“โวดาโฟน” เผยภาคธุรกิจเอเชียผงาดเป็นผู้นำของโลกด้านการใช้ IoT

0
229
image_pdfimage_printPrint

ภูมิภาคเอเชียนำ IoT มาประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง แซงหน้าทุกภูมิภาคทั่วโลก

โวดาโฟน (Vodafone) เผยรายงานฉบับล่าสุดที่บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจในเอเชียกำลังเป็นผู้นำของโลกด้านการประยุกต์ใช้ Internet of Things (IoT) โดยมีสัดส่วนบริษัทที่ใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพุ่งขึ้นถึง 200% จากปี 2556 มาแตะที่ระดับ 36% ในปี 2560

รายงาน “Vodafone IoT Barometer 2017/18” ดังกล่าว เป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจทั่วโลกเกี่ยวกับนวัตกรรมและการลงทุนใน IoT โดยข้อมูลสำคัญที่ค้นพบเผยให้เห็นว่า เอเชียเป็นผู้นำในการรับเอาอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาใช้ และที่สำคัญกว่านั้นคือ IoT ได้รับความนิยมไปทั่วโลกและกำลังถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง โดยรายงานเผยให้เห็นว่า

– 77% ของธุรกิจในเอเชียมองว่า IoT มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจของตน
– 88% ของผู้ตอบแบบสำรวจในเอเชียใช้โซลูชั่น IoT เพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
– กว่าครึ่งหนึ่ง (53%) ของวิสาหกิจในเอเชียระบุว่า IoT ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาด
– 42% ของธุรกิจในเอเชียมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากกว่า 1,000 เครื่อง และ 53% ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ธุรกิจในเอเชียได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนถึงอนาคตของ IoT ดังนี้

– 91% เชื่อว่า IoT จะมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจในวงกว้างในช่วง 5 ปีข้างหน้า
– 79% เชื่อว่าการใช้ IoT จะเพิ่มขึ้น ขณะที่ความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจะลดลงอย่างมาก
– 91% เชื่อว่าความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมจะก่อให้เกิดโซลูชั่น IoT ร่วมกัน
– 89% เชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) จะพบเห็นได้ทั่วไปภายในปี 2565

จัสติน เนลสัน ผู้อำนวยการฝ่าย IoT ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของโวดาโฟน เปิดเผยว่า “นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญของ IoT เพราะบรรดาธุรกิจในเอเชียต่างยอมรับว่า IoT เป็นองค์ประกอบหลักของธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต และความเชื่อมั่นใน IoT ทำให้ธุรกิจต่างๆ มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล”

รายงานยังระบุถึงองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการของธุรกิจยุคใหม่ ได้แก่ สถานะตลาด ประโยชน์ทางธุรกิจ การก้าวไปข้างหน้า และแนวโน้มเชิงบวกในอนาคต

นอกเหนือจากจำนวนการใช้ IoT ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ IoT ยังถูกนำไปใช้ในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย รายงานยังระบุถึงประโยชน์ที่ธุรกิจได้รับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลเจาะลึกทางธุรกิจที่เข้มข้นขึ้น ต้นทุนที่ลดลง และผลิตภาพที่ดีขึ้นของพนักงาน

การที่แบรนด์มีความโดดเด่นขึ้น (42%) และมีศักยภาพการแข่งขันในตลาดมากขึ้น (53%) ถือเป็นประโยชน์พื้นฐานที่ธุรกิจในเอเชียได้รับ เทียบกับ 35% ในทวีปอเมริกา และ 33% ในยุโรป ส่วนความสามารถในการทำรายได้จาก IoT ยังอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 53%

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจยังมีมุมมองบวกต่อการรักษาความปลอดภัย IoT โดยมองว่า “มอบความเชื่อมั่นให้แก่ธุรกิจในการลงทุนเพิ่มเติม” และไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน IoT ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ธุรกิจในเอเชียมีมุมมองเชิงบวกมากกว่าทั่วโลก โดยผู้ตอบสำรวจ 86% ยกให้ความปลอดภัยเป็น “ใบเบิกทาง” เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 79% ขณะที่ธุรกิจ 83% ระบุว่ามีทักษะเพียงพอในการจัดการความปลอดภัย IoT ทิ้งห่างยุโรปซึ่งอยู่ที่ 70% และทวีปอเมริกาที่ 65%

ในขณะที่โครงการ IoT มีสเกลที่ใหญ่ขึ้น เงื่อนไขการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็มากขึ้นตามไปด้วย โดยรายงานระบุว่าธุรกิจต้องการเทคโนโลยีที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการโทรศัพท์พื้นฐานไปจนถึงเครือข่าย LP-WAN ขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว โปรเจคที่มีสเกลงานใหญ่มักจะใช้การเชื่อมต่อ 4 รูปแบบด้วยกัน โดยการเชื่อมต่อผ่านดาต้าของมือถือและไวไฟได้รับความนิยมสูงสุด นอกจากนี้ เทคโนโลยีคลื่นลูกใหม่ เช่น Narrowband IoT (NB-IoT) ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดย 28% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจระบุว่ากำลังพิจารณา NB-IoT และ LP-WAN อื่นๆ เพื่อรองรับโครงการ IoT ใหม่ๆ

รายงานฉบับนี้มาจากการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถาม 1,278 คน ใน 13 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี สเปน แอฟริกาใต้ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

เกี่ยวกับ โวดาโฟน กรุ๊ป

โวดาโฟน กรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก และให้บริการที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการเสียง ข้อความ ดาต้า ไปจนถึงโทรศัพท์พื้นฐาน โวดาโฟน กรุ๊ป ให้บริการโทรศัพท์มือถือใน 26 ประเทศ ทั้งยังเป็นพันธมิตรกับเครือข่ายมือถือในอีก 49 ประเทศ และให้บริการบรอดแบนด์ประจำที่ใน 19 ประเทศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 โวดาโฟน กรุ๊ป มีลูกค้าโทรศัพท์มือถือ 523.5 ล้านราย และลูกค้าบรอดแบนด์ประจำที่ 18.5 ล้านราย ซึ่งรวมถึงลูกค้าในอินเดีย ตลอดจนลูกค้าทั้งหมดของบริษัทร่วมทุนและบริษัทในเครือโวดาโฟน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vodafone.com