ไวไว ปลุกแคมเปญ “ทำวันนี้..ทำไวไว” จัดประกวดหนังสั้น “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง”

0
510
image_pdfimage_printPrint

ไวไว ปลุกแคมเปญ “ทำวันนี้..ทำไวไว” สร้างพื้นที่คนมีฝันมาโชว์ของ
จัดประกวดหนังสั้น “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง”
ให้นักศึกษา ม.รังสิต ชิงเงินรางวัลและเงินสนับสนุนกว่า รวมกว่า 250,000 บาท

        ไวไว สานต่อวลีเด็ด “ทำวันนี้..ทำไวไว” ต่อยอดคนมีฝัน จัดโครงการประกวดหนังสั้น “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง” ขีดพื้นที่กระตุ้นฝัน สร้างประสบการณ์ จากการลงมือปฏิบัติจริง ให้นักศึกษาวิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีพื้นที่แสดงผลงานและศักยภาพ สร้างความพร้อมในชีวิตโลกยุคใหม่ ยุคที่ความฝันจะสำเร็จได้จากการลงมือทำ..เดี๋ยวนี้และทันที ชิงเงินรางวัลและเงินสนับสนุนกว่า 250,000 บาท พร้อมได้ผู้ชนะ ด้วยผลงานสุดครีเอท เรื่อง “Lens เลือนราง…ไม่จางหาย” จากทีม CHUMMY

        นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ไวไว” เผยถึงวัตถุประสงค์ของโครงการในครั้งนี้ว่า เมื่อปี 62 ที่ผ่านมา ไวไว ได้สร้างแคมเปญ Music Marketing โดยใช้เนื้อหาของเพลง “ทำวันนี้..ทำไวไว” เป็นแมสเสจปลุกให้ เยาวชน, ประชาชน, นักเรียน, นักศึกษา ในสังคม รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าของไวไว ให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือสานต่อความฝันอย่างตั้งใจ โดยไม่ต้องรอเวลา และตลอดระยะเวลา 1 ปีหลังจากแมสเสจนี้ถูกส่งไป ไวไวก็ได้เห็นความสำเร็จที่มีแคมเปญนี้เป็นแรงบันดาลใจมากมาย ทั้งด้านกีฬาและด้านการศึกษา โดยความซัคเซสที่เกิดขึ้น ทำให้ไวไว ตัดสินใจสานต่อแคมเปญต่อเนื่อง ในปี 63 นี้ ด้วยการจัดโครงการ “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง” เป็นจุดเริ่มต้นของการลงมือทำ ตามสโลแกน ทำวันนี้..ทำไวไว

        โครงการ “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง” เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา ไวไว และมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ต่างก็ตระหนักถึงคุณค่าในการสร้างฝันด้วยการลงมือทำ จึงร่วมกันสร้างโครงการประกวดที่จะเป็นตัวกลางกระตุ้นให้เยาวชนและสังคม ได้เข้าใจว่า “ไม่มีทางลัดใดมุ่งสู่ความสำเร็จได้ดีเท่าการเริ่มต้น” โดยไวไว จะเริ่มจัดการประกวดให้กับ นักศึกษาใน วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นแห่งแรก โดยไวไว มุ่งหวังให้นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ได้รับประสบการณ์ที่มีค่าจากการได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อทำให้นักศึกษากลายเป็นบัณฑิตที่มีประสบการณ์และเปี่ยมความสามารถ

        โดยหัวข้อหลักในการประกวดครั้งนี้ คือโจทย์ในการแสดงความสร้างสรรค์ผ่านการทำหนังสั้น ในธีม “ทำวันนี้..ทำไวไว” เพื่อให้เยาวชนได้มีพื้นที่แสดงศักยภาพในผลงานของตัวเอง และสร้างความพร้อมในการเตรียมตัวใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ ยุคที่ความฝันจะสำเร็จได้จากการลงมือทำ..เดี๋ยวนี้และทันที โดยการประกวดจะใช้เกณฑ์ตัดสินจาก ด้านเนื้อหา ที่ต้องตรงประเด็น, สามารถตีความเล่าเรื่องได้ตรงตามคอนเซปต์ และมีความดึงดูด, ด้านการเรียงลำดับและการเล่าเรื่อง, ด้านกระบวนการผลิต, ด้านการสื่อสารให้เข้าใจและใช้ภาษาได้เหมาะสม และที่สำคัญคือ ด้านความคิดสร้างสรรค์ เพื่อชิงเงินรางวัลไปสานต่อฝัน รวมมูลค่ากว่า 250,000 บาท โดยแบ่งเป็น เงินสนับสนุนทีมที่เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย ทีมละ 15,000 บาท รวม150,000 บาท เป็นทุนในการผลิตหนังสั้นตัดสินในรอบต่อไป โดยรอบสุดท้ายจะแบ่งเป็น รางวัลชนะเลิศ 50,000 บาท จำนวน 1 รางวัล , รางวัลชมเชยรางวัลละ 20,000 บาท จำนวน 2 รางวัล และโดรน DJI MAVIC MINI มูลค่า 12,000 บาท สำหรับรางวัล Popular vote จำนวน 1 รางวัล รางวัลรวมมูลค่าในรอบสุดท้ายกว่า 102,000 บาท

        นายยศสรัล ยังได้เผยถึงการเปลี่ยนแปลงของ ไวไว หลังจากได้สร้างแคมเปญ “ทำวันนี้..ทำไวไว” อีกว่า “การเปลี่ยนแปลงของไวไวในปีก่อน เรียกได้ว่าเรื่องราวมันซ้อนทับกับจุดมุ่งหมายของการประกวดครั้งนี้ เพราะหลังจากเราได้นำ แนวคิดลงมือทำทันที มาใช้ในการนำเสนอในรูปแบบของ Music Marketing ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ อย่างแรกเลยคือเราได้กลุ่มตลาดใหม่มากขึ้น และปัจจุบันเราได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่จากไอเดียใหม่ๆ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เราอยากให้เทียบให้เห็นว่า

“ชีวิตวัยรุ่นก็เหมือนเส้นบะหมี่นี่แหละ ต้องผ่านน้ำร้อนก่อนถึงจะสุก ชีวิตต้องผ่านปัญหา ผ่านอุปสรรคมากมาย เพราะสิ่งเหล่านี้จะสอนเรา จะมอบสิ่งใหม่ๆ ให้เรา ซึ่งเส้นบะหมี่ที่อร่อย มันต้องโดนลวกแล้วไม่อืด เหมือนการที่เราเจออุปสรรค เจอความยากลำบากแล้วเราไม่หยุด เราไม่ยอมแพ้ และยังคงมุ่งมั่นที่จะทำ ที่จะลองอะไรใหม่ๆ โดยไม่ให้เวลาเสียเปล่า”

ซึ่งผมก็หวังว่ารางวัลที่ไวไวได้รับจากการลงมือทำโดยไม่รอให้เวลาผ่านไป จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องๆ เยาวชนรุ่นใหม่ได้เห็น และลงมือทำตาม”

        สำหรับโครงการ “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง” ในครั้งนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากน้อง ๆ นักศึกษา ม.รังสิต อย่างดีเกินคาด โดยได้รับเกียรติจาก กูรูผู้คร่ำวอดในวงการมากมาย นอกจากนี้ยังได้ ภาวิน สุพันธวารักษ์ ผู้กำกับหนังโฆษณา มือหนึ่งของเมืองไทย ที่มีผลงานนับไม่ถ้วน ให้เกียรติจากมาร่วมเวิร์คช้อปแก่ผู้เข้าโครงการอีกด้วย

        ตลอดการทำโครงการเป็นไปอย่างเข้มข้น เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมีความหมาย จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ไวไวก็ได้สรุปทีมผู้ชนะในโครงการ “WAIWAI INSPIRATION FILM PROJECT พาฝันไปปั้นหนัง” ผ่านทาง Facebook Live: WAIWAI INSPIRATION PROJECT เพื่อหลีกเลี่ยงการชุมนุมตามมาตรการ Social Distancing ป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งรางวัลชมเชยอันดับที่ 2 และรางวัล Popular Vote ได้แก่ทีม Avengers จากผลงานเรื่อง “IG STORY” , รางวัลชมเชยอันที่ 1 ได้แก่ ทีม Satuboon Production จากผลงานเรื่อง “Find My Mind” และรางวัลชนะเลิศ ตกเป็นของ ทีม CHUMMY จากผลงานเรื่อง “Lens เลือนราง…ไม่จางหาย”

        “อย่างที่บอกว่าโครงการประกวดครั้งนี้คือการเปิดพื้นที่ให้นักศึกษารุ่นใหม่ จากมหาวิทยาลัยรังสิต ได้มีโอกาสมาปล่อยของ และเสริมประสบการณ์ให้ทุกคน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าน้อง ๆ มีศักยภาพมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามน้อง ๆ ไม่ควรลืมว่าพื้นที่ความสำเร็จเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในชีวิตเท่านั้น พอปฏิทินความสำเร็จวันนี้ถูกฉีกออกไป น้อง ๆ ก็ต้องออกตามหาประสบการณ์บทต่อไป เพราะชีวิตก็เหมือนกับบะหมี่ แค่มีเส้นดีอย่างเดียวมันไม่พอ บะหมี่จะอร่อยได้ต้องมีเครื่องปรุง และมันก็คือประสบการณ์ ที่จะปรุงแต่งชีวิตของเราให้มีรสชาติมากกว่าใคร” นายยศสรัล กล่าวทิ้งท้ายถึงผู้เข้าประกวด

        โครงการดีๆ จากไวไว จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ใครที่สนใจร่วมตามฝันกับโครงการครั้งต่อไปของไวไว สามารถกดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมดี ๆ จากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว” ได้ทาง Facebook: waiwaiinstantnoodle, Instagram: waiwai_instantnoodle , www.waiwai.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด โทร. 02 – 431 – 1786 เพื่อไม่พลาดทุกข่าวสารของไวไวแบบ..เดี๋ยวนี้และทันที

*(ผลิตภัณฑ์มีปริมาณโซเดียมที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ดูแลสุขภาพอย่างเคร่งครัดไร้กังวลเรื่องการควบคุมโซเดียม)