คำพ่อสอน…ต้องทำงานด้วยความรักและสร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง“
ชีวิตชั้นไม่เคยทำงานสักวัน ทุกวันคือวันสนุกหมด นี่คือหลักคำสอนที่นำมาใช้ในการดำเนินชีวิตค่ะ การคิดบวกให้มาก สนุกกับชีวิต ทำงานด้วยความรักและพยายามสร้างความสุขให้ตนเองรวมถึงคนรอบข้าง นำคำสอนเหล่านี้มาเป็นเครื่องเตือนใจเสมอทุกครั้งที่ทำงาน ไม่ว่าจะท้อจะเหนื่อย เราจะมีสติในการทำงาน
ณัฐฐิรา จิวระโมไนย์กุล นักแสดง
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง”
คำสอนของท่านที่เรานำมาปฏิบัติได้จริงและเข้าถึงได้มากที่สุด คือ การที่ท่านทรงเป็นผู้ให้ การให้โดยไม่หวังอะไรตอบแทนมาตลอดชีวิตการทรงงานของท่าน ส่วนตัวเองมารับรู้ตอนโตว่าพระองค์ท่านได้ทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง เราเลยรู้สึกว่าเรารักพระองค์ รักมาตั้งแต่เราเข้าใจว่าทำไมท่านเป็นคนดี พอเพียง อยู่ได้ด้วยพระองค์เอง เรารู้จักการให้ มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้ถ้ามีความเข้าใจ เริ่มจากเรื่องเล็กๆ ก่อน ให้ตามกำลังที่เราทำได้ การให้โดยไม่คาดหวัง จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเอิมใจและภูมิใจ
วินรัตน์ ศันสนะเกียรติ พิธีกร
“เราจะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและจะเล่าเรื่องของพระองค์ให้ลูกหลานฟัง”
หากเป็นคำสอนของท่านจะนึกถึงความเพียรค่ะ เราทุกคนต้องมีความเพียรไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งเตยก็นำมาสอนลูกต่อ ไม่ว่าเรื่องการเรียน เล่นกีฬา เราต้องหมั่นฝึกฝน นั่นจะทำให้เราไปสู่จุดมุ่งหมายได้ ตั้งแต่เตยเกิดมาก็จะเห็นพระองค์ท่านในข่าวพระราชสำนักที่เตยดูพร้อมกับคุณยายทุกวันโดยไม่ต้องมาเล่าเรื่องอะไรมากมาย เพราะพระราชกรณียกิจของท่านเป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่แล้ว มาถึงตอนนี้ที่เตยทำได้คือน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์และเล่าต่อให้ลูกฟัง เตยตั้งชื่อลูกว่านพ ที่แปลว่าเก้า เราสอนลูกมา 11 ปีว่าเค้าเป็นเด็กที่เกิดในรัชกาลที่ 9 เล่าว่าท่านทำอะไรให้กับคนไทยบ้างและทุกวันนี้ลูกรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาก นั่นคืออย่างหนึ่งสิ่งที่เตยทำสำเร็จแล้วค่ะ
พญ. ศุภวงษ์เดือน ทองจันทร์ แพทย์ประจำการ
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 สอนว่าให้เรานับถือความรู้ของผู้อื่นด้วยถึงจะประสบความสำเร็จ”
ขออันเชิญพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตรัสว่า เราเป็นนักเรียน เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าหากในวันใดข้างหน้าที่เราออกไปปฏิบัติ ให้ถือว่าเราเป็นนักเรียน ชาวบ้านและธรรมชาติเป็นครู สิ่งนี้ได้นำมาปรับใช้ในการทำงาน เนื่องด้วยดิฉันเป็นแพทย์ ถือว่าทุกคนที่มารักษานั้นเป็นครู อยากให้ทุกคนนำมาปรับใช้ตามพระบรมราโชวาท