ไทยประกาศความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จัดแสดงอัตลักษณ์ของโลกมุสลิม “งานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่ 2557”

0
325
image_pdfimage_printPrint

ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม สำหรับงานแสดงอัตลักษณ์ของโลกมุสลิม ในงาน “แสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่ 2557” หรือ Chiang Mai Halal International Fair (CHIF 2014) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแสดงศักยภาพ และความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์ และบริการฮาลาลของประเทศไทย และอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนบนได้ต่อไป โดยมีบูทกว่า 213 ร้านค้าจาก 12 ประเทศร่วมออกงาน พร้อมได้รับการตอบรับมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 4 วันอย่างคึกคัก

 Pic พิธีเปิดงาน_CHIF2014 (ภาพหมู่)

ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แต่ละปีประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสู่ต่างประเทศทั่วโลกประมาณ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เกือบร้อยละ 20 หรือ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอาหารประเภทปลอดสุกรและสุราซึ่งอาจนับเป็นอาหารฮาลาลเพื่อการบริโภคของมุสลิมส่งเข้าสู่กลุ่มประเทศมุสลิม 57 ประเทศที่เป็นสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลามส่งผลให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ฮาลาลใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก หากประสงค์จะขึ้นแท่นสู่อันดับ 1 ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมสร้างตราสัญลักษณ์ฮาลาลให้เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก

 

งาน “แสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่ 2557” หรือ Chiang Mai Halal International Fair (CHIF 2014) จัดโดย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจาจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหน่วยงานร่วมจัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่, ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายมหาวิทยาลัยในจังหวัดภาคเหนือ และองค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล ขยายจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากองค์กรศาสนาอิสลามอย่างถูกต้อง ช่วยสร้างโอกาสและช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งช่วยสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรศาสนา เกิดกระบวนการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้างคุณภาพฮาลาลในพื้นที่ภาคเหนือให้เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค โดยมุ่งหวังที่จะผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมฮาลาล และให้ภาคเหนือเป็นอีก 1 ในศูนย์กลางการกระจายผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลในระดับอนุภูมิภาคต่อไป

งานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติครั้งนี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลที่เป็นไปตามศาสนบัญญัติอิสลาม มีการนำเสนออัตลักษณ์ของโลกมุสลิมให้เป็นที่ปรากฎ ในงานมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมุสลิม ผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลที่นำเสนอมาจากในประเทศไทยเอง และจากกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมไปถึงกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และเครือข่ายประเทศในอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) มาเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยกิจกรรมในงานประกอบไปด้วย การออกบูธแสดงและจำหน่ายสินค้า และบริการฮาลาลในประเทศไทย และจากกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมถึงกลุ่ม GMS และ BIMSTEC จำนวนกว่า 213 คูหา, การจัดนิทรรศการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นิทรรศการด้านวัฒนธรรมจาก Restu Foundation ประเทศมาเลเซีย, นิทรรศการความเป็นมามุสลิมในจังหวัดเชียงใหม่, นิทรรศการการรับรองฮาลาลตามแนวทางศาสนารับรองวิทยาศาสตร์รองรับ และผลิตภัณฑ์ฮาลาล ของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรม ด้านอาหาร เครื่องแต่งกาย การแสดงศิลปะดนตรี และกิจกรรมบันเทิง อาทิ บุหงารำไป, ตารีกีปัส, ตารีปายง และการแสดงดิเกร์ฮูลู เป็นต้น

 

ในส่วนกิจการการจับคู่ธุรกิจฮาลาล (Business Matching) มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทย กับนักธุรกิจจากต่างประเทศ ประกอบด้วย ประเทศมุสลิมในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และบรูไน ประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้าโขง (GMS) และอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) อาทิ ประเทศจีน (ตอนใต้), เมียนมาร์, สปป.ลาว, กัมพูชา, อินเดีย และบังคลาเทศ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ได้แก่ อิหร่าน ปากีสถานและตุรกี รวมทั้งมีการจัดอบรมหลักสูตร “พ่อครัวฮาลาล” และการสัมมนาของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศอีกด้วย ดร.วินัย ดะห์ลัน กล่าวปิดท้าย