“โฮมโปร” ยกระดับสู่ความเป็นผู้นำสมบูรณ์แบบ ปรับนโยบายด้านสินค้าเน้นความทันสมัย และสร้างแรงบันดาลใจมากขึ้น ประเดิมกับกลุ่มห้องน้ำและกระเบื้อง เปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุด 9 คอลเลคชั่นลงตลาด พร้อมเพิ่มความสะดวกด้วยทีมช่างคุณภาพHome Service ชูสาขาเมกาบางนาเป็น Flagship Store จัดโชว์โมเดลรูมสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดให้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.directtoshop.com และCall Center 02-831-6000 ปีหน้าเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 8 แห่ง ด้วยงบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พัฒนาสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านสมัยใหม่อย่างครบวงจรในประเทศไทย ทั้งในด้านของยอดขาย และจำนวนสาขาที่มีมากที่สุด ซึ่งในโอกาสที่เข้าสู่ปีที่ 17 บริษัทฯ ต้องการจะพัฒนาความแข็งแกร่งให้มากขึ้น โดยการปรับนโยบายในเรื่องสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการยอมรับในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งาน คุณภาพ และความคุ้มค่า มาเน้นเพิ่มเติมในส่วนของความทันสมัย และการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
“การปรับนโยบายในครั้งนี้ จะผลักดันให้โฮมโปร เป็นผู้นำในธุรกิจนี้อย่างสมบูรณ์แบบ จากที่เรามีสาขาครอบคลุมมากที่สุด มีการบริการครบวงจรที่สุด เราจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น ทั้งการแนะนำสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ในทุกกลุ่มสินค้า รวมถึงการนำสินค้ามาทำ Show Case เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้า” นายณัฏฐ์กล่าวและว่า
การปรับนโยบายด้านสินค้าดังกล่าว บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการกับกลุ่มสินค้าห้องน้ำ และกระเบื้อง (Bath and Tile) เป็นอันดับแรก โดยทำการเปิดตัวคอลเลคชั่นวัสดุและอุปกรณ์ห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องพื้น-ผนัง สุขภัณฑ์ ก๊อก ฝักบัว แผ่นกันลื่น และส่วนประกอบต่าง ๆ ลงสู่ตลาดพร้อมกัน 9 คอลเลคชั่น พร้อมจัดทำแคตตาล็อกเพื่อให้ลูกค้าได้เกิดไอเดีย ในการสร้าง และปรับปรุงห้องน้ำ โดยสามารถสัมผัสกับสินค้าตัวจริงได้ตั้งแต่วันนี้ที่โฮมโปร และโฮมโปรพลัส ทุกสาขา
สินค้าคอลเลคชั่นใหม่ทั้ง 9 แบบ จะครอบคลุมทุกความต้องการทุกรูปแบบ ประกอบด้วย Minimal Bath ความเรียบง่ายในโทนสีขาวสะอาดตา Feminine Bath บรรยากาศอบอวนด้วยดอกไม้แสนหวาน Retro Bath โทนสีเขียวสดใส Country Bath โทนสีน้ำตาลแข็งแรงและหนักแน่น Colorful Bath หลากสีสันเพิ่มความสดใส Chic Bath ความลงตัวระหว่างสีขาวดำ Mix Bath การผสมผสานที่หลากหลายแต่ลงตัว Sport Bath เพื่อผู้ลงไหลในโลกกีฬา Girl Bath สีสันสดใสในวัยแรกรุ่น
“คอนเซปต์คอลเลคชั่นนี้ คือ ห้องน้ำขนาดเล็ก ที่การปรับเปลี่ยนไม่ต้องใช้งบประมาณมาก และก็สอดคล้องกับปัจจุบัน ซึ่งที่พักอาศัยเป็นประเภทคอนโดมิเนียมนั้นมาแรง ประการสำคัญก็คือ เราใช้สินค้า House Brand เป็นหัวหอกหลัก อาทิ สุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Moya กระเบื้อง TARA Tile หรืออุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Venesa ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน แต่ราคาย่อมเยาว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นดีไซน์เฉพาะโฮมโปรเท่านั้น ซึ่งเมื่อรวมกับสินค้าของพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้เราสามารถออกคอลเลคชั่นที่มีเฉพาะโฮมโปรเท่านั้น” นายณัฏฐ์กล่าวและว่า
นอกจากความพร้อมในส่วนของสินค้าแล้ว โฮมโปร ยังได้เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าด้วยการบริการจาก Home Service ตั้งแต่เริ่มต้นการออกแบบให้แก่ลูกค้าด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 3D พร้อมประเมินราคาวัสดุให้ทั้งหมด บริการจัดหาช่างทั้งการปรับโฉมห้องน้ำทั้งหมด หรือ แค่การปรับเปลี่ยนบางจุด อาทิ การเปลี่ยนสุขภัณฑ์ ที่มีราคาเรี่มต้นเพียง 500 บาทต่อจุด ซึ่งลูกค้าสามารถมั่นใจจากการรับประกันคุณภาพงาน และความรับผิดชอบไม่ทิ้งงาน ซึ่งทำให้โฮมโปรสามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจรทั้งสินค้าคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า การสร้างแรงบันดาลใจ และทีมช่างที่ทำงานให้เกิดขึ้นจริง
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้โฮมโปร สาขาเมกาบางนา เป็น Flagship Store ในการนำเสนอสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนในการจัดทำห้องน้ำโมเดลต้นแบบด้วยกันทั้งหมด 8 ห้อง 8 แบบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้า และจะมีการปรับเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในทุกกลุ่มสินค้า โดยลูกค้าสามารถสัมผัสของจริงได้ ณ โฮมโปร สาขากาบางนา พร้อมกันนั้น ลูกค้ายังสามารถขอรับแคตตาล็อก Bath & Tile ได้ที่โฮมโปร และโฮมโปร พลัสทุกสาขา หรือเข้าไปดูรายละเอียด หรือดาวน์โหลดแคตตาล็อก หรือลงทะเบียนรับเล่มแคตตาล็อกได้ที่ www.homepro.co.th
ตั้งแต่วันนี้ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ ยังให้ลูกค้าสามารถช้อปออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.directtoshop.com และCall Center 02-831-6000
การเปิดดำเนินการสาขาเมกาบางนา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถทำยอดขายได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับโพซิชั่นของสาขานี้ เราวางไว้ให้เป็นโมเดลที่ทันสมัยในรูปแบบ Your Home Store อยู่แล้ว เราจึงเลือกให้เป็น Flagship Store ในเรื่องนี้
“ตอนแรกตั้งเป้ายอดของปีนี้น่าจะโตอีก 15% แต่ว่ายอดขายของเราดีกว่าที่คาดไว้ คิดว่าสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 18% โดยส่วนของ Home Service ตัวเลขแต่ละปี สามารถทำยอดได้ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งแผนในปี 2556 เล็งเปิดอีก 8 สาขา อาทิ จันทบุรี , กาญจนบุรี และชุมพร ใช้งบประมาณ 4 – 4.5 พันล้านบาท และจะมีการปรับโฉมสาขาที่เขาใหญ่ประมาณ 40% เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น ซึ่งรวมการลงทุน และปรับโฉมสาขาต่าง ๆ จะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งต้องดูว่าแต่ละสาขามีการปรับปรุงมากน้อยเพียงใด แต่คงไม่ต่ำกว่าสาขาละ 50 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบัน สาขารังสิตเป็นสาขาทีต้องปรับโฉมมากที่สุด และยังเป็นสาขาที่ทำยอดขายได้มากที่สุด ประมาณ 130-150 ล้านบาทต่อเดือน เพราะเป็นจุดที่รองรับลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง” นายณัฏฐ์กล่าวทิ้งท้าย