34 บริษัทชั้นนำร่วมต่อต้านการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมให้คำมั่นปกป้องลูกค้าทั่วโลกอย่างเท่าเทียม
เหล่าบริษัทชั้นนำด้านการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตให้คำมั่นว่าจะต่อต้านการนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมปกป้องลูกค้าทั้งหมดโดยไม่
แบ่งเชื้อชาติ ประเทศ หรือแรงจูงใจในการก่อเหตุโจมตี
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทด้านเทคโนโลยีและการรักษาความปลอดภัยระดับโลกรวม 34 แห่งได้ลงนามในข้อตกลง Cybersecurity Tech Accord
โดยบริษัทกลุ่มใหญ่ที่สุดเห็นพ้องต้องกันที่จะปกป้องลูกค้าทุกคนทั่วโลกจากการโจมตีขององค์กรและประเทศต้นทางอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยบริษัททั้ง 34
แห่ง อาทิ ABB, Arm, Cisco, Facebook, HP, HPE, Microsoft Corp., Nokia, Oracle และ Trend Micro คือตัวแทนของผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อน
การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศในระดับโลก
Brad Smith ประธานของ Microsoft กล่าวว่า “การโจมตีที่รุนแรงหลายครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่สิ่ง
ที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งสามารถรับมือได้เพียงลำพัง แต่เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกัน ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เราก้าวไปสู่ขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพมาก
ยิ่งขึ้นในการทำงานร่วมกันและปกป้องลูกค้าทั่วโลก”
บริษัททั้ง 34 แห่งได้บรรลุหลักการสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
ยกระดับการป้องกัน
บริษัทเหล่านี้จะยกระดับการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยตระหนักว่าทุกคนสมควรได้รับการปกป้อง บริษัทเหล่านี้จึง
ให้คำมั่นว่าจะปกป้องลูกค้าทั้งหมดทั่วโลก โดยไม่เกี่ยงแรงจูงใจในการก่อเหตุโจมตีทางออนไลน์
ไม่โจมตี
บริษัทเหล่านี้จะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลใดก็ตามในการเปิดฉากโจมตีทางไซเบอร์ รวมทั้งต่อต้านการใช้ในทางที่ผิดหรือการแสวงหา
ผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ทั้งในส่วนของการพัฒนา การออกแบบ และการจำหน่ายเทคโนโลยีทุกขั้นตอน
เสริมสร้างขีดความสามารถ
บริษัทเหล่านี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักพัฒนา ผู้ประกอบธุรกิจ และบุคคลทั่วไปที่ใช้เทคโนโลยีของบริษัท เพื่อเพิ่มขีดความ
สามารถในการป้องกันตนเอง ซึ่งครอบคลุมถึงการร่วมกันกำหนดแนวทางการรักษาความปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆที่บริษัทสามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์
และบริการของตน
ดำเนินงานร่วมกัน
บริษัทเหล่านี้จะกระชับสายสัมพันธ์ที่มีอยู่เดิม พร้อมกับสร้างความร่วมมือครั้งใหม่ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการภายในอุตสาหกรรม
ภาคประชาสังคม และในหมู่นักวิจัยด้านความมั่นคง เพื่อยกระดับความร่วมมือทางเทคนิค ร่วมกันเปิดโปงช่องโหว่ แลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคาม ตลอดจนลดการ
โจมตีด้วยโค้ดอันตราย (Malicious Code) ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
บริษัทเหล่านี้อาจปฏิบัติตามหลักการบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่แล้ว หรืออาจปฏิบัติตามโดยไม่มีการประกาศต่อสาธารณชน อย่างไรก็ดี ข้อตกลงนี้
ถือเป็นการประกาศให้สาธารณชนรับรู้ถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนั้นยังเปิดกว้างในการพิจารณาผู้ร่วมลงนามรายใหม่ๆจากภาค
เอกชน โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่หรือมาจากอุตสาหกรรมใด ขอเพียงแค่เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานสูงในการรักษา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามหลักการของข้อตกลงอย่างเต็มใจ
Kevin Simzer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Trend Micro กล่าวว่า “เราเห็นผลกระทบของภัยคุกคามทางไซเบอร์ในโลกแห่งความเป็นจริงกัน
มาแล้ว ในฐานะอุตสาหกรรม เราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับอาชญากรไซเบอร์ และยับยั้งการโจมตีที่จะสร้างความเสียหายมากยิ่งขึ้นในอนาคต”
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ก็คือบรรดาธุรกิจและองค์กรทุกขนาด มีการคาดการณ์ว่าการโจมตีทางไซเบอร์จะสร้างความเสียหายทาง
เศรษฐกิจมากถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2565* โดยที่ผ่านมา การโจมตีทางไซเบอร์ได้ทำให้บริษัทขนาดเล็กต้องปิดตัวลง โรงพยาบาลต้องเลื่อนการผ่าตัด
ออกไป หน่วยงานรัฐต้องหยุดให้บริการ นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดความติดขัดและความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยอีกมากมาย
Carolyn Herzog ที่ปรึกษาทั่วไปของ Arm กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้จะช่วยปกป้องอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกว่า 1 ล้านล้านเครื่องที่คาดว่า
จะมีการใช้ใน 20 ปีข้างหน้า โดยอาศัยทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และแนวคิดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เพื่อร่วมกันวางรากฐานที่เชื่อถือได้ให้
กับผู้ใช้งานเทคโนโลยี ที่จะได้รับประโยชน์มหาศาลจากโลกที่มีความปลอดภัยในการเชื่อมต่อมากขึ้น”
บริษัทที่ร่วมลงนามในข้อตกลงนี้มีแผนที่จะจัดการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่างการประชุมด้านความปลอดภัย RSA Conference ที่ซาน
ฟรานซิสโก โดยจะเน้นไปที่การเสริมสร้างขีดความสามารถและการดำเนินงานร่วมกัน และในอนาคตอาจมีการร่วมกันพัฒนาแนวทางปฏิบัติหรือฟีเจอร์ใหม่ๆสำหรับ
ใช้ในวงกว้าง รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลและสร้างความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม เพื่อให้โลกออนไลน์เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจ
ทุกแห่งหนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการทำตามสัญญาและมอบเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคม
บริษัทที่ร่วมลงนามในข้อตกลง ประกอบด้วย
– ABB – Bitdefender – Cisco
– Arm – BT – Cloudflare
– Avast! – CA Technologies – DataStax
– Dell – HPE – SAP
– DocuSign – Intuit – Stripe
– Facebook – Juniper Networks – Symantec
– Fastly – LinkedIn – Telefonica
– FireEye – Microsoft – Tenable
– F-Secure – Nielsen – Trend Micro
– GitHub – Nokia – VMware
– Guardtime – Oracle
– HP Inc. – RSA
เกี่ยวกับข้อตกลง Cybersecurity Tech Accord
Cybersecurity Tech Accord เป็นข้อตกลงระหว่างบริษัท 34 แห่งทั่วโลก ที่ให้คำมั่นสัญญาต่อสาธารณชนว่าจะร่วมกันปกป้องและเสริมสร้างความ
แข็งแกร่งให้กับพลเมืองบนโลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เสถียรภาพ และความสามารถในการฟื้นตัวในโลกไซเบอร์ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.cybertechaccord.org
* ความเสียหายรวมตลอดระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปี 2560-2565 James Moar; Juniper Research: The Future of Cybercrime & Security:
Enterprise Threats & Mitigation 2017-2022 (April 25, 2017);
https://www.juniperresearch.com/researchstore/innovation-disruption/cybercrime-security/enterprise-threats-mitigation
วิดีโอ – https://www.youtube.com/watch?v=ZfCUXq4V6ZY