เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันจัด “กิจกรรมการเสวนาสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย ครั้งที่ 2 / 2559” หรือ LSPs Meeting & Matching 2016 ขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องกับกิจกรรมเสวนาสร้างเครือข่ายและจับคู่ธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย ครั้งที่ 1 / 2559 ส่วนหนึ่งของ “โครงการส่งเสริมโลจิสติกส์การค้าและเตรียมความพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะตลาด CLMV” หนึ่งในโครงการนำร่องภายใต้การร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและธนาคารไทยพาณิชย์ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (2555-2560)
กิจกรรมดังกล่าวต่อยอดมากจากกิจกรรมครั้งที่ 1 ที่มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย ในส่วนของกิจกรรมครั้งที่ 2 เป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการขยายตัวของวงการการส่งออกไทย โดยเน้นเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างกลุ่มผู้ให้บริการโลจิสติกส์และกลุ่มผู้ส่งออก โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้พร้อมรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการ ควบคู่ไปกับการผลักดันประเทศไทยให้ใช้ประโยชน์จากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนเพิ่มอำนาจการต่อรองในเวทีการค้าโลก โดยจะเริ่มจากการสร้างความเป็นที่หนึ่งในตลาดโลจิสติกส์ระดับอาเซียนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม) โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สำคัญของประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญของตลาดโลจิสติกส์ และจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจสามารถก้าวสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย
กิจกรรมการเสวนาสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย ครั้งที่ 2 ได้รับการตอบรับจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์และผู้ประกอบการด้านการส่งออกเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่าร้อยห้าสิบท่านประกอบกับกิจกรรมต่าง ๆ และบรรยากาศของการจัดงานที่เอื้อให้เกิดการสานสร้างสัมพันธ์ทางธุรกิจ ทำให้เกิดการจับคู่สร้างพันธมิตรทางธุรกิจได้ไม่ต่ำว่า 55 คู่ นับเป็นสัญญาณที่ดีของวงการธุรกิจ
โลจิสติกส์ไทย ในส่วนของการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการท่านอื่นที่มีความถนัดแตกต่างกัน การสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจในลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพิจารณาเลือกบริษัทที่เหมาะสมกับกิจการของตนได้ โดยผ่านการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและความต้องการทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ สร้างความเข้มแข็งซึ่งกันและกัน ทั้งยังเป็นการเปิดตลาดโลจิสติกส์ไทยสู่ระดับโลกอีกด้วย นับว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจโลจิสติกส์โดยรวมของประเทศ ในการที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการณ์ให้เติบโตไปพร้อมกัน
