ไอวีแอลชี้ตลาด PTA-PET ปี 2562 เติบโตรับดีมานด์เคมีภัณฑ์ทั่วโลก พร้อมขยายฐาน PTA และ PET ในสหรัฐฯ
ไอวีแอลมั่นใจรายได้ปี 61 เติบโตตามคาดการณ์ สรุปยอดรายได้ 9 เดือน รวม 7,952 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นผลมาจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์เพื่อสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์และกลุ่มธุรกิจ HVA ด้วยการซื้อกิจการในต่างประเทศ อาทิ บราซิล อียิปต์ โปรตุเกส สหรัฐฯ อิสราเอล และสาธารณรัฐเช็ก เป็นต้น ตอกย้ำภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2562 ยังโตต่อเนื่องจากดีมานด์เคมีภัณฑ์ พร้อมตั้งเป้าลงทุนต่อเนื่องในโครงการคอร์ปัส คริสตี (Corpus Christi) ซึ่งจะกลายเป็นโรงงาน PTA – PET ที่ใหญ่ที่สุด และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า “ไอวีแอลมีความเหมาะสมอย่างมากในสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันด้วยการดำเนินงานกระจายตัวใน 30 ประเทศทั่วโลก รองรับตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และยังคงสามารถดำเนินธุรกิจอย่าง
มีเสถียรภาพ มีภูมิคุ้มกันแม้ในสภาวะที่การค้าระหว่างประเทศมีความผันผวน เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของกำไรและปริมาณการผลิตในปี 2561 และ 2562 เนื่องจากเอกลักษณ์ในการดำเนินธุรกิจและสินทรัพย์ที่ครอบคลุม
ทั่วโลกตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า”
นอกจากนี้ ไอวีแอลได้มีการเดินหน้าเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการในประเทศบราซิลและอียิปต์ ทำให้ไอวีแอลมีกำลังการผลิต PET เพิ่มขึ้นจำนวน 1.1 ล้านตัน / การเข้าซื้อกิจการในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศโปรตุเกส ทำให้กำลังการผลิตของโรงงาน PTA เพิ่มขึ้นจำนวน 1.1 ล้านตัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA จากการเข้าซื้อกิจการบริษัท Kordarna ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และบริษัท Avgol ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรในปี 2562
สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมในปี 2562 นั้น ไอวีแอลคาดว่า ภาพรวมเศรษฐกิจยังส่งผลบวกอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยความต้องการเคมีภัณฑ์ รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังเติบโตได้ดี อีกทั้งโครงการลงทุนคอร์ปัส คริสตี (Corpus Christi) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนในสหรัฐฯ คาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 2563 ซึ่งมั่นใจว่า เมื่อขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จ โรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงาน PTA – PET ที่ใหญ่ที่สุด และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ ไอวีแอลยังเชื่อมั่นในการคาดการณ์จากช่วงกลางปีที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ จะมีกำไรหลักรวมก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (core EBITDA) อยู่ที่ 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562 หรือเพิ่มขึ้น 74% จากปี 2560
นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับโลกแล้ว ไอวีแอลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยไอวีแอลได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Index) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงค์ของไอวีแอลที่ยึดมั่นในการเป็นพลเมืองที่ดี และตอบสนองต่อประเด็นทางสังคม เนื่องจากธุรกิจหลัก
ของไอวีแอล คือ การผลิตเม็ดพลาสติก PET ที่สามารถรีไซเคิลได้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการลดปริมาณของเสียประเภทพลาสติก PET
ที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบเพื่อกำจัดและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าผ่านการริเริ่มการรีไซเคิลและการนำของเสียไปผ่านกระบวนการ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติ (The UN Sustainable Development Goals) เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและการผลิตอย่างยั่งยืน (SDG 12) ผ่านโครงการรับผิดชอบทางสังคมของไอวีแอลต่างๆ อาทิ โครงการ RECO Young Designer Competition และโครงการทางสังคมอื่นๆ ซึ่งเป็นโครงการด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่กลุ่มบริษัทดำเนินการต่อเนื่องเพื่อสร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับสังคมและผู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มบริษัท
จะเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ในการใช้เม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) และเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลให้มีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านการกิจกรรมร่วมกับสังคมและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป